เราต้องเดินทุกวัน ตั้งแต่ตื่นนอนไปจนถึงเข้านอน และวันหนึ่งๆ เราต้องเดนิลงน้ำหนักบนขาทั้ง 2 ข้างของเราหลายชั่วโมง ข้อมูลจาก American Podiatric Medical Association รายงานว่า โดยเฉลี่ยมนุษย์เดินวันละ 8,000-10,000 ก้าว ซึ่งเท่ากับว่าตลอดชีวิตเราจะต้องเดินประมาณ 207,000 กิโลเมตร หรือเป็นระยะทางเท่ากับเส้นรอบวงของโลกถึง 4 รอบ การเดินของมนุษย์มีกลไกที่ซับซ้อนมาก ไม่ใช่เพียงแค่การก้าวเท้าไปข้างหน้า แต่ต้องอาศัยการทำงานของกล้ามเนื้อหลายมัด ศีรษะ ข้อกระดูกสันหลัง ข้อไหล่ ข้อสะโพก ข้อเข่า และข้อเท้า เพื่อให้ร่างกายทรงตัวอยู่ได้ วันนี้ มาสิ จึงหยิบยก 10 วิธีการเดิน ที่ถูกต้อง มาบอกต่อ เพื่อป้องกัน และแก้ไข โรคข้อเข่าเสื่อม กันครับ ไปดูกันเลย …
10 วิธีการเดิน แก้ โรคข้อเข่าเสื่อม
ยิ่งเดินมาก ยิ่งทำให้ ข้อเสื่อม จริงหรือ
ใครว่ายิ่งเดินมาก ยิ่งทำให้ข้อเสื่อม ต้องบอกเลยว่า ความเชื่อนี้เชยไปแล้วค่ะ จากงานวิจัยทางการแพทย์สมัยใหม่พบว่า การเดินหรือวิ่งอย่างถูกต้อง และต่อเนื่องจะช่วยป้องกันข้อเสื่อม ส่วนการไม่เดินไม่วิ่ง หรือขาดการออกกำลังกายกลับเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้อเสื่อม เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น
คำตอบคือ การเดินหรือวิ่งก่อให้เกิดแรงกดที่กระดูกอ่อนผิวข้อ ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายฟองน้ำคอยรับแรงกระแทกในข้อ แรงกดและปล่อยอย่างเป็นจังหวะจากการเดินและวิ่ง จะเป็นการเพิ่มการหมุนเวียนของน้ำหล่อเลี้ยงภายในข้อ
น้ำหล่อเลี้ยงภายในข้อมีความสำคัญ เพราะสารอาหารของเซลล์กระดูกอ่อนไม่มีเลือดมาเลี้ยง จึงได้รับสารอาหารและออกซิเจนจากน้ำหล่อเลี้ยงข้อเท่านั้น การเคลื่อนไหวข้อที่ทำให้เกิดแรงกดที่กระดูกอ่อนอย่างเหมาะสม และสม่ำเสมอ จึงเป็นการให้สารอาหารแก่กระดูกอ่อน กระตุ้นการสร้างและซ่อมส่วนที่สึกหรอ ช่วยลดความเสี่ยงข้อเสื่อมได้
วันนี้ มาสิ มีเคล็ด (ไม่) ลับของการเดินที่จะช่วยลดความเสื่อม และป้องกันการบาดเจ็บของข้อเข่า และกระดูกสันหลังมาฝากครับ
1.ปรับท่าเดินให้ถูกต้อง เพราะท่าเดินที่ถูกต้องจะช่วยให้บุคลิกดีขึ้นและดูสง่างาม โดย
• ตามองตรง ไม่ก้มศีรษะ เพราะการก้มศีรษะจะไปเพิ่มการลงน้ำหนักที่กระดูกสันหลังบริเวณคอและหลัง ทำให้มีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ และหลังตามมาได้
• ไม่เกร็งระหว่างเดิน ผ่อนคลายตั้งแต่มือ ข้อนิ้วมือ อาจจะงอข้อศอกเล็กน้อย และก้าวเท้าให้เหมาะสม ไม่ยาว ไม่สั้นจนเกินไป จะลดอาการปวดเกร็งของเข่า และกล้ามเนื้อต้นขาได้
• ขณะที่เดินให้ลงน้ำหนักที่ส้นเท้าก่อน ตามมาด้วยเหยียบเท้าให้เต็มฝ่าเท้า ส่วนเท้าอีกข้างให้ยกส้นเท้าขึ้นก่อนเช่นกัน จะเป็นการช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าแข็ง
2.เลือกรองเท้าให้เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องเดินไกลๆ ควรเลือกรองเท้าหุ้งส้นที่สวมสบาย โดยควรลองสวมรองเท้าเดินก่อนที่จะเดินทางไกล
3.หลีกเลี่ยงการสวมรองเท้าส้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสวมรองเท้าที่ส้นสูงเกิน 1 นิ้วครึ่งเพราะเมื่อสวมส้นสูงจะทำให้หลังงอ และมีการโน้มตัวไปด้านหน้า ร่างกายจึงพยายามรักษาสมดุล้ดวยการต้าน หรือเกร็งไม่ให้ลำตัวและแผ่นหลังเอนไปข้างหน้ามากเกินไป ส่งผลให้แนวกระดูกสันหลังช่วงล่างแอ่นมากกว่าปกติ ซึ่งจะนำมาสู่อาการปวดหลัง หากมีพฤติกรรมนี้เป็นเวลานานๆ ก็จะทำให้กระดูกเคลื่อนไปกดทับเส้นประสาทได้
4.แขม่วพุงหรือแขม่วท้องเวลาเดิน เป็นการฝึกบริหารกล้ามเนื้อหลังมัดลึก ทำได้ดังนี้คือ
• ขั้นที่ 1 หายใจเข้าและออกให้สุด จำความรู้สึกไว้ว่าการหายใจเข้าและออกแบบลึกสุดๆ คิดเป็นการหายใจแบบ 100 เปอร์เซ็นต์
• ขั้นที่ 2 หายใจเข้าประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ แขม่วท้องค้างไว้ นับ 1-10 แล้วหายใจออก คลายหน้าท้อง โดยขณะเกร็งหรือแขม่ว ให้ผ่อนคลายในระดับที่สามารถพูดคุยโต้ตอบกับผู้อื่นได้
การแขม่วพุงยังมีประโยชน์อีกมากมาย เช่น เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว ลดแรงกระทำ และช่วยกระจายแรงกระทำต่อกระดูกสันหลัง เพิ่มความมั่นคงให้กระดูกสันหลัง ป้องกันการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุบริเวรหลังส่วนล่าง ทำให้ประสิทธิภาพการหายใจดีขึ้น กระชับหน้าท้อง ทำให้หน้าทอ้งแบนราบ บุคลิกภาพดี
5.ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ คนที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น 10 กิโลกรัม จะมีแรงกดต่อข้อเข่าเพิ่มขึ้น 40 กิโลกรัม หรือ 4 เท่าของน้ำหนักตัวทุกๆ ย่างก้าวที่เดิน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงการเกิดอาการปวดจากโรคข้อเข่าเสื่อม โดยน้ำหนักตัวที่เหมาะสมสำหรับชาวไทย คือ ค่าดัชนีมวลกาย ระหว่งา 19-25 กิโลกรัมต่อตารางเมตร
6.ไม่ควรหิ้วหรือถือของหนัก โดยเฉพาะของที่มีน้ำหนักมากกว่า 20 กิโลกรัม เพราะถึงแม้ว่าน้ำหนักตัวจะไม่มาก แต่ดันหิ้วของหนักมาก โดยเฉพาะกระเป๋าถือของผู้หญิง ก็จะเพิ่มแรงกดต่อกระดูกเช่นกัน
7.หมั่นบริหารกล้ามเนื้อต้นขา ด้วยการเหยียดเข่าให้ตรงและเกร็งค้างไว้ครั้งละ 5 วินาที ประมาณวันละ 10-20 ครั้ง หรืออาจเข้ายิมเล่นเวต เพื่อเพิ่มกำลังกล้มเนื้อต้นขาด้านหน้า และด้านหลัง สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีสะโพกกว้าง ซึ่งมีแนวโน้มเกิดปัญหาปวดเข่าได้ง่าย การออกกำลังกายด้วยวิธีดังกล่าว จะสร้างกล้ามเนื้อให้ช่วยรั้งกระดูกสะบ้าเข้าด้านใน เพื่อลดปัญหาปวดเข่าในระยะยาว
8.หลีกเลี่ยงการขึ้น-ลงบันไดบ่อยเกินไป เช่น เดินขึ้น-ลง บ้าน 3 ชั้น มากกว่าวันละ 5 ครั้ง ควรวางแผนการหยิบของใช้ให้ดีเพื่อหลีกเลี่ยงการเดินขึ้น-ลง
9.หลีกเลี่ยงการยืนพักขาลงน้ำหนักไปที่ขาข้างเดียว การยืนที่ถูกต้อง ควรลงน้ำหนักที่ขาทั้ง 2 ข้างเท่าๆ กัน โดยยืนแยกขาให้กว้างเท่าช่วงสะโพก จึงจะเกิดความสมดุลของโครงสร้างร่างกาย
10.เป็นคนช่างสังเกต โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการเจ็บปวดหลังการเดิน ควรสังเกตว่าเรามีอาการเจ็บตรงไหน เพื่อตรวจสอบว่า ตรงไหนที่เราอาจจะมีปัญหา จะได้รีบแก้ไข ก่อนที่ปัญหาจะลุกลามจนแก้ไขไม่ได้
การเดินเป็นการออกกำลังกายที่ง่าย ทำได้ทุกเวลา โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แนะนำให้เดินอย่างน้อยวันละ 10,000 ก้าว หรือเดินอย่างน้อยวันละ 30 นาที สะสมให้ได้สัปดาห์ละ 150 นาที
…………………………………………………..
อย่างไรก็ดีการรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอก็ยังคงเป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญตลอดทั้งปี และแน่นอนว่า หากเจ็บไข้ได้ป่วยถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลขึ้นมา ก็คงเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ ไหนจะค่ารักษาพยาบาล ค่ายา ค่าหมอ ค่าห้องพักผู้ป่วย และค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้ ประกันสุขภาพ เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตมากขึ้น แล้ว ประกันสุขภาพ จำเป็นกับเราอย่างไร ให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง ตาม masii ไปหาคำตอบกันเลยครับ
ประกันสุขภาพ คือ การทำประกันภัยที่ทางบริษัทประกันจะจ่ายเงินชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เมื่อผู้ที่ทำประกันสุขภาพได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยจากโรคภัยต่างๆ จนเป็นเหตุให้ต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล
ประกันสุขภาพ คุ้มครองอะไรบ้าง
สำหรับ ประกันสุขภาพ จะคุ้มครองเมื่อคุณได้เข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาล อันมีสาเหตุมาจากการเจ็บป่วย หรือได้รับอุบัติเหตุ โดยบริษัทประกันจะชดเชยค่าใช้จ่ายทั้งหมด 7 อย่าง ดังนี้
- ค่าห้องพักในโรงพยาบาล ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล ค่าบริการอื่นๆ รวมถึงค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน จากการเกิดอุบัติเหตุ
- ค่าใช้จ่ายจากการผ่าตัด และค่าที่ปรึกษาทางการแพทย์
- ค่าใช้จ่ายที่ได้รับการดูแลจากแพทย์ค่าใช้จ่ายในการรักษาฟัน
- ค่าใช้จ่ายกรณีคลอดบุตร
- ค่าใช้จ่ายเมื่อรับรักษาที่คลินิก หน่วยพยาบาล หรือส่วนของผู้ป่วยนอก
- ค่าบริการเมื่อให้แพทย์และพยาบาลพิเศษมาดูแล
- ค่าชดเชยระหว่างต้องนอนโรงพยาบาล (กรณีเสียรายได้)
ข้อดีของการซื้อประกันสุขภาพ
-
ช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงิน
การซื้อประกันสุขภาพ นั้นเหมือนการออมเงินไว้ล่วงหน้าเพื่อใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลในอนาคต ซึ่งทำให้เราอุ่นใจ หากเจ็บไข้ได้ป่วยก็ยังได้รับเงินคุ้มครองในส่วนของค่ารักษาพยาบาล ไม่ว่าจะเจ็บป่วยเล็กน้อย หรือเป็นโรคร้ายแรง การมีประกันสุขภาพช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี
-
ได้รับการดูแลอย่างดี
ผู้ที่ทำประกันสุขภาพ จะได้รับการดูแลเอาใจใส่จากทางโรงพยาบาลเป็นอย่างดี เพราะการมีประกันสุขภาพ เหมือนเป็นหลักประกันว่าค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการรักษาพยาบาล สามารถเบิกเคลมกับบริษัทประกันได้นั่นเอง
-
มีทางเลือกในการเข้ารับรักษา
ส่วนใหญ่แล้ว โรงพยาบาลในเครือประกันสุขภาพจะมีอยู่ทั่วประเทศ ทั้งโรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลรัฐบาล ช่วยให้มีทางเลือกในการรักษาที่มากกว่าการใช้สิทธิประกันสังคม ที่ต้องเจาะจงเฉพาะโรงพยาบาลใดโรงพยาบาลหนึ่งเท่านั้น
-
ใช้ลดหย่อนภาษีได้
นอกจากนี้ เบี้ยประกันสุขภาพ ยังสามารถนำมาลดหย่อนภาษีกันได้อีกด้วย ไม่ว่าจะซื้อประกันสุขภาพให้ตัวเอง หรือซื้อประกันสุขภาพให้คุณพ่อคุณแม่ โดยเงื่อนไขในการลดหย่อนภาษีขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของประกันนั้นๆ
ต้องบอกเลยว่า ประกันสุขภาพ เป็นประกันที่สำคัญและจำเป็นกับเราและคนในครอบครัวมากจริงๆ ไม่เพียงแต่จะช่วยแบ่งเบาภาระการเงินแล้ว ยังช่วยให้เราได้รับการบริการที่ดี ที่สำคัญยังนำมา ลดหย่อนภาษี ได้อีกด้วย หากใครสนใจ ซื้อประกันสุขภาพ สามารถ คลิกที่นี่ เพื่อ ซื้อประกันสุขภาพ กับ masii ได้ง่ายๆ มอบ ประกันสุขภาพ หลักประกันสุขภาพดีๆ แด่ผู้คนอันเป็นที่รัก ของขวัญสุดพิเศษที่แสดงถึงความรักจากใจ ให้ มาสิ ได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบของขวัญแห่งความรักนี้กับคุณๆ ทุกท่านนะครับ …
สนใจ ซื้อประกันสุขภาพ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
หากใครที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถโทรสอบถามได้ที่ 02 710 3100 หรือ แอดไลน์ @masii เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จาก มาสิบล็อก เกี่ยวกับประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ประกันรถยนต์ ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ประกันภัยโดรน ผลิตภัณฑ์ประกันภัยอื่นๆ รวมถึง ผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำ
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “ แผนประกันที่น่าสนใจ ”
- รวม จุดตรวจATKฟรี ! เข้าตรวจหาเชื้อ ” โควิด ” ได้ทันที ไม่มีค่าใช้จ่าย ทำ ประกันโควิด ได้ที่นี่
- อัพเดทแผน ประกันโควิด-19 Vsafe Covid จาก ทูนประกันภัย เบี้ยเริ่มต้น 799 บาท
- ประกันสังคม มาตรา 33,39,40 เยียวยาอะไร ในช่วงโควิด 2565 และ อย่าลืมทำ ประกันโควิด กับ masii นะ
- ประกันภัยสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ มีรายละเอียดยังไง
____________________________________________
Please become Masii Fan !!
Facebook: www.facebook.com/MasiiThailand
Website: www.masii.co.th
Blog: https://blog.masii.co.th/
Line : @masii
Tel: 02 710 3100
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCV-5rpO5ZqAGfgLdKqzKGFw
Instagram: www.instagram.com/masii_thailand/
Twitter: twitter.com/MasiiGroup
#ประกันสุขภาพ #ประกันโควิด #ประกันไข้เลือดออก #ประกันการเดินทาง
#สินเชื่อส่วนบุคคล #บัตรกดเงินสด #สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์ #กู้เงิน
#เงินสด #เงินก้อน #เงินกู้ทันใจ #เงินด่วน #เงินด่วนทันใจ
#ประกันภัยโดรน #ประกันโดรน #ลงทะเบียนโดรน #ขึ้นทะเบียนโดรน #Dronethailand
#ประกันรถยนต์ #ประกันรถยนต์ชั้น1 #สมัครประกันรถยนต์ #ประกันรถที่คุ้มที่สุด
#masii #มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า
#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า #SimplifiedComparison