มาสิ แนะนำให้!  ขอวีซ่าสำหรับ การเดินทาง ไปอเมริกาต้องเตรียมอย่างไร ใช้เอกสารอะไรบ้าง ไปดู

สำหรับสายเดินทางการเตรียมความพร้อมสำหรับ การเดินทาง คงไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยาก หรือยากเย็นในการเตรียมตัวให้พร้อม แต่ทั้ง เราก็ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าจุดหมายปลายทางของเราที่จะเดินทางไปนั้น อยู่ที่จุดไหน มีข้อบังคับ กฏระเบียบ หรือเอกสารใดบ้างที่ต้องมีการเตรียมความพร้อม หรือเพิ่มเติมที่แตกต่างจากการเดินทางไปยังประเทศอื่น ๆ อย่างเช่นวันนี้ที่ มาสิ ได้หยิบเอามาฝากกับ การเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ต้องมี วีซ่า ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญที่ต้องมีประกอบการเดินทางด้วย ส่วนวิธีการหรือขั้นตอนในการเตรียมความพร้อมที่ก่อนที่เราจะไปยื่นขอวีซ่านั้นมีอย่างไรบ้าง วันนี้ว่าแล้วก็ตามา มาสิ ไปดุกัน

การเดินทาง ไปยัง ประเทศสหรัฐอเมริการ

อเมริกาเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ และมีผู้คนนิยมเดินทางไปที่นั่นเป็นจำนวนมาก เที่ยวบินตรงไปยังอเมริกาจึงหาได้ไม่ยาก โดยเฉพาะเมืองสำคัญๆ อย่าง LA หรือ New York ซึ่งก่อนการเดินทางควรหาข้อมูลและวางแผนการเดินทางให้ดี โดยสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยสำหรับการเดินทาง คือ ข้อมูลเกี่ยวกับสนามบิน เราควรหาข้อมูลล่วงหน้าเกี่ยวกับสนามบินมาอย่างรอบคอบ เพราะบางเมืองอาจจะมีมากกว่าหนึ่งสนามบิน อย่างเช่น New York ที่มีทั้งสนามบิน JFK, LaGuardia และ Newark Liberty แต่ละที่จะมาตัวย่อต่างกัน ควรตรวจสอบข้อมูลให้รอบคอบ อย่าประมาทเด็ดขาด

สำหรับเดินทางไปอเมริกาหลังโควิด แม้ตอนนี้มาตรการต่างๆ จะถูกยกเลิกแล้ว แต่ก็ไม่ควรประมาท ควรเตรียมเอกสารการฉีดวัคซีนและเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องไปไว้ด้วย โดยควรมีเอกสารทั้งฉบับจริงและที่เซฟเก็บไว้แบบดิจิทัล  และเมื่อเดินทางมาถึงสนามบินแล้ว เราก็จะต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งก่อนเครื่องลงจอดเราจะได้รับแบบฟอร์ม 6059B หรือใบตม. ของอเมริกา นั่นเอง และสำหรับผู้มาจากประเทศที่ต้องขอวีซ่าก่อนเข้าอเมริกาก็ต้องกรอกแบบฟอร์ม I-94 ด้วย

วีซ่า คืออะไร?

วีซ่า (Visa) คือ เอกสารที่ประเทศใดประเทศหนึ่งออกให้บุคคลที่ได้รับการพิจารณาให้สามารถเข้าประเทศผู้ออกตรวจลงตราได้ ภายในระยะเวลาหรือจุดประสงค์ที่บุคคลนั้นยื่นคำร้องขอ คือ เอกสารที่ไว้ใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองขณะเข้าประเทศที่ได้ยื่นขอวีซ่าไว้ ปกติแล้วจะมีการประทับตราลงหนังสือเดินทาง (passport) อาจเป็นสติกเกอร์ หรือ ตราประทับ หรืออาจอยู่ในรูปแบบที่ไม่ได้ประทับลงในหนังสือเดินทาง ซึ่งปัจจุบันบางประเทศมีการลงตราประทับแบบอิเล็กทรอนิกส์โดยเชื่อมโยงข้อมูลผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์

ประเภทของวีซ่า

• วีซ่าเดินทางผ่าน (Transit Visa) : ปกติจะมีอายุประมาณ 5 วัน เพื่อเป็นทางผ่านไปยังประเทศอื่นที่เป็นจุดหมาย ใช่ประเทศทางผ่านที่ขอวีซ่าเดินทางผ่าน
• วีซ่าท่องเที่ยว (Tourist Visa) : เป็นวีซ่าที่มีจุดประสงค์ในการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยว โดยไม่มีกิจกรรมทางธุรกิจมาเกี่ยวข้องระหว่างการเดินทางนั้นๆ
• วีซ่าธุรกิจ (Business Visa) : เป็นวีซ่าเพื่อวัตถุประสงค์ในการทำการค้าหรือติดต่อธุรกิจในประเทศผู้ออกวีซ่า หรือกิจกรรมอื่นใดอันเกี่ยวกับการทำธุรกิจ ในบางประเทศจะมีการรวมเอาการจ้างงานอย่างถาวรไว้ในการอนุญาตนี้ด้วย
• วีซ่าทำงาน ชั่วคราว (Temporary Worker Visa) : เป็นวีซ่าที่แสดงว่าบุคคลนั้นได้รับอนุญาตให้ทำงานในประเทศนั้นได้ชั่วคราวตามเงื่อนไขที่ระบุเอาไว้ในวีซ่า ส่วนใหญ่วีซ่าชนิดนี้ มีขั้นตอนวิธีปฏิบัติที่มาก การได้มาซึ่งวีซ่าจึงค่อนข้างยาก แต่มีช่วงเวลาการได้รับอนุญาตที่ยาวนานกว่าวีซ่าธุรกิจ
• วีซ่า ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (On-Arrival Visa) : เป็นวีซ่าที่ได้รับเมื่อเดินทางถึงประเทศที่เป็นจุดหมายการเดินทาง ซึ่งจะได้รับตรงจุดตรวจคนเข้าเมือง
• วีซ่าคู่สมรส หรือวีซ่าแต่งงาน (Spouse Visa, Partner Visa, Marriage Visa) : เป็นวีซ่าที่อนุญาตให้คู่แต่งงานไม่ว่าชายหรือหญิง ที่เป็นคู่สมรสของผู้ถือสัญชาติของประเทศนั้น ๆ สามารถเดินทางเข้าสู่ประเทศของอีกฝ่ายหนึ่งและพำนักได้ถาวรตามบุคคลในครอบครัว
• วีซ่าคู่หมั้น (Fiancee Visa, Prospective Marriage Visa, settlement Visa) : เป็นวีซ่าที่อนุญาตให้คู่แต่งงานไม่ว่าชายหรือหญิง ที่มีความประสงค์จะเดินทางเข้าไปพำนักอยู่ในประเทศตามสัญชาติของอีกฝ่ายและจะต้องทำการสมรสผู้ถือสัญชาติของประเทศดังกล่าวภายในเวลาที่กำหนดตามวีซ่า และสามารถเดินทางเข้าสู่ประเทศของอีกฝ่ายหนึ่งและพำนักได้ถาวรตามบุคคลในครอบครัว
• วีซ่านักเรียน (Student Visa) : เป็นวีซ่าซึ่งอนุญาตให้ทำการเรียนในประเทศที่ได้รับวีซ่านักเรียนตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ในบางประเทศอาจใช้วีซ่าท่องเที่ยวแทน วีซ่านักเรียนจะแบ่งเป็น 2 แบบใหญ่ๆ
  • แบบแรกคือ Student visitor : มีระยะเวลา 0 – 1 ปี สำหรับน้องๆที่ต้องการไปเรียนภาษาอังกฤษโดยตรง ข้อดี คือ ข้อจำกัดในการทำวีซ่าน้อย แต่ ข้อเสีย คือ ไม่สามารถต่อวีซ่าที่ต่างประเทศได้ต้องกลับมาต่อที่ประเทศไทย และ ไม่สามารถทำงานได้
  • แบบที่สอง คือ tier 4 visa : คือ สำหรับน้องๆที่ไปเรียนเป็นคอร์ส เช่น เรียนต่อปริญญา เป็นต้น ข้อดี คือ สามารถต่อวีซ่าที่นั่นได้ แต่ข้อเสียคือ ข้อจำกัดในการทำวีซ่าเยอะพอสมควร

• วีซ่าท่องเที่ยวและทำงาน (Working Holiday Visa) : เป็นวีซ่าที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงระหว่างประเทศผู้เป็นภาคี มีสาระสำคัญคือ สามารถเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวและทำงานภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้
• วีซ่าการทูต (Diplomatic Visa) :  เป็นวีซ่าที่อนุญาตให้แก่ผู้ที่ถือหนังสือเดินทางทางการทูตหรือเพื่อการของรัฐของประเทศนั้นๆ
• วีซ่านักเขียน (Jounalist Visa) :  เป็นวีซ่าที่อนุญาตให้กับนักเขียนหรือผู้สื่อข่าวจากหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับ
• วีซ่าอพยพ (Immigration Visa) :  เป็นวีซ่าอนุมัติให้กับผู้ที่ต้องการอพยพไปตั้งถิ่นฐานยังประเทศที่อนุญาต
• วีซ่าผู้รับบำนาญ หรือ วีซ่าผู้เกษียณ (Pensioner Visa หรือ Retirement Visa) :  เป็นวีซ่าซึ่งบางประเทศอนุญาตให้สำหรับผู้ที่สามารถแสดงตนได้ว่ามีรายได้ในต่างประเทศซึ่งไม่ใช่ประเทศที่ออกวีซ่าดังกล่าวให้ แต่ต้องเป็นจำนวนที่เพียงพอต่อการดำรงชีพ และไม่มีความประสงค์ที่จะทำงานแล้ว มักมีการจำกัดอายุของผู้รับอนุญาต

เอกสารที่ต้องใช้ในการขอวีซ่าอเมริกา

เอกสารที่ต้องใช้ในการขอวีซ่าอเมริกาจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ หลักฐานสำคัญที่ใช้ในการยื่นขอวีซ่าอเมริกา และหลักฐานอื่น ๆ ที่เตรียมไว้เผื่อต้องนำมาใช้ โดยจะมีรายละเอียด ดังนี้

หลักฐานสำคัญในการยื่นขอวีซ่าอเมริกา

• ใบยืนยัน : เป็นใบ Confirmation ของแบบฟอร์ม DS-160 ที่จะได้รับหลังจากที่ส่งข้อมูลในระบบออนไลน์ของกรมการกงสุลสหรัฐอเมริกาแล้ว
• ใบนัดสัมภาษณ์ : เป็นเอกสารที่จะได้รับหลังจากลงทะเบียนนัดวันเวลาสัมภาษณ์ในระบบออนไลน์เรียบร้อยแล้ว
• หนังสือเดินทาง : ต้องเป็นหนังสือเดินทางฉบับล่าสุด มีอายุคงเหลือมากกว่า 6 เดือนนับจากช่วงเดินทาง และมีหน้าว่างอย่างน้อย 1 หน้า (ในกรณีที่มีหนังสือเดินทางเล่มก่อนหน้าให้นำไปด้วยทั้งหมด)
• รูปถ่ายหน้าตรง : รูปถ่ายฉบับจริงขนาด 2 x 2 นิ้ว จำนวน 1 ใบ (จะต้องเป็นรูปทางการ หน้าตรง เห็นหน้าชัด และไม่สวมแว่น)
• ใบเสร็จค่าธรรมเนียม : เป็นใบนำฝากที่ได้รับตราประทับยืนยันการฝากจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาแล้ว

หลักฐานอื่น ๆ ในการยื่นขอวีซ่าอเมริกา

หลักฐานแสดงรายได้ต่าง ๆ เช่น รายการเดินบัญชีเงินฝาก (Statement) หลักฐานการชำระภาษี หรือใบจดทะเบียนการค้า

• หนังสือรับรองการทำงานสำหรับผู้ที่เป็นพนักงานประจำ
• ผลการศึกษาสำหรับผู้ที่กำลังเรียนหนังสืออยู่
• แผนการเดินทางในระหว่างที่คุณพำนักอยู่ในสหรัฐอเมริกา

ขั้นตอนการขอวีซ่าอเมริกา

1. กรอกแบบฟอร์มออนไลน์ (DS-160) ของกรมการกงสุลสหรัฐอเมริกาที่ https://ceac.state.gov/genniv/ ให้เรียบร้อย
2. หลังจากยื่นคำร้องผ่านระบบออนไลน์เรียบร้อย หากไม่เคยยื่นขอวีซ่าอเมริกามาก่อน ให้สร้างบัญชีผู้ใช้ที่ ustraveldocs.com/th_th/ แล้วเลือกหัวข้อ “การสมัครขอวีซ่าใหม่ / นัดสัมภาษณ์” และทำการกรอกข้อมูล และชำระเงินให้เรียบร้อย
3. เมื่อระบบตรวจสอบการชำระเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณจะสามารถเลือกวันและช่วงเวลานัดสัมภาษณ์ตามความสะดวกได้เลย
4. ในวันนัดสัมภาษณ์ให้เตรียมเอกสารให้เรียบร้อย และควรไปถึงสถานทูตก่อนเวลานัดหมายอย่างน้อย 15-30 นาที
5. เจ้าหน้าที่จะช่วยตรวจเอกสาร และจัดเก็บข้อมูลชีวภาพ (ลายนิ้วมือ) ให้เรียบร้อย แล้วพาคุณไปที่ห้องสัมภาษณ์
6. ในการสัมภาษณ์นั้น เจ้าหน้าที่จะสอบถามเกี่ยวกับการเดินทางและการทำงานของคุณเป็นหลัก เช่น เดินทางไปที่ไหน ไปเที่ยวเมื่อไหร่ จะไปทำอะไรบ้าง ไปเที่ยวกับใคร มีความสัมพันธ์กันอย่างไร เคยไปเที่ยวที่ไหนมาหรือเปล่า ทำงานอะไรอยู่ ทำงานมานานแค่ไหนแล้ว เป็นต้น
7. เมื่อสัมภาษณ์เสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่จะแจ้งผลการขอวีซ่าอเมริกาผ่านให้ทราบทันทีว่าผ่านหรือไม่
8. หากขอวีซ่าอเมริกาผ่าน เจ้าหน้าที่จะเก็บหนังสือเดินทางของคุณ และจะได้รับคืนพร้อมตราประทับวีซ่าผ่าน EMS ภายใน 3-7 วันทำการ
9. หากขอวีซ่าอเมริกาไม่ผ่าน เจ้าหน้าที่จะคืนหนังสือเดินทางให้กับคุณ พร้อมอธิบายเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ผ่าน ซึ่งคุณสามารถยื่นเรื่องขอวีซ่าอเมริกาใหม่ได้อีกครั้ง ไม่ได้มีข้อห้ามในการขอวีซ่าอเมริกาซ้ำ

จะเห็นได้ว่า การขอวีซ่าอเมริกาไม่ยากอย่างที่คิด แค่เตรียมเอกสารให้พร้อม และทำตามขั้นตอนการขอวีซ่าอเมริกาอย่างถูกต้อง ตอบสัมภาษณ์อย่างมั่นใจ เพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้การอนุมัติวีซ่าของเราได้รับการอนุมัติได้อย่างแน่นอน

ขอขอบคุณ : dailynews, Hohvisapro และ hotcourses Thailand

และนี่ก็เป็นเพียงอีกหนึ่งสาระดี ๆ ที่ มาสิ ได้เอามาฝากกันสำหรับใครที่ชอบเที่ยวต่างประเทศก็ควรศึกษาไม่เสียหลายไปไหน แต่สำหรับใครที่ชื่นชอบในการเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะไปเรียน ไปเที่ยว ไปทำงาน หรือแม้แต่ไปทำธุระปะปังต่าง ๆ หรือไม่ว่าจุดหมายปลายทางจะเป็นที่ไหน เป้าหมายการเดินทางจะเป็นอย่างไร เรื่องของเอกสารและการเตรียมความก็เป็นเรื่องที่เราควรใส่ใจ แต่จะดีขึ้นไปอีกหรือไม่หากเรามีการเตรียมพร้อมรับมือกับทุกปัญหาที่อาจจะขึ้นระหว่างการเดินกับ ประกันการเดินทาง จาก MSIG ประกันภัย ที่ให้ความคุ้มครองครบ ทั้งอุบัติ และเจ็บป่วย พร้อมด้วยการชดเชยกรณีเที่ยวบินล่าช้าอีกด้วย เป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปดูกัน!

 ประกันการเดินทาง จาก บริษัท MSIG ประกันภัย

บริษัท MSIG ประกันภัย ซึ่งเป็นบริษัทประกันวินาศภัยอันดับ 1 ในภูมิภาค จึงไม่แปลกที่บริษัทจะเป็นที่นิยมในกลุ่มของลูกค้าส่วนมาก สำหรับ ประกันการเดินทางMSIG ก็มีแคมเปญพิเศษจ่ายเบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 190.-บาท รับกรมธรรม์รวดเร็ว ทันใจ ผ่านทางอีเมล์สามารถใช้ได้ทันที

• ประกันการเดินทาง MSIG คุ้มครองได้เกือบทุกประเทศทั่วโลก
• ไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาผู้ป่วยใน เฉพาะโรงพยาบาลในเครือทั่วโลก
• แผนประกันท่องเที่ยวนี้รับประกันอายุสูงสุดถึง 80 ปี
• ผลประโยชน์การเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวรจากอุบัติเหตุ สูงสุดถึง 5,000,000 บาท
• ค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นในขณะเดินทางในต่างประเทศ สูงสุดถึง 5,000,000 บาท
• กรณีเกิดความล่าช้าของเที่ยวบินคุ้มครองทุก 6 ชม. สูงสุดถึง 35,000 บาท
• ตัวกรมธรรม์สามารถยื่นวีซ่าเชงเก้นได้ทุกแผน
• ยื่นวีซ่าไม่ผ่าน การันตีเงินคืน 100%
• ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน MSIG Assist 24 ชม.ทั่วโลก

สนใจทำประกันการเดินทาง MSIG ประกันภัย

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ ประกันวินาศภัย ประกันรถยนต์ ประกันรถมอเตอร์ไซด์ ประกันสุขภาพ ประกันโดรน ประกันการเดินทาง ประกันอุบัติเหตุ ประกันภาคธุรกิจ และพ.ร.บ. รวมทั้ง ผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประกันการเดินทาง

• สายเที่ยวญี่ปุ่นต้องไม่พลาด…เปิดวิธีทำ tax refund ขอคืนภาษีช้อปปิ้งที่ญี่ปุ่น

• masii พาทัวร์ I 10 ประเทศน่าเที่ยว ที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2023 โดย Lonely planet

• มาสิ แนะนำให้ การเดินทาง ด้วย เครื่องบิน ต้องเตรียมตัวอย่างไร สำหรับนักเดินทางมือใหม่มาดูกัน

• masii รีวิว I จองคิวทำพาสปอร์ต 2566 ออนไลน์ เปิดจองที่ไหนบ้าง

• masii พาทัวร์ I เที่ยวญี่ปุ่น ให้กว้างกว่าที่เคย ด้วยการไปเที่ยว โอกินาว่า !

_____________________________________________
Please become Masii Fan !!

Facebook: www.facebook.com/MasiiThailand
Website: www.masii.co.th
Blog: https://blog.masii.co.th/
Line : @masii
Tel: 02 710 3100
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCV-5rpO5ZqAGfgLdKqzKGFw
Instagram: www.instagram.com/masii_thailand/
Twitter: twitter.com/MasiiGroup
#ประกันสุขภาพ #ประกันโควิด #ประกันไข้เลือดออก #ประกันการเดินทาง
#สินเชื่อส่วนบุคคล #บัตรกดเงินสด #สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์ #กู้เงิน
#เงินสด #เงินก้อน #เงินกู้ทันใจ #เงินด่วน #เงินด่วนทันใจ
#ประกันภัยโดรน #ประกันโดรน #ลงทะเบียนโดรน #ขึ้นทะเบียนโดรน #Dronethailand
#ประกันรถยนต์ #ประกันรถยนต์ชั้น1 #สมัครประกันรถยนต์ #ประกันรถที่คุ้มที่สุด
#masii #มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า
#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า #SimplifiedComparison