ว่ากันว่ามนุษย์เรานั้นเป็นสัตว์สังคม จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใดที่เราต้องมีการปฏิสัมพันธ์ หรือต้องมีการพบปะผู้คนกันอยู่เสมอ ๆ แต่ทั้งนี้ เมื่อเรามีเหตุที่ให้ต้องมีการปฏิสัมพันธ์กัน ด้วยความที่มนุษย์เรานั้นโดยพื้นฐานย่อมที่จะมีความต้องการ มีกิเลส ตัณหา เป็นของตัวเองกันอยู่แล้ว ซึ่งก็ด้วยความต้องการเหล่านี้ก็ย่อมที่จะมาซึ่งความขัดแย้งตามมา อีกทั้งในปัจจุบัน ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้การสื่อสารและข่าวสารต่าง ๆ ได้วิ่งเข้าหาและไหลผ่านเรากันได้อย่างง่ายดายและมากขึ้น จึงทำให้เราต้องมีการยั้งคิด และไตร่ตรองในการกระทำของเราให้มากขึ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องของการคบ คน ก็เช่นกัน เพราะก็ถือได้ว่าเป็นสื่อที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะทำให้เราได้รับข้อมูลข่าวสารด้วย เรียกได้ว่ามีอิทธิพลที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะไม่เพียงเนื้อหาข่าวสารที่มีความน่าสนใจเชื่อถือได้ แต่ด้วยความสนิสนมและสัมพันธ์ที่มีย่อมมีส่วนช่วยให้เรามีความเชื่อถือในเนื้อหาของคามสารนั้นมากยิ่งขึ้นด้วย ดังนั้น แล้วคนแบบไหนที่เราควรคบ คนแบบไหนที่เราควรเลี่ยง เราต้องคิดและตัดสินใจให้ดีก่อนเสมอ
เรา คือ ค่าเฉลี่ยของคน 5 คน ที่เราใช้เวลาอยู่ด้วยมากที่สุด
“เรา คือ ค่าเฉลี่ยของคน 5 คน ที่เราใช้เวลาอยู่ด้วยมากที่สุด (You ‘re The Average Of The Five People You Spend The Most Time With)” ประโยคสุดคลาสสิกจาก จิม โรห์น (Jim Rohn) นักธุรกิจและนักพูดให้แรงบันดาลใจชาวอเมริกันสุดโด่งดังนี้ เชื่อได้ว่าต้องมีเคยได้ยินเป็นแน่ ซึ่งเมื่อเราลองคิดดูคนที่เราอยู่ด้วย หรือใช้เวลาด้วยนั้นสำคัญต่อทิศทางชีวิตเรามากเลยทีเดียว ประกอบกับมีหลายงานวิจัยที่ชี้ว่า คนรอบตัวนั้นส่งผลต่อพลังงานและสุขภาพจิตเราอย่างที่เราอย่างยิ่ง โดยหากคนรอบตัวเราแย่ พลังงานหรือมุมมองดี ๆ นั้นก็จะโดนดึงออกไปจนหมดได้ ซึ่งเราก็มักที่จะเรียกคนเหล่านั้นว่า Toxic People
เรา คือ ค่าเฉลี่ยของคน 5 คน ที่เราใช้เวลาอยู่ด้วยมากที่สุด คำตอบนี้จะจริงหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน เพราะมันจะขึ้นอยู่กับการซึมซับพฤติกรรม การทำตัวให้เป็นที่ยอมรับในแบบกลุ่มนั้น ๆ การปรับตัว และความอยากจะเป็นแบบคนนั้น หลาย ๆ อย่างเลยส่งผลให้เรากลายเป็นคนแบบนั้น แต่จากงานวิจัยและประสบการณ์ส่วนตัวก็พอจะที่จะยืนยันคำตอบนี้ได้ว่า เป็นเรื่องจริงพอสมควรเลย เพราะหากเราอยากเป็นคนแบบไหน ก็ให้พาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางคนแบบนั้น แล้วใช้วิจารณญาณส่วนตัวพิจารณาเลือกรับสิ่งต่าง ๆ เอา
คน 7 ประเภทที่ควรคบไว้….ใกล้ตัวเมื่อไหร่ อุ่นใจกว่าที่คิด
การมีเพื่อนดี คนรอบตัวดี ถือได้ว่าเป็นลาภอันประเสริฐอย่างยิ่ง เพราะไม่ได้เป็นเพียงผู้ที่จะคอยอยู่เคียงข้างกันไปในยามทุกข์ยามยากเท่านั้น แต่ถือได้ว่าจะเป็นแหล่งพลังงานดี ๆ เป็นแหล่งหลอมดังนั้นแล้ว เรามาดูกันดีกว่าเราคนแบบไนบ้างที่เราควรคบ คนไหนบ้างที่เราควรเก็บไว้ใกล้ตัว
1.คนที่เป็นนักฟังมากกว่านักตั้งคำถาม
คนที่เป็นนักฟังที่ดี จะแสดงออกถึงความใส่ใจและสนใจคู่สนทนา ทำให้เรารู้สึกว่า เขาสนใจเรื่องที่เราเล่าจริง ๆ คงไม่มีใครรู้สึกดี ถ้าคนที่สนทนาด้วย เอาแต่ยิงคำถามอยู่ฝ่ายเดียว การเอาแต่ตั้งคำถามเพราะอยากจะรู้เรื่องของอีกฝ่าย นอกจากจะทำให้บทสนทนานั้นดูไม่สร้างสรรค์แล้ว ยังจะเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ไม่ดีให้กับคู่สนทนาอีกด้วย
2.คนที่คิดช่วยเหลือก่อนเสมอ
คนที่ได้รับความเคารพ ยกย่อง นับถือ ส่วนนึงก็เกิดจากที่คนๆ นั้น แสดงออกว่าเป็นคนช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอ ไม่จำเป็นต้องเป็นการช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ บางครั้ง คนเราก็ต้องการใครสักคนที่คอยรับฟัง แค่นี้ก็เป็นการแสดงออกถึงความใส่ใจอย่างหนึ่งแล้ว
3.คนสุภาพ
คนที่มีความสุภาพจะแสดงออกมาทั้งท่าทาง สีหน้า อากัปกิริยาต่างๆ รวมถึงคำพูด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนประเภทนี้จะเป็นที่รัก และเป็นที่น่าคบหาของทุกคน การทำตัวให้สุภาพแค่เรื่องเล็กๆ อย่างการที่มีใครสักคนเปิดประตูให้ หรือให้คุณเดินเข้าประตูไปก่อน คนที่พูดขอโทษและขอบคุณจนติดปาก แค่นี้ก็แสดงถึงความสุภาพได้แล้ว
4.คนที่ไม่พูดแต่ข้อแก้ตัว
คนที่เอาแต่พูดอ้าง สรรหาคำแก้ต่างให้ตัวเอง คือ คนที่ต้องหนีห่างให้มากที่สุด เพราะพวกเขากำลังแสดงออกว่า ไม่เคยใส่ใจใคร นอกจากตัวเอง ผิดกับคนที่ยอมรับว่าทำผิดและรีบมองหาทางแก้ไข นี่ต่างหากคือคนที่ควรจะรักษาความสัมพันธ์กับเขาไว้ให้ดี
5.คนที่เป็นที่เคารพของคนอื่น
คนส่วนใหญ่มักเผลอทำให้ตัวเองเสียเครดิตแบบไม่รู้ตัวด้วยการบ่น บ่นโน้น บ่นนี่ อะไรที่ไม่ถูกใจ ไม่ได้ดั่งใจ การพูดเชิงลบที่ผ่านออกมาจากการบ่น นอกจากจะทำให้เสียบรรยากาศการสนทนาแล้ว มันยังทำให้คนที่ฟังรู้สึกไม่สบายใจ ไม่เป็นที่น่าเคารพ เพราะแม้แต่ตัวของเขาเอง ยังไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ดีได้ ดังนั้น เปลี่ยนจากคำบ่น เป็นการมองโลกอีกด้าน มองหาข้อดีของแต่ละสถานการณ์ให้เจอ คนที่อยู่ด้วยก็จะรู้สึกว่า คนนี้มีมุมมองต่อโลกในแง่บวก ใครๆ ก็อยากที่จะเข้าหา
6.คนที่ไม่ยึดติดกับอารมณ์ในอดีต
เรื่องราวในอดีตคือ สิ่งที่ผ่านไปแล้ว คนที่ยังยึดติดกับอดีตไม่ได้ช่วยทำให้อะไรดีขึ้น ถ้ามีคนประเภทนี้ใกล้ตัว คนที่ชอบพูดวน ยกแต่เรื่องอดีตขึ้นมาพูด รีบตีตัวห่างให้ไว
7.คนที่พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
คนที่กล้าและพร้อมจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้นอยู่เสมอ คือ คนที่มีโอกาสประสบความสำเร็จได้เร็วที่สุด สิ่งที่น่ากลัวกว่าการเปลี่ยนแปลง คือ การหยุดเรียนรู้ หยุดเติบโต และอยู่แต่ในจุดเดิม ๆ ไม่ไปไหน โลกนี้กว้างใหญ่ และมีอะไรให้คุณได้เซอร์ไพรส์มากกว่าที่คิด
และอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ยังคงยืนยันคำตอบเดิมเสมอว่า การมีเพื่อนที่ดี รายล้อมไปด้วยคนรอบตัวที่ดี บอกได้เลยว่ายุคนี้สมัยนี้ มีค่ามากว่าอะไรหลาย ๆ จริง เพราะไม่เพียงแค่คนที่คอยซับพอร์ท หรือคอยอยู่เคียงข้างกันยามทุกข์ยามยากกันเท่านั้น แต่เมื่อเราต้องการที่จะเป็นคนแบบไหนเราควรพาตัวเองให้ไปอยู่ในที่ที่รายล้อมไปด้วยคนเหล่านั้นด้วยเช่นกัน
แต่อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ ไม่เพียงแต่เรื่องของการตัดสินคนนู้นคนนี้ ว่าน่าคบดีหรือไม่ อีกสิ่งหนึ่งที่เราควรใส่ใจ นั่นก็คือ เรื่องของมารยาท และการให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพราะทุกคนมีความต่าง มีความคิด มีทัศนนคติเป็นของตัวเองกันทั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะมีบ้างสิ่งบ้างอย่าวที่เราจะเป็นสิ่งที่เราไม่ชอบในตัวเขาก็เป็นได้ แค่เราไม่ไปก้าวกายและสร้างความเดือดร้อนให้กับเขา แค่นี้เราก็อยูอย่รว่วมกันได้อย่างมีความสุขแล้ว
และด้วยความต่างอย่างมีสไตล์กันอย่างนี้ เพียงแค่สาระดี ๆ ที่ มาสิ ได้เอามาฝากไว้ให้กับทุกคนได้อ่านคนไม่เพียงพอ มาสิ จึงได้ขนเอากับอีกหนึ่งเครื่องมือดีที่จะนำพาคุณให้ไปได้สุดได้อีกกับอีกหนึ่งความต้องการของชีวิต เครื่องมือนั้นจะเป็นอะไรไปติดตามกัน
บัตรเครดิต KTC – BANGKOK AIRWAYS PLATINUM MASTERCARD
เหมาะกับ : ลูกค้าที่ชื่นชอบการเดินทางด้วยเครื่องบิน เพราะจะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย เมื่อเดินทางด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ได้รับส่วนลดจากการจองแพ็กเกจทัวร์ และมีส่วนลดสำหรับการซื้อสินค้า In-Flight Shopping อีกด้วย และยังมีสิทธิ์ ซื้อตั๋วเครื่องบินราคาถูก เพิ่มน้ำหนักกระเป๋า หรือแลกไมล์ ก็สามารถทำได้ แถมยังไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีพ
รายละเอียดบัตรเครดิต KTC – BANGKOK AIRWAYS PLATINUM MASTERCARD
- กำหนดอายุ 20-60 ปี
- รายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท
- อนุมัติวงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้
สิทธิ์สำหรับผู้ถือบัตรเครดิต KTC – BANGKOK AIRWAYS PLATINUM MASTERCARD
- มีสิทธิพิเศษสามารถใช้ Blue Ribbon Club Lounge ได้ 1 ครั้ง เมื่อเดินทางโยสายการบินบางกอกแอร์เวย์
- รับคะแนนสะสม KTC Forever Rewards 1.5 เท่า
- และรับ KTC Forever Rewards 3 เท่า หากใช้จ่ายสกุลเงินต่างประเทศ
- ซื้อตั๋วโดยสารบางกอกแอร์เวย์สที่ KTC World Travel Service พร้อมเพิ่มน้ำหนักกระเป๋าเดินทาง 10 กิโลกรัม น้ำหนักรวมสูงสุดไม่เกิน 30 กิโลกรัม
- ประกันการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ 8,000,000 บาท
- ฟรีค่าธรรมเนียมในการใช้บัตรตลอดชีพ
สนใจสมัครบัตรเครดิต KTC – BANGKOK AIRWAYS PLATINUM MASTERCARD
………………………………………………………………………………
บัตรเครดิต ซิตี้ พรีเมียร์
เหมาะสำหรับ : ลูกค้าที่อยากได้รับสิทธิ์พิเศษแบบครอบคลุมทุกการใช้จ่าย เช่นส่วนลดจากการช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้า ท่องเที่ยวแล้วได้รับรถรับส่งหรือเลานจ์ของ Miracle Lounge รับเครดิตเงินคืนเข้าบัญชี 3% เมื่อเติมน้ำมันเชลล์ ผ่านบัตรฯ ครบทุก 800 บาท ต่อเซลล์สลิป
รายละเอียดบัตรเครดิต ซิตี้ พรีเมียร์
- กำหนดอายุ 20-65 ปี
- รายได้ขั้นต่ำ 30,000 บาท
- อนุมัติวงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้
สิทธิ์สำหรับผู้ถือบัตรเครดิต ซิตี้ พรีเมียร์
- รับคะแนนสะสมซิตี้ รีวอร์ด 2 เท่า ทุกการใช้จ่าย ทั้งในและต่างประเทศ
- บริการที่จอดรถสำรองพิเศษที่ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์, พารากอน,เซ็นทรัล ชิดลม เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลพระราม 3, เซ็นทรัล เวสต์เกต และเดอะมอลล์บางกะปิ
- Miracle Lounge ที่สนามบินสุวรรณภูมิ 2 ครั้งต่อปีปฏิทิน
- รับสิทธิ์ซื้อบัตรชมภาพยนต์ 69 บาทต่อที่นั่ง ที่โรงภาพยนตร์ในเครือ SF ทั่วประเทศ
- ดอกเบี้ย 16% ต่อปี
- ฟรีค่าธรรมเนียม
สนใจสมัครบัตรเครดิต ซิตี้ พรีเมียร์
………………………………………………………………………………
บัตรเครดิตยูโอบี โยโล่ แพลทินัม
เหมาะสำหรับ : ลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์แบบคนเมือง เพราะจะได้รับ สิทธิ์พิเศษสำหรับเครดิตเงินคืนจากหลายร้านที่ร่วมรายการ เช่นรถไฟฟ้า MRT เซเว่น อีเลฟเว่น ร้านบูทส์ ร้านวัตสันร้านมัตสึโมโตะ คิโยชิ เบอร์เกอร์ คิง เป็นต้น และรับเครดิตเงินคืน 5% เมื่อซื้อ เติมเงิน หรือเติมเที่ยวบัตรโดยสาร BTS และ MRT
รายละเอียดบัตรเครดิตยูโอบี โยโล่ แพลทินัม
- กำหนดอายุ 20-60 ปี
- รายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท
- อนุมัติวงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้
สิทธิ์สำหรับผู้ถือบัตรเครดิตยูโอบี โยโล่ แพลทินัม
- รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15%
- ที่รถไฟฟ้า MRT เซเว่น อีเลฟเว่น ร้านบูทส์ ร้านวัตสันร้านมัตสึโมโตะ คิโยชิ เบอร์เกอร์ คิง Shopee Grab ร้าน Baskin Robbins และ Ticket Melon
- รับเครดิตเงินคืน 5% เมื่อซื้อ เติมเงิน หรือเติมเที่ยวบัตรโดยสาร BTS และ MRT
- ฟรี ค่าธรรมเนียมรายปี 2,000 บาท/ปี เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตร 100,000 บาท/ปี
- ดอกเบี้ย 16% ต่อปี
สนใจสมัครยูโอบี โยโล่ แพลทินัม
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะครับ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบ้านแลกเงิน สินเชื่อรถแลกเงิน และผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บัตรเครดิต
-
มาสิ ชวนส่อง! ครบรอบ 9 ปี ชามไก่ลำปาง ผลิตภัณฑ์บ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย
-
บุคลิกภาพ หลากหลาย Extrovert, Ambivert, Introvert บุคลิกไหนที่ใช่คุณ
-
masii ตอบคำถามที่หลายคนสงสัย … อาชีพอิสระ ฟรีแลนซ์ ค้าขาย สมัคร บัตรเครดิต อย่างไร
_____________________________________________
Please become Masii Fan
Facebook: https://lnkd.in/gFFh8mh
Website: www.masii.co.th
Blog: https://masii.co.th/blog
Line: @masii
Tel: 02 710 3100
Youtube: https://lnkd.in/gbQf9eh
Instagram: https://lnkd.in/ga4j5ri
Twitter: twitter.com/MasiiGroup
#สินเชื่อ #ประกัน
#รถแลกเงิน #บ้านแลกเงิน #สินเชื่อส่วนบุคคล
#บัตรกดเงินสด #เงินด่วนทันใจ #สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์
#กู้เงิน #เงินสด #เงินก้อน #เงินด่วน #เงินกู้ทันใจ #masii
#มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า
#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า #SimplifiedComparison