เคยได้ยินหรือคุ้นหูกับคำว่า “ค่าขาดประโยชน์” กันบ้างหรือไม่คะ … บางท่านอาจจะไม่คุ้นเลยเสียด้วยซ้ำ แต่สำหรับท่านไหนที่เคยมีประสบการณ์การเคลมรถยนต์จากกรณีที่รถโดนชนละก็ อาจจะมีความคุ้นเคยกันอยู่บ้างไม่มากก็น้อย
ค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อม คืออะไร?
พูดง่าย ๆ ก็คือ “ค่าขาดประโยชน์” คือเงินชดเชยจากคู่กรณีระหว่างที่รถของคุณอยู่ในช่วงซ่อมนั่นเองค่ะ เช่น คุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องใช้รถยนต์เป็นประจำทุกวัน แล้วจู่ ๆ ไม่มีรถขึ้นมาก็ต้องไปเสียค่ารถสาธารณะอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น รถแท็กซี่ รถไฟฟ้า หรือรถเมล์ เป็นต้น ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตรงนี้นี่ละค่ะ ที่คุณสามารถเรียกร้องเอาได้จากคู่กรณี!!
ยกตัวอย่างเช่น สมมุตว่าคุณต้องเอารถเข้าอู่ซ่อมเป็นระยะเวลา 10 วัน แล้วคุณต้องเสียค่าใช้จ่ายพวกค่าแท็กซี่ตกวันละ 500 บาท รวมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 10 วันคิดเป็นเงิน 5,000 บาท ค่าใช้จ่ายส่วนที่ว่านี้นี่ละค่ะ ที่คุณสามารถนำไปเรียกร้องได้นั่นเอง
เอกสารที่ใช้ในการขอ ค่าขาดประโยชน์ ระหว่างซ่อมรถ
ได้แก่
- ใบเสนอรายการความเสียหายของรถยนต์ที่พร้อมสำเนาเอกสารไว้ด้วยแล้ว อย่าลืมระบุวันที่เราติดต่อซ่อมรถกับอู่ซ่อมรถหรือศูนย์บริการให้ชัดเจนด้วยนะคะ
- ใบเคลม หรือใบรับรองความเสียหายต่อทรัพย์สิน เป็นเอกสารที่เจ้าหน้าที่เคลมประกันออกให้เราเมื่อรถของเราเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งจะมีการระบุเอาไว้อย่างชัดเจนเลยค่ะว่า รถของเราเสียหายตรงไหนบ้าง และเราเป็นฝ่ายถูก ไม่ใช่ฝ่ายผิด
- สำเนาตารางกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ต้องเป็นหน้าแรกของกรมธรรม์ประกันภัยพร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องไว้ด้วยนะคะ
- สำเนาทะเบียนรถยนต์ ที่เป็นสมุดเล่มสีน้ำเงินที่ระบุวันจดทะเบียนและกรรมสิทธิ์ ชื่อเจ้าของรถยนต์ ซึ่งควรจะเป็นชื่อเดียวกันกับผู้ที่เรียกร้องนะคะ
- สำเนาใบขับขี่รถยนต์ พร้อมเซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้องให้เรียบร้อย
- ใบรับรถ หรือหนังสือส่งมอบรถเสร็จ ย้ำว่า ต้องระบุถึงวันที่เราจะไปรับรถที่ซ่อมเสร็จแล้วให้ชัดเจนด้วยนะคะ
- รูปถ่ายตอนซ่อมรถ ซึ่งคุณสามารถติดต่อขอได้จากอู่รถยนต์ที่เข้าซ่อมเลยค่ะ แต่จะต้องเป็นการถ่ายรูปทุกขั้นตอนที่ซ่อมนะคะ แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรค่ะ แค่มีไว้เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือเท่านั้นเอง
- หนังสือเรียกร้องสินไหมค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อม หรือจดหมายแจ้งเรื่องนั่นเอง หากคุณไม่รู้ว่ารูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรละก็ ค้นหาได้จากกูเกิลเลยค่ะ มีตัวอย่างให้ดูมากพอสมควร
- สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารที่เราต้องการให้โอน
เท่านี้ก็สามารถยื่นกับบริษัทประกันของคู่กรณีเพื่อรอกระบวนการการดำเนินเท่านั้นเองละค่ะ ที่สำคัญอย่างลืมถ่ายเอกสารทั้งหมดเก็บไว้กับตัวชุดนึงด้วยนะคะ และอย่าลืม นอกจากเรื่องซ่อมรถยนต์ หากใครสนใจอยากขายรถมือสอง สามารถขับรถของคุณมาขายให้เราง่ายๆ ที่ Carsome บริการรวดเร็ว ครบวงจร ตั้งแต่เรื่องตรวจสอบเครื่องยนต์ จนถึงเอกสาร ได้ราคาโดนใจ ไม่ต้องเสียเวลาขับรถไปหาเต้นท์หลายวัน
นอกจากจะขายรถมือสองแล้ว อย่าลืมว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับรถยนต์ของเรานั่นก็คือ ประกันภัยรถยนต์ เพื่อการขับรถที่อุ่นใจ วันนี้ masii ก็ได้นำเอา ประกันรถยนต์มาให้เปรียบเทียบกันถึงที่ แค่ คลิ๊กที่นี่ เพื่อเช็กเบี้ยประกันรถยนต์ฟรี! หรือแอด LINE: @masii (มี @ ด้วยนะ) หรือโทร 02 710 3100 เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย