มาสิ ชวนรู้ !…ไขคำตอบ ยางรถยนต์ ควรเปลี่ยนทุกกี่กิโลเมตร พร้อมแนะนำวิธีการดูแลยางรถยนต์

ยางรถยนต์
มาสิ ชวนรู้ !...ไขคำตอบ ยางรถยนต์ ควรเปลี่ยนทุกกี่กิโลเมตร พร้อมแนะนำวิธีการดูแลยางรถยนต์
สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

ยางรถยนต์ ถือได้ว่าเป็นอีกอวัยวะหนึ่งที่สำคัญยิ่งสำหรับตัวรถยนต์ โดยจะเป็นสิ่งที่ช่วยในการขับเคลื่อนตัวให้ออกเดินทางไป ซึ่งในการใช้งานยางรถยนต์เราควรที่จะมีการเลือกทั้งขนาด ประเภท และชนิดของยางให้เหมาะสมตลอดจนมีความจำเป็นที่จะต้องดูแลรักษา และเปลี่ยนยางตลอดเวลาเมื่อมีการใช้งานจนครบระยะที่กำหนด เพราะไม่เพียงแต่เรื่องของความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น แต่การใช้งานยางรถยนต์ที่เสื่อมสภาพอาจที่จะส่งผลให้ผู้ใช้งานได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นได้อีกด้วย แล้วยางรถยนต์มีอายุการใช้งานอยู่ที่เท่าไร อย่างแบบไหนที่จะเหมาะสม ว่าแล้วเราก็มาหาคำตอบและดูรายละเอียดไปพร้อมกัน

ขอขอบคุณ : bridgestone และ b-quik

ซื้อเลย ประกันรถยนต์ คุ้มครองอุ่นใจทุกเส้นทาง

มาสิ ชวนรู้ !…ไขคำตอบ ยางรถยนต์ ควรเปลี่ยนทุกกี่กิโลเมตร

ยางรถยนต์ สิ่งสำคัญคู่รถ

การเลือกยางรถยนต์ที่ถูกต้องจะมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพการใช้งาน และความปลอดของรถเรา โดยการเลือกยางรถยนต์ควรเป็นไปตามเงื่อนไขการใช้งานและพฤติกรรมในการขับขี่ของเรา ซึ่งมีความจำเป็นที่ควรรู้ว่าขนาดยางประเภทไหนที่เหมาะสมสำหรับรถยนต์จะได้เลือกได้อย่างเหมาะสมในเวลาที่ต้องการซื้อยางรถยนต์

โดยการตรวจสอบขนาดยางว่าเหมาะสมหรือไม่ นอกจากจะดู ความกว้างหน้ายาง เส้นผ่าศูนย์กลางของยางแล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอีก คือ ดัชนีการรับน้ำหนัก และขีดจำกัดความเร็วของยางก็เป็นส่วนสำคัญในการเลือกยางรถยนต์ที่เหมาะสมเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นยางรถขอบ 15 นิ้ว ยางรถขอบ 17 นิ้ว หรือ ยางรถยนต์ขอบ 18 นิ้ว ทั้งนี้ ข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับยางรถยนต์ที่เหมาะสม เราสามารถหาได้โดยดูจากคู่มือประจำรถ หรือรถยนต์บางรุ่นจะระบุที่ตัวรถยนต์ เช่น บริเวณขอบประตูฝั่งผู้ขับขี่ ช่องเก็บของด้านหน้า หรือบริเวณฝาถังเติมน้ำมัน เป็นต้น

รหัสและตัวเลขบน ยางรถยนต์

เมื่อเราสังเกตดูให้ดีจะเห็นได้ว่าบริเวณขอบหน้่ยางรถยนต์จะมีรหัสและตัวเลขซึ่งเป็นรหัสที่จะบอกประเภทเกี่ยวกับยางรถยนต์ ซึ่งรหัสตัวอักษรและตัวเลขจะบอกอะไรบ้างนั้นไปดูกัน

ยางรถยนต์
รหัสและตัวเลขบน ยางรถยนต์

รหัสตัวอักษร “P” และ “LT”
สำหรับรถยนต์ส่วนใหญ่จะเห็นรหัสตัวอักษร P ก่อนที่จะตามด้วยตัวเลข เช่น P225/70R16 91S โดยสมาคมยางและกะทะล้อ (the Tyre and Rim Association) ได้กำหนดความหมายของรหัสตัวอักษร P ไว้ว่าเป็นยาง ใช้กับยางรถยนต์นั่ง รวมถึงยางรถตู้ขนาดเล็ก รถอเนกประสงค์ และรถปิคอัพ แต่หากเห็นรหัสอักษร LT จะหมายถึงยาง สำหรับยางรถปิคอัพ

อีกทั้ง ยังมีรหัสตัวอักษร LT-metric ที่เป็นสัญลักษณ์สำหรับใช้กับยางรถบรรทุกหนักและรถพ่วง นอกจากนี้ ในทำนองเดียวกัน รหัสตัวอักษร T ย่อมาจากคำว่า “Temporary (ชั่วคราว)” อันหมายถึงยางอะไหล่ และหากเป็นรหัสอักษษร ST หมายถึง ยางสำหรับรถพ่วงพิเศษ

ความกว้างของหน้ายาง

ลำดับถัดมาต่อจากรหัสตัวอักษร จะเป็นชุดรหัสตัวเลข 3 ตัว ที่หมายถึง ความกว้างของขนาดยาง โดยเป็นระยะที่วัดจากแก้มยางด้านหนึ่งไปสู่แก้มยางอีกด้านหนึ่ง ซึ่งไม่รวมความสูงของตัวหนังสือ สัญลักษณ์ หรือส่วนอื่น ๆ ที่ยื่นออกจากแก้มยาง และวัดในขณะที่เติมลมยางหรือลมไนโตรเจนตามมาตรฐาน (อ้างอิงมาตรฐาน UNECE R30*) มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร เช่น: P225/70R16 91S  หมายถึงยางที่มีความกว้างจากแก้มยางด้านหนึ่งไปสู่แก้มยางอีกด้านหนึ่งประมาณ 225 มิลลิเมตร

ความสูงของแก้มยาง / ซีรี่ย์

ความสูงของแก้มยาง คือ อัตราส่วนระหว่างความกว้างของหน้ายาง กับ ความสูงของแก้มยาง มีหน่วยเป็น % หากต้องการทราบความสูงจริงของแก้มยาง สามารถคำนวณได้ดังนี้

ความกว้างหน้ายาง X (ความสูงของแก้มยาง ÷ 100 ) = ความสูงจริงของแก้มยาง

เช่น ยางขนาด 215/70 R15 จากตัวอย่าง ยาวหน้ากว้าง 215 มิลลิเมตร และมีความสูง 70% ของความกว้างหน้ายาง คำนวณโดย 215x( 70% ÷ 100 ) = 150.5 มิลลิเมตร

โครงสร้างยางรถยนต์

หลังนั้นจากอัตราส่วนของยางจะเป็นรหัสตัวเลขบนยางที่บ่งบอกถึงประเภทของการโครงสร้างภายในที่ช่วยรักษาเสถียรภาพของยาง ซึ่งจะพบตัวอักษร 2 แบบที่ระบุประเภทโครงสร้าง คือ

  • R– RADIAL (ยางเรเดียล) : โครงสร้างยางเรเดียล คือยางที่มีโครงสร้างเป็นชั้นผ้าใบเส้นลวดพันอยู่รอบยางทำมุมทะแยงกับเส้นรอบวงของยาง
  • D– DIAGONAL OR BIAS PLY (ยางผ้าใบ)

เส้นผ่านศูนย์กลางของล้อ

ถัดจากตัวอักษรบอกโครงสร้างของยาง จะเป็นตัวเลขรหัสของเส้นผ่านศูนย์กลางของล้อ หน่วยเป็นนิ้ว เพื่อบ่งบอกถึงว่าขนาดของกะทะล้อที่สามารถใส่ประกอบยางได้ เช่น ยางขนาด P225/70/R16 91S สามารถใส่กับกะทะล้อที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 16 นิ้ว หรือเรียกว่า ยางรถยนต์ขอบ 16

ความสามารถในการรับน้ำหนัก

ความสามารถในการรองรับน้ำหนักที่ยาง 1 เส้นสามารถรองรับได้ หน่วยเป็น กิโลกรัม เรียกว่า “ดัชนีการรับน้ำหนัก” ซึ่งตัวเลขแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างดัชนีรับน้ำหนักของยางแต่ละเส้น เริ่มต้นที่ 80 ถึง 112 ซึ่งตัวเลขแสดงถึงความสามารถรับน้ำหนักได้ตั้งแต่ 450 ถึง 1,120 กิโลกรัม

ดัชนีระบุความเร็วยาง

ดัชนีความเร็วของยาง แสดงถึง ความเร็วสูงสุดที่สามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งยางได้รับการรองรับให้บรรทุกน้ำหนักภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด  ซึ่งยางที่มีดัชนีความเร็วสูงย่อมมีสมรรถนะในการยึดเกาะถนนได้ดี การเปลี่ยนยางทดแทนควรใช้ยางที่มีดัชนีระบุความเร็วยางเช่นเดิมหรือสูงกว่าเดิม เพื่อรักษามาตรฐานความเร็วของรถยนต์

  • S : ยางเส้นนั้นรองรับความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • T : ยางเส้นนั้นรองรับความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • H : ยางเส้นนั้นรองรับความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • V : ยางเส้นนั้นรองรับความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • W : ยางเส้นนั้นรองรับความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • Y : ยางเส้นนั้นรองรับความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • Z : ยางเส้นนั้นรองรับความเร็วสูงสุดอยู่ที่ มากกว่า 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

DOT ยาง ( วันเดือนปีที่ผลิตยาง )

เลข DOT  ยางที่อยู่บนตัวยาง คือ วันที่ผลิตยาง โดยตัว DOTยางจะมีตัวเลข4ตัวแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม  กลุ่ม 2 ตัวแรก หมายถึง สัปดาห์ที่ผลิต  กลุ่ม 2 ตัวหลัง หมายถึงปีที่ผลิต เช่น 2420 หมายความว่า ยางนี้ถูกผลิตในสัปดาห์ที่ 24 ปี 2020

แล้วยางรถยนต์ควรเปลี่ยนทุกกี่กิโลเมตร?

โดยทั่วไปแล้วยางรถยนต์จะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 4-5 ปี นับตั้งแต่ถูกใช้งานครั้งแรก หรืออ้างอิงตามระยะทางใช้งานประมาณ 50,000 – 80,000 กิโลเมตรขึ้นไป ขณะที่การรับประกันคุณภาพยางของผู้ผลิตจะอยู่ที่ประมาณ 40,000 กิโลเมตร หรือ 2-4 ปี (หรือมากกว่านั้น) ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละยี่ห้อ อย่างไรก็ดี ยางรถยนต์ยางเส้นอาจมีอายุการใช้งานต่ำกว่านั้น โดยสามารถสังเกตจากองค์ประกอบอื่นๆ ควบคู่กันไป ดังนี้

  1. ไหล่ยางหรือแก้มยางมีรอยปริแตก แสดงว่ายางมีอาการแข็ง เสื่อมสภาพ แสดงว่าถึงเวลาเปลี่ยนยางใหม่แล้ว
  2. ดอกยางหมด หากร่องดอกยางเหลือต่ำกว่า 2 มิลลิเมตร ควรรีบเปลี่ยนยางทันทีเพื่อรักษาประสิทธิภาพในการรีดน้ำ มิเช่นนั้นจะเกิดอาการเหินน้ำได้ง่าย เสี่ยงก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
  3. ยางมีเสียงหอนขณะเบรกหรือเข้าโค้ง แสดงว่าเนื้อยางเริ่มแข็ง จะทำให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนลดลง ควรพิจารณาเปลี่ยนยางเส้นใหม่เมื่อมีโอกาส
  4. หน้ายางหรือแก้มยางปูดบวม เกิดได้จากการกระแทกอย่างรุนแรง หากปล่อยทิ้งไว้จะมีโอกาสยางระเบิดที่ความเร็วสูงได้
  5. ยางสึกหรอผิดปกติ เช่น กินยางด้านนอกหรือด้านใน เกิดจากความผิดปกติของช่วงล่าง หากปล่อยทิ้งไว้จะเกิดความเสี่ยงต่อการระเบิดขณะขับขี่ได้เช่นกัน

เมื่อได้ทราบข้อมูลกันอย่างนี้แล้วเราก็อย่าลืมดูแล เลือกใช้ และก็ควรเปลี่ยนยางเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่ทั้งเพื่อตัวของเราและเพื่อนร่วมทางทุกๆ คน

…………………………….

และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ มาสิ ได้เอามาอัพเดทให้ทุกคนไปเตรียมพร้อมกัน นอกจากนี้ ด้วยยุคนี้สมัยนี้สภาพอากาศฤดูกาลแปรปรวนและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเรื่องของการดูแลรักษาเตรียมความพร้อมรับมือกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นให้กับรถเราเป็นสิ่งที่ดี ดังนั้นแล้ว เราควรเสริมความคุ้มครองด้วย ประกันรถยนต์ เพราะจะได้ความคุ้มครองครบ แถมอุ่นใจได้ทุกครั้งเมื่อเกิดปัญหา วันนี้ มาสิ จะเอาประกันรถยนต์ไหนมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันบ้างนั้นไปดูกัน

ประกันรถยนต์ ชั้น 1 Happy 1 Price

ประกันรถยนต์
ประกัยรถยนต์ เจมาร์ท

ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 Happy 1 Price เป็นโปรโมชั่นดีๆจาก Jaymart insurance ที่ เปิดให้รถยนต์ส่วนบุคคล (รถเก๋ง) รถกระบะ สมัครประกันรถยนต์ ชั้น 1 ได้ในราคาเดียวกัน และมีบริการพิเศษบนท้องถนน หรือบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนอีกด้วย ซึ่งรายละเอียดความคุ้มครอง มีดังนี้

รายละเอียดความคุ้มครองประเภท 1 รถเก๋ง 110 (5 ที่นั่ง)/กระบะ 320 (3 ที่นั่ง)
ความรับผิดต่อบุคคคลภายนอก
ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรือ อนามัย ไม่เกิน (บาท/คน) 500,000
วงเงินสูงสุดตาม พ.ร.บ. ไม่เกิน (บาท/คน) 10,000,000
ความเสียหายต่อทรัพย์สิน ไม่เกิน (บาท/คน) 1,000,000
ความเสียหายต่อรถยนต์
ความเสียหายต่อตัวรถยนต์ (บาท/ครั้ง) 200,000
รถยนต์สูญหายหรือไฟไหม้ 200,000
ความคุ้มครองของเอกสารแนบท้าย
การประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร (บาท/คน) 100,000
การประกันภัยค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร (บาท/คน) 100,000
การประกันตัวผู้ขับขี่(บาท/ครั้ง) 300,000
เบี้ยสุทธิ(บาท/ปี) 11,077
เบี้ยประกันรวมภาษีและอาการ (บาท/ปี) 11,900.54
เงื่อนไขการรับประกัน ประกันภัยรถยนต์
  1. รับประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 ซ่อมอู่
  2. ทุนประกันภัยไม่เกิน 80% ราคาตลาด ณ วันขอทำประกันภัย
  3. คุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่งไม่เกิน 20,000 บาท
  4. รถยนต์ที่รับประกันภัยตามเอกสารแนบและเบี้ยประกันภัยนี่เป็นอัตราเบี้ยที่คงที่
  5. ตรวจสภาพรถยนต์ก่อนทำประกันภัย
  6. ไม่รับประกันภัยรถยนต์นำเข้า,รถซุปเปอร์คาร์,รถเช่า,รถรับจ้าง,รถรับจ้างสาธารณะ,รถมูลนิธิ,รถพยาบาล,รถฉุกเฉินทุกชนิด,เป็นต้น รวมถึงรถทะเบียน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้(ยะลา ปัตตานี นราธิวาส)
  7. ไม่รับประกันรถที่มีการปรับเปลี่ยน ดัดแปลงสภาพจากมาตรฐานโรงงาน เช่น โหลดสูง โหลดต่ำ ติดเกย์วัดความเร็ว,ติดเคฟร่า ติดตั้งโครงเหล็ก,คอก หลังคา ,ตู้
  8. อายุการใช้งานรถ ให้นำ ปีปัจจุบัน ลบ ด้วยปีจดทะเบียนรถ +1
  9. รับประกันภัยสำหรับรถที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 15 ปี
  10. เอกสารประกอบการทำประกันภัย ได้แก่ 1) สำเนาบัตรประชาชน 2) สำเนาเล่มทะเบียนรถ
รถยนต์ที่รับ ประกันภัยรถยนต์
  • FORD: EcoSport, Escape, Everest, ranger, Focus, Fiesta
  • HONDA : Accord, Amaze, Brio, BR-V, City, Civic, CR-V, HR-V, Jazz, Mobilio
  • ISUZU: MU-7,MU-X,D-MAX
  • MAZDA:  2,3,BT-50,CX-3
  • MITSUBISHI: Attrage, Mirage, Pajero Sport,Triton
  • NISSAN: Almera, Frontier, Juke, march, Navara, Sunny, Sylphy, Teana, Tiida, X-Trail
  • TOYOTA :Avanza, Camry, Corolla Altis, Corolla Cross, Fortuner, Innova, Revo, Sienta, Wish, Vigo, Vios, Yaris
บริการฉุกเฉินบนท้องถนน

สำหรับ ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 Happy 1 Price นั้นจะมีบริการฉุกเฉินบนท้องถนนด้วยครับ ซึ่งสามารถใช้ได้เวลาที่รถของเรามีปัญหา เช่น รถยนต์เสีย ยางรั่ว ยางแบน หรือ ลืมกุญแจรถยนต์ น้ำมันหมด ก็ติดต่อ02-099-0555 กด 2 ก็จะมีเจ้าหน้าที่คอลเซนเตอร์คอยให้บริการประสานงานบริการฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมงครับ มีการบริการ ดังนี้

  • บริการรถยกฉุกเฉินบนท้องถนน หากรถเสียหรือมีปัญหา จะมีบริการรถลากยกฉุกเฉินนำรถของคุณไปยังอู่ซ่อมรถที่ใกล้ที่สุดใน 35 กิโลเมตร (2 ครั้งต่อปี)
  • บริการช่างซ่อมกุญแจรถ (2 ครั้งต่อปี)
  • บริการเติมน้ำมันฉุกเฉินไม่เกิน 5 ลิตร (2 ครั้งต่อปี)
  • บริการจองโรงแรมร้านอาหารตั๋วเครื่องบิน รถเช่าและคนขับส่วนตัว(2 ครั้งต่อปี)
  • บริการให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์ ด้านเทคนิค กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

สนใจสมัครประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 Happy 1 Price

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะครับ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบ้านแลกเงิน สินเชื่อรถแลกเงิน และผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประกันรถยนต์

_____________________________________________

Please become Masii Fan

Facebook: https://lnkd.in/gFFh8mh

Website: www.masii.co.th

Blog: https://masii.co.th/blog

Line: @masii

Tel: 02 710 3100 

Youtube: https://lnkd.in/gbQf9eh

Instagram: https://lnkd.in/ga4j5ri

Twitter: twitter.com/MasiiGroup

#สินเชื่อ #ประกัน

#รถแลกเงิน #บ้านแลกเงิน #สินเชื่อส่วนบุคคล

#บัตรกดเงินสด #เงินด่วนทันใจ #สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์

#กู้เงิน #เงินสด #เงินก้อน #เงินด่วน #เงินกู้ทันใจ #masii

#มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า

#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า #SimplifiedComparison