สำหรับใครหลายๆ คนที่มีความฝัน ไม่ว่าจะเป็นหมอ ครู วิศวะ นักบัญชี ดารา นางแบบ ตลอดจนเชฟ ในปัจจุบันนี้ก็มีช่องน้อยสีมากสีมาก็มีการผลิตรายการเพื่อจะเปลี่ยนชีวิตพวกเค้า และหนึ่งในรายการที่ประสบความสำเร็จก็คือ มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ ค่ะ ที่สร้างกระแสถล่มทลาย การเปลี่ยนชีวิตจากคนธรรมดาที่ทำ home cooking ให้เป็นเชฟ
มาสเตอร์เชฟ: ฝันให้ไกลแล้วไปให้ถึง
รายการมาสเตอร์เชฟ เริ่มต้นขึ้นที่หมู่เกาะอังกฤษค่ะ มีมาเนิ่นนานแล้ว แต่เมื่อปีที่แล้วนี้เองที่ทาง Heliconia H GROUP ได้ซื้อลิขสิทธิ์รายการมาผลิตและได้ฉายผ่านช่องเจ็ดสี ทุกวันอาทิตย์เวลา 18:25 – 19:20 น. จากผู้สมัครทั้งหมด 3,000 คน คัดจนเหลือ 20-30 คน แล้วค่อยๆ คัดออกในแต่ละสัปดาห์ให้จนเหลือ 3-4 คนเพื่อหามาสเตอร์เชฟ ที่จะพลิกชีวิตจากคนรักการทำอาหารไปสู่เชฟ พร้อมกับการได้ออกหนังสือ Cooking book ที่เป็นสูตรของตัวเอง ถ้วยรางวัล และเงินสดจำนวนมูลค่าถึง 1,000,000 บาท
ในช่วงสุดท้ายของรายการ ความขับเคี่ยวที่เพิ่มขึ้น และทางมาสิขอแสดงความยินดีกับเชฟเฟิร์ส-ธนภัทร สุยาว กับตำแหน่งมาสเตอร์เชฟไทยแลนด์คนที่ 2 พร้อมเงินก้อนโตที่จะมาเป็นทุนในอนาคต ซึ่งเงินมูลค่าหนึ่งล้านบ้านการลงทุนทำร้านอาหารนั้นอาจไม่ได้เป็นจำนวนเงินที่สูงมาก เมื่อเราต้องวางแผน การหาเชฟ ลูกจ้าง การหาทำเลที่ตั้ง การคิดเมนูซิกเนเจอร์ต่างๆ ยังรวมไปถึงการหาแหล่งวัตถุดิบที่ดีที่ย่อมตามมาด้วยราคาที่สูงขึ้น ถ้ายิ่งเป็นร้านที่สร้างใหม่ก็จะมีค่าใช้จ่านในการสร้างและออกแบบด้วย ไหนจะต้องมีการทำพีอาร์เพื่อให้คนมาสนใจด้วย
แต่อย่าลืมว่าเหล่าผู้เข้าแข่งที่ผ่านรายการมาสเตอร์เชฟนั้น ถึงบางคนอาจไม่ได้ชนะรางวัล ไม่ได้มีเงินทุน แต่คนเหล่านั้นมีต้นทุนทางด้านชื่อเสียงอยู่แล้ว ไหนจะกลุ่มแฟนๆ ที่เชียร์มาตั้งแต่ในรายการที่พร้อมจะสนับสนุน ไปลิ้มลองรสชาตของผู้เข้าแข่งขัน ซึ่งทำให้บางทีอาจจะตัดเรื่องทำเลที่ตั้งไปได้ เพราะมีฐานแฟนคลับอยู่แล้ว อาจไม่ต้องตั้งในพื้นที่เมืองหรือที่ๆ ผู้คนผ่านไปมาก็ย่อมได้ ดังนั้น ใครที่สนใจจะเปิดธุรกิจร้านค้า ก็ต้องเตรียมวางแผนคร่าวๆ ให้เป็นอย่างดี การหาแหล่งเงินทุน อาจมาจากเงิบเก็บของตัวเอง หรือการหาหุ้นส่วนที่น่าเชื่อถือเข้ามาร่วมด้วย
ในกรณีที่ไม่มีเงินทุนและต้องการมองหาเงินทุนเพื่อมาทำธุรกิจนั้น ก็มีหลายหนทางทั้งการทำสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งมีข้อดีคือไม่ต้องมีผู้ค้ำประกันหรือประกันหลักทรัพย์ แต่วงเงินสูงสุดที่จะได้นั้นแล้วแต่ฐานเงินเดือนเท่ากับว่าคนที่สมัครจะต้องมีงานประจำทำ ซึ่งบางสถาบันทางการเงินจะมีการกำหนดไว้เลยว่าได้สูงสุดไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือ 5 เท่าของเงินเดือน และระยะเวลาในการผ่อนก็นาน 60 เดือนด้วยค่ะ ซึ่งมาสิขอแนะสินเชื่อส่วนบุคคลดีๆ ให้ทุกคนพิจารณากัน ดังนี้
สินเชื่อส่วนบุคคล ซิตี้
สำหรับคนที่ฐานเงินเดือนเริ่มต้นที่ 15,000 บาท และเริ่มงานได้ 6 เดือนก็สามารถที่จะสมัครได้แล้วค่ะ แถมยังไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม และถ้าสมัครออนไลน์จะได้รับกระเป๋าเดินทางฟรีอีกด้วยค่ะ
- ผู้มีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท
- วงเงินอนุมัติสูงสุด 5 เท่า ของรายได้แต่ไม่เกิน 1,500,000 บาท
- ระยะเวลาการผ่อนคืน 12-60 เดือน
บัตรสินเชื่อบุคคลธนชาต FLASH Plus
โดดเด่นตรงที่ดอกเบี้ยต่ำที่สุดค่ะ ต่ำถึง 18.16% ในขณะที่สินเชื่อตัวอื่นจะอยู่ที่ประมาณ 20% – 28% แต่ว่าฐานเงินเดือนสูงถึง 20,000
- ผู้มีรายได้ขั้นต่ำ 20,000 บาท
- วงเงินอนุมัติสูงสุด 5 เท่า ของรายได้ แต่ไม่เกิน 1,000,000 บาท
- ระยะเวลาการผ่อนคืน 12-60 เดือน
นอกจากสินเชื่อเงินสดแล้ว ยังมีอีก home for cash อีกนะคะ สำหรับใครที่มีบ้านที่ผ่อนหมดแล้วก็สามารถนำมาขอกู้ได้ค่ะ โดยธนาคารอาจอนุมัติวงเงินจากการตีราคาไม่เกิน 80% และมีระยะในการผ่อนคืนที่ยาวนานเหมือนกันค่ะ สุดท้ายสำหรับคนที่มีความฝันอยากเปิดร้านหรือเป็นเชฟ แต่ไม่มีเงินทุน มาสิขอสนับสนุนทุกคนที่มีฝันค่ะ