เมื่อการเปลี่ยนผ่านช่วงวัยนำมาพามาซึ่งความก้าวหน้าในชีวิต เรื่องของการสร้างครอบครัวก็เป็นอีกเป้าหมายหนึ่งของชีวิต ที่ใครหลายคนต่างก็วาดฝันไว้ว่าอยากที่จะมีภาพครอบครัวที่สวยงาม อยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา และอยู่ดูแลกันด้วยความสุขไปในทุก ๆ วัน ดังนั้นแล้ว เรื่องของการวางแผนการใช้ชีวิต หรือวางแผนการสร้างครอบครัวจึงเป็นสนสิ่งสำคัญ ประกอบกับบุคนี้สมัยนี้ แม้ว่าเทคโนโลยีจะมีความก้าวหน้า เกิดสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ขึ้นมามากมายกว่าแต่ก่อนมาก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความท้าทายในการใช้ชีวิต หรือการสร้างครอบครัวก็มมีมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนด้วยสวัสดิการทางสังคมขั้นพื้นฐานอย่าง ประกันสังคม หรือหลักประกันสุขภาพเพิ่มเติมที่เราเลือกเองอย่าง ประกันสุขภาพ จึงเป็นสิ่งสำคัญทีที่เราควรรู้ไว้ และเป็นเรื่องที่เราต้องมีความใส่ใจในการเลือกใช้มัน และในวันนี้ มาสิ จึงได้นำเกร็ดความรู้ สาระดี จากสำนักงานประกันสังคมมาให้เหล่าว่าที่คุณพ่อ คุณแม่มือใหม่ได้นำไปใช้ในปรกอบการวางแผนการสร้างครอบครัวกัน ส่วนจะเป็นเรื่องใดบ้างนั้นไปดูกัน
การประกันสังคมคืออะไร
การประกันสังคม คือ การสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตในกลุ่มของสมาชิกที่มีรายได้ และจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเพื่อรับผิดชอบในการเฉลี่ยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และการว่างงาน เพื่อให้ได้รับการรักษาพยาบาล และมีการทดแทนรายได้อย่างต่อเนื่อง
3 สิทธิที่ต้องได้ สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่จาก ประกันสังคม
1.สิทธิฝากครรภ์
สำหรับผู้ที่มีสิทธิประกันสังคม สามารถเบิกค่าฝากครรภ์ได้สูงสุด 1,500 บาท โดยแบ่งจ่าย 5 ครั้ง ตามจำนวนการฝากครรภ์คุณภาพที่ใช้การฝากครรภ์ที่ไม่มีภาวะเสี่ยง มีรายละเอียด ดังนี้
– อายุครรภ์ ไม่เกิน 12 สัปดาห์ จ่ายตามจริงแต่ไม่เกิน 500 บาท
– อายุครรภ์ 12-20 สัปดาห์ จ่ายตามจริงแต่ไม่เกิน 300 บาท
– อายุครรภ์ 20-28 สัปดาห์ จ่ายตามจริงแต่ไม่เกิน 300 บาท
– อายุครรภ์ 28-32 สัปดาห์ จ่ายตามจริงแต่ไม่เกิน 200 บาท
– อายุครรภ์ 32-40 สัปดาห์ จ่ายตามจริงแต่ไม่เกิน 200 บาท
*ในการเบิกค่าฝากครรภ์นั้น สามารถเลือกใช้สิทธิประกันสังคมได้ทั้ง “ฝ่ายชาย” หรือ “ฝ่ายหญิง” โดยสามารถเลือกใช้สิทธิได้แค่คนเดียว ไม่สามารถใช้สิทธิซ้ำได้ โดยสามารถยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทน ภายในระยะเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันที่คลอดบุตร ที่สำนักงานประกันสังคมพื้นที่ที่สะดวก
………………………………………………………………………………………………..
2.สิทธิคลอดบุตร
สำหรับสิทธิในกรณีการคลอดบุตร ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับค่าคลอดบุตรคนละ 2 ครั้ง โดยมีสิทธิ ดังนี้
- ผู้ประกันตนหญิง สามารถคลอดบุตรที่สถานพยาบาลใดก็ได้ แล้วนำสำเนาสูติบัตรของบุตร สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน มาเบิกเงินที่สำนักงานประกันสังคม จะได้รับเงินเหมาจ่ายค่าคลอดบุตร จำนวน 13,000 บาท และยังจะได้รับเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรอีก ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้าง เฉลี่ยเป็นเวลา 90 วัน
- ผู้ประกันตนชาย ที่มีภริยาจดทะเบียนสมรสหรือหญิงซึ่งอยู่กินฉันสามีภริยา แต่มิได้จดทะเบียนสมรส สามารถคลอดบุตรที่สถานพยาบาลใดก็ได้ แล้วนำสำเนาสูติบัตรของบุตร สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี) หรือหนังสือรับรองกรณีไม่มีทะเบียนสมรส (เฉพาะกรณีผู้ประกันตนใช้สิทธิแล้วไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับภริยา) มาเบิกเงินที่สำนักงานประกันสังคม จะได้รับเฉพาะเงินเหมาจ่ายค่าคลอดบุตร จำนวน 13,000 บาท
เงื่อนไขการรับสิทธิ
– ผู้ประกันตน ม. 33 และ 39 เมื่อจ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 5 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนเดือนวันคลอดบุตร
– ผู้ประกันตน ม.38 และ 41 เมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 เดือนภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน และได้รับสิทธิคุ้มครองภายใน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่สิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน
………………………………………………………………………………………………..
3.สิทธิสงเคราะห์บุตร
เงินสงเคราะห์บุตร คือ สิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนมาตรา 33 (ลูกจ้างประจำ) มาตรา 39 (ผู้ประกันตนภาคสมัครใจ) และมาตรา 40 (ทางเลือกที่ 3) ที่จ่ายเงินสมทบมาไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน โดยจะได้รับเป็นเงินช่วยเหลือเด็กเดือนละ 800 บาท จากประกันสังคม และสามารถเบิกเงินสงเคราะห์บุตรได้คราวละไม่เกิน 3 คน โดยเงินสงเคราะห์บุตรเป็นสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนที่ให้กับประชาชนทั่วไปที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขตั้งแต่บุตรแรกเกิดจนบุตรอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์
เงื่อนไขการรับสิทธิ
ผู้ประกันตนตามมาตรา33 และมาตรา39 จะได้รับสิทธิเมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือนก่อนเดือนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน เป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นบุตรบุญธรรมหรือบุตรที่ยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น
เงื่อนไขการหมดสิทธิ
- เมื่อบุตรอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์ หรือบุตรเสียชีวิต
- ยกบุตรให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น
- ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
*สามารถยื่นเรื่องรับสิทธิได้ที่สำนักงานประกันสังคมพื้นที่ที่สะดวก ภายในระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันที่มีสิทธิ
แม้แต่การทำหมันประกันสังคมก็คุ้มครอง
ไม่เพียงแต่สิทธิในกรณีสำหรับผู้ที่ต้องการมีบุตรแต่เพียงเท่านั้น ประกันสังคมยังให้ความคุ้มครองไปถึงการคุมกำเนิดอย่างการทำหมันด้วย แต่จะเป็นการทำหมันอย่างไรที่ประกันสังคมจะให้ความคุ้มครองนั้น มาสิ ก็ได้เอาคำตอบมาให้แล้ว นั่นก็คือ
1.กรณีทำหมันถาวร (เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์) ใช้สิทธิได้ที่โรงพยาบาลตามสิทธิเท่านั้น จึงจะไม่เสียค่าใช้จ่าย หากประสงค์ไปใช้สิทธิโรงพยาบาลเครือข่าย ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของโรงพยาบาลเครือข่ายกับโรงพยาบาลตามสิทธิ หากไปทำหมันโรงพยาบาลอื่นจะไม่สามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้ ยกเว้น กรณีโรงพยาบาลตามสิทธิไม่สามารถทำหมันได้และส่งตัวผู้ประกันตนไปทำหมันโรงพยาบาลอื่นจะต้องมีหนังสือส่งตัวของโรงพยาบาลตามสิทธิยืนยันให้ผู้ประกันตนสามารถทำหมัน ณ โรงพยาบาลที่ระบุตามหนังสือส่งตัวโดยโรงพยาบาลตามสิทธิจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
2.กรณีการคุมกำเนิด เช่น การฉีดยาคุมกำเนิด, การฝังยาคุมกำเนิด,ห่วงคุมกำเนิด และการแก้หมัน
* สำนักงานประกันสังคมไม่คุ้มครอง *
เงื่อนไขการรับสิทธิ์
- ผู้ประกันตน ม. 33 และม. 39 เมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนวันรับบริการทางการแพทย์
- ผู้ประกันตน ม.38 และ ม.41 เมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนวันรับบริการทางการแพทย์และได้รับสิทธิคุ้มครองภายใน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่สิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน
เรียกได้ว่าเป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐานที่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังวางแผนครอบครัว หรือใครที่กำลังจะเป็นว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่ควรรู้ไว้อย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงจะช่วยให้เราสามารถลดค่าใช้จ่ายยามจำเป็นได้แล้วนั้น ประกันสังคมถือได้ว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้เราสามารถเข้าถึงสวัสดิการด้านสาธารณะสุขขั้นพื้นฐานได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคมได้ที่ www.sso.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
และนี่ก็เป็นเพียงเกร็ดความรู้ดี ๆ จากสำนักงานประกันสังคมที่ มาสิ ได้หยิบเอามาฝากให้สำหรับว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ให้ได้นำไปใช้ประกอบการวานแผนสร้างครอบครัวกัน แต่ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านั้น สำหรับว่าที่คุณแม่มือใหม่ จะหยิบจับสิ่งใดก็ต้องมีความระมัดระวังกันขั้นสุด ดังนั้นแล้ว เรามาเสริมความคุ้มครองให้กับเหล่าว่าที่คุณแม่กันให้เต็มที่ขึ้นไปอีกด้วยประกันสุขภาพสำหรับคุณแม่ จาก Aetna ส่วนจะมีรายละเอียดความคุ้มครองหรือเงื่อนไขการให้บริการอย่างไรบ้างนั้นตามไปดูกัน
ประกันภัยสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ หรือ ประกันคุณแม่ตั้งครรภ์ แผน บียอนด์เพอร์ซันนัลแคร์ จาก Aetna
และสำหรับว่าที่คุณแม่คนไหนที่เพิ่งตั้งครรภ์ สามารถทำประกันสุขภาพ หรือ ประกันคุณแม่ตั้งครรภ์ แผน บียอนด์เพอร์ซันนัลแคร์ ของ เอ็ทน่า เป็น ประกันสุขภาพ ที่มีวงเงินค่ารักษาพยาบาลสูง ทั้งยังครอบคลุมการเจ็บป่วย และ อุบัติเหตุ โดยประกันตั้งครรภ์สำหรับว่าที่คุณแม่ จะให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมในส่วนของค่าใช้จ่ายบางส่วนตามกรมธรรม์กำหนด ทั้งในกรณีการคลอดปกติ การผ่าคลอด การคลอดโดยใช้เครื่องมือ การตั้งครรภ์นอกมดลูก การผ่าตัดฉุกเฉินเพื่อคลอดลูก การแท้งบุตร ทั้งยังครอบคลุม ค่าคลอดบุตร และ ภาวะคลอดฉุกเฉิน ทำให้อุ่นใจมากขึ้น
สนใจสมัค ประกันคุณแม่ตั้งครรภ์ แผน บียอนด์เพอร์ซันนัลแคร์ จาก Aetna
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะครับ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ ประกันวินาศภัย ประกันรถยนต์ ประกันรถมอเตอร์ไซด์ ประกันสุขภาพ ประกันโดรน ประกันการเดินทาง ประกันอุบัติเหตุ ประกันภาคธุรกิจ และพ.ร.บ. รวมทั้ง ผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประกันสุขภาพคุณแม่ตั้งครรภ์
_____________________________________________
Please become Masii Fan
Facebook: https://lnkd.in/gFFh8mh
Website: www.masii.co.th
Blog: https://masii.co.th/blog
Line: @masii
Tel: 02 710 3100
Youtube: https://lnkd.in/gbQf9eh
Instagram: https://lnkd.in/ga4j5ri
Twitter: twitter.com/MasiiGroup
#สินเชื่อ #ประกัน
#ประกันบ้าน #ประกันภัยบ้าน
#รถแลกเงิน #บ้านแลกเงิน #สินเชื่อส่วนบุคคล
#บัตรกดเงินสด #เงินด่วนทันใจ #สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์
#กู้เงิน #เงินสด #เงินก้อน #เงินด่วน #เงินกู้ทันใจ #masii
#มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า
#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า #SimplifiedComparison