หลายคนคงเคยผ่านตาหรือคุ้นหูกันมาบ้างกับคำว่า “หุ้น” ซึ่งตอนเล็กๆเราอาจมีกิจกรรมฝากหุ้นกับกับสหกรณ์โรงเรียนมาบ้างแล้ว หรือโตขึ้นมาหน่อยก็อาจหุ้นลงขันทำธุรกิจกับเพื่อนเล็กๆน้อยๆ หากจะถามว่าหุ้นคืออะไร? ก็คงให้คำตอบง่ายๆว่า เป็นการนำเงินหรือสินทรัพย์มาลงขันร่วมลงทุนกัน และแต่ละหุ้นก็มีสิทธิเป็นเจ้าของร่วมกันตามสัดส่วนของเงินที่ลงทุนนั่นเอง และถ้าธุรกิจหรือร้านค้าที่ทำมีกำไรก็จะนำเงินมาเฉลี่ยกันที่เรียกว่าเงินปันผล แต่ถ้าขาดทุนก็ต้องยอมขาดทุนร่วมกัน
หุ้นในตลาดหลักทรัพย์
สำหรับหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ก็จะคล้ายๆกับหุ้นทั่วไปเพียงแต่ บริษัทที่เราเข้าไปร่วมหุ้นด้วยจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งมีการเสนอขายหุ้นของตัวเองผ่านตลาดหลักทรัพย์ ที่มีการควบคุมโดยหน่วยงานของตลาดหลักทรัพย์อีกที เพื่อไม่ให้เกิดการโกงเกิดขึ้น ส่วนเงินที่ได้ไปทางบริษัทก็จะนำเงินดังกล่าวไปลงทุนในกิจการของบริษัท ซึ่งหากธุรกิจมีกำไรเราผู้ถือหุ้นก็จะได้ส่วนแบ่งจากกำไรของธุรกิจนั้นด้วย อาจมาในรูปแบบเงินปันผล หรือบางบริษัทจะนำผลกำไรที่ได้มาจ่ายปันผลส่วนหนึ่ง อีกส่วนนำกลับไปลงทุนเพื่อขยายกิจการเพิ่มเติมต่อไป และเมื่อบริษัทเติบโตมากขึ้นหุ้นก็จะแพงเพิ่มขึ้น ผู้ถือหุ้นก็จะได้กำไรมากขึ้นไปอีก แต่ถ้าบริษัทนำไปดำเนินธุรกิจขาดทุนก็ต้องรับผลการขาดทุนไปด้วยเช่นกัน
การซื้อหุ้นกับบริษัทในตลาดหุ้น ดีหรือแย่กว่าการร่วมหุ้นกันเอง?
การซื้อ-ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์จะมีการโกงได้ยาก หรือมีโอกาสน้อยกว่า เนื่องจากมีการควบคุมโดยหน่วยงานของตลาดหลักทรัพย์อีกที ขณะที่การรวมหุ้นโดยทั่วไปไม่มี นอกจากนี้การลงทุนกับบริษัทที่มีความมั่นคงแม้ภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่เพียงใด โอกาสรอดก็จะมีมากกว่า ร้านค้าหรือธุรกิจขนาดเล็กทั่วไปเพราะมักมีการช่วยเหลือจากรัฐบาลหรือธนาคาร และท้ายที่สุดการลงทุนกับบริษัทใหญ่จะมีสภาพคล่องสูงกว่า หุ้นจึงสามารถเปลี่ยนกลับมาเป็นเงินได้เร็วกว่า หากมีความจำเป็นต้องใช้เงิน หรือเห็นว่าต้องการถอนหุ้น ก็สามารถขายหุ้นได้ทันที น่าสนใจไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ แต่จะได้กำไรหรือขาดทุนนั้นก็ขึ้นอยู่กับราคาหุ้นในช่วงนั้นๆ ด้วย
เราไม่ต้องบริหารธุรกิจเองเหมือนการร่วมหุ้นกับเพื่อน ถึงแม้ว่าบางทีร่วมหุ้นกับเพื่อนเราลงเงินเฉยๆ ไม่ได้บริหารเองก็ตามที แต่เมื่อเทียบกับบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดหุ้น ที่เขามีผู้บริหารตลอดจนทีมงานฝีมือดีๆ มาดูแลแทนให้แล้ว ผมว่ามันอุ่นใจกว่ากันเยอะ เอาเป็นว่ามาซื้อหุ้นกับ กันดีกว่า
