สำหรับรถยนต์ยี่ห้อ MINI จากฝั่งอังกฤษนั้นก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนี่งสุดยอดยานยนต์ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกด้วยดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แถมยังสามารถนำไปตกแต่งในรูปแบบของตนเองที่ไม่เหมือนใคร จึงสามารถกล่าวได้ว่ารถยนต์อย่าง MINIนั้นเป็นโมเดลรถยนต์ของอังกฤษที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
เริ่มต้นตำนานมินิ รถเล็กแต่ดังไปทั่วโลก
รถมินิ ถือกำเนิดครั้งแรกที่เมืองลองบริดจ์ และ คาว์ลีย์ ประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ.1950 ภายใต้คอนเซปท์รถแบบโปรโตไทป์ ที่มีรูปทรงกระทัดรัด แต่พื้นที่ด้านในตัวรถยังคงความกว้างขวาง มีการออกแบบห้องโดยสารให้นั่งสบาย แถมมีพื้นที่เก็บของอย่างครบครัน ซึ่งเมื่อรถมินิคันแรกออกสู่ตลาด ก็ส่งผลให้รถมินิในรุ่นคลาสสิคได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งยานยนต์ของอังกฤษตั้งแต่ปี1990 เป็นต้นมา
ต้นแบบของ มินิคูเปอร์
ส่วนรถยนต์ MINI คูเปอร์ที่เรารู้จักกันดีนั้น มีจุดเริ่มต้นมาจากรถยนต์อินโนเซ็นติ มินิคูเปอร์ 1300 ที่ถึงแม้ว่าจะมีสมรรถนะที่ต่ำกว่ารถยนต์รุ่นเดิมแต่ก็ถือว่าได้รับความนิยมอย่างสูง
“อิสสิกอนิส”มินิคันแรก
จากจุดเริ่มต้นของแนวคิดที่ต้องการรถยนต์ขนาดเล็ก ราคาไม่แพง ทำให้เซอร์ อเล็กซ์ อิสสิกอนิส (Sir Alec Issigonis) นักออกแบบรถยนต์ประจำบริษัท BMC (British Motor Corporation) ยักษ์ใหญ่ของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศอังกฤษ ได้ทำการออกแบบและนำแนวความคิดในการออกแบบรถยนต์รุ่นแรกนี้ไปสู่ทีมงานเพื่อระดมสมองในการออกแบบและสร้างจนได้รถยนต์มินิรุ่นแรกที่ไม่ความยาวไม่เกิน 10 ฟุต กว้างไม่เกิน 6 ฟุต พร้อมกับห้องโดยสารที่สามารถนั่งได้ 3 คน ส่วนความพิเศษของมินิรุ่นแรกนี้ก็คือการวางชุดเกียร์ไว้ใต้เครื่องยนต์ พร้อมกับการย่อส่วนทุกอย่างของรถให้มีขนาดเล็กลงแต่ยังคงประสิทธิภาพในการใช้งานไว้อย่างดีเยี่ยม แต่หลังจาการทดลองขับรถแรกรถเล็กรุ่นนี้ก็ได้พบกับปัญหามากมายและทำให้มีการปรับปรุงพัฒนารูปแบบกันอีกหลายครั้งทั้งทางด้านเครื่องยนต์ ส่วนประกอบหรือรูปทรงก่อนผลิตออกมาเพื่อจำหน่ายและได้รับความนิยมไปทั่วโลก
มินิออสติน
เดือนสิงหาคม1959 รถยนต์อย่างมินิออสตินก็ได้ออกสู่สายตาชาวโลกในครั้งแรก ภายใต้ชื่อ”ออสติน เซเว่น” (Austin Seven) หรือ “มอริส มินิ ไมเนอร์” (Morris Mini Minor) ก่อนทำการเปลี่ยนชื่อเป็นมินิออสตินที่ทุกคนทั่วโลกรู้จักกันดี โดยมินิออสตินนี้ถือว่าเป็นรถยนต์ที่จิ๋วแต่แจ๋วเนื่องจากมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด850 ซีซี 4 สูบ 35 แรงม้า สามารถทำความเร็วได้สูงถึง 122 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงทำให้ได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาดและมียอดจำหน่ายที่ครอบคลุมไปทั่วโลก
