เมื่อคุณเองได้รับใบแจ้งยอดการใช้จ่ายของบัตรเครดิตการ์ด และคุณก็ต้องเกิดการตะลึง ที่ได้เห็นการทำธุรกรรมทั้งหมดของตัวคุณเอง คุณก็จะถูกปรับด้วยค่าธรรมเนียมการเงิน และค่าธรรมเนียมจากการชำระเงินที่การล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้ ซึ่งรวมยอดแล้วก็เป็นจำนวนเงินไม่น้อยกันเลยก็ว่าได้ ทำให้คุณเองเกิดการกังวลใจ แต่หากคุณได้มีการศึกษาเกี่ยวกับดอกเบี้ยบัตรเครดิตกันแล้ว คุณเองก็จะไม่แปลกใจกันเลยค่ะ เมื่อได้รับใบแจ้งยอดในครั้งต่อไป
1.บัตรเครดิตการ์ดที่มีการคิดอัตราดอกเบี้ยทบต้น
ซึ่งดอกเบี้ย ถือได้ว่าเป็นพื้นฐานของการให้เช่าเงิน เมื่อคุณเองใช้บัตรเครดิต ซึ่งคุณเองกำลังยืมเงินของธนาคารใช้แล้ว ถ้าคุณเองไม่ชำระเงินภาในเวลาที่กำหนด ธนาคารก็จะเรียกเก็บค่าเช่าของเงินที่ได้ยืมไป ส่วนทางดอกเบี้ยทบต้นก็คือ การเรียกในรูปแบบง่าย ๆ ดอกเบี้ยของดอกเบี้ย ในแต่วันที่คุณเป็นหนี้ธนาคาร จากการใช้บัตรเครดิต ซึ่งธนาคารจะมีดอกเบี้ย โดยคิดจากจำนวนที่ใช้ วันถัดมา จะถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยจากยอดที่ค้างชำระ และจำนวนเงินที่ทางธนาคารได้ให้ยืมไปด้วย และบวกกับ ค่าเช่าของเมื่อวาน โดยวันรุ่งขึ้นจะมีการถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยที่ค้างชำระใหม่นั่นเอง
2.ดอกเบี้ยที่ถูกคำนวณทบต้นเป็นรายวัน
ถ้าคุณเองฉลาด คุณก็จะพบว่าเราทำการทบต้นดอกเบี้ยเป็นรายวัน ซึ่งธนาคารจะมีการคำนวณดอกเบี้ยของบัตรเครดิตการ์ดบนพื้นฐานแบบรายวัน นั่นก็หมายความว่าอัตราดอกเบี้ยต่อปีที่ทางธนาคารให้มาก็ถูกหารด้วย 365 วัน และจะมีการนำอันตราดอกเบี้ยรายวันนั้น มาทำการคูณยอดคงเหลือของคุณทุกวัน จนกว่าคุณจะมีการชำระหนี้ได้ทั้งหมดนั่นเอง
3.การชะระเงินล่าช้าไม่ใช่แค่เพียงค่าปรับเพียงเท่านั้น
แต่คุณเองจะมีการชำระยอดเต็มจำนวนทุกเดือน เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงอัตราดอกเบี้ยที่มากเกินไป หากโชคไม่ดีคุณอาจจะพบว่าคุณเองมีการชำระช้าไปสองสามวัน
หากการชำระหนี้เครดิตการ์ด ล่าช้าเกินระยะเวลาที่กำหนด สิ่งที่คุณควรทราบคือ จะถูกปรับด้วยดอกเบี้ย โดยนับจากวันที่คุณทำธุรกรรมทั้งหมด ไม่ได้มีการนับจากวันที่ครบกำหนดชำระ คุณเองจะถูกปรับดอกเบี้ย เพราะระยะปลอดดอกเบี้ยเพียงแค่ 20 วันเท่านั้น