เคล็ดลับทำ วีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) อย่างไร ให้ได้ชัวร์!

เคล็ดลับทำ วีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) อย่างไร ให้ได้ชัวร์!
เคล็ดลับทำ วีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) อย่างไร ให้ได้ชัวร์!
สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

สิ้นปีนี้จะไปเที่ยวไหน ถ้าไม่ได้ไปสัมผัสอากาศหนาวและหิมะให้ชื่นใจสักครั้ง แล้วมันจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ประเทศในทวีปยุโรป ไปเล่นสกีน้ำแข็งบนเทือกเขาแอลป์ที่ทอดยาว 3 ประเทศ จะไปชมแสงเหนือที่ไอซ์แลนด์ ไปล่องเรือในแม่น้ำเวนิส ไปเซลฟี่กับหอไอเฟล หรือจะไปเที่ยวเทศกาลสำคัญๆระดับโลกที่ยุโรป แต่ก่อนตัดสินใจเดินทางเรามาทำความรู้จักกับวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) กันก่อน

ก่อนตัดสินใจจะไปเที่ยวที่ไหนในยุโรปสิ้นปีนี้ เรามาทำความรู้และเคล็ดลับทำ วีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) กันก่อน

ทำวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) ไปเที่ยวประเทศอะไรได้บ้าง?

วีซ่านี้สถามารถเดินทางเข้ายุโรปได้ 26 ประเทศ ได้แก่ Austria, Belgium, Czech Republic, Denmark, Estonia, Finland, France, Germany, Greece, Hungary, Iceland, Italy, Latvia, Lithuania, Luxembourg, Malta, Netherlands, Norway, Poland, Portugal, Slovakia, Slovenia, Spain, Sweden, Switzerland, Liechtenstein

รู้แล้วกด Like : ถ้าถือวีซ่าเชงเก้นแบบ Multiple ก็จะสามารถเข้าประเทศ Croatia รวมไปถึงประเทศในแถบบอลข่านได้ ไม่ว่าจะเป็น Macedonia, Bosnia, Albania หรือ Serbia ได้อีกด้วย

โตแล้วจะไปไหนก็ได้ แต่จะไม่มีวีซ่าไม่ได้

เอกสารที่ต้องเตรียมยื่นขอวีซ่าเชงเก้นมีอะไรบ้าง?

  1.  แบบฟอร์มคำร้องในการยื่นขอวีซ่า โหลดแบบฟอร์มจากเว็ปไซต์ และกรอกข้อมูลรายละเอียดให้ครบถ้วนถูกต้อง ซึ่งการขอวีซ่าเชงเก้นในแต่ละประเทศ ก็มีแบบฟอร์มที่แตกต่างกัน และนัดหมายวันเวลาที่สะดวกในการเข้าไปยื่นเอกสารทำวีซ่า ระยะเวลาในการทำจริงไม่นานเลย
  2. หนังสือเดินทาง (Passport) หนังสือเดินทางต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับกันไปจนถึงวันที่ออกจากประเทศเชงเก้น (จะได้รับหนังสือเดินทางคืนในภายหลังการแจ้งให้ไปรับวีซ่า)
  3. สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน ต้องเตรียมไว้ตลอด แม้กระทั่งวันที่ไปรับหนังสือเดินทาง(วีซ่า) ซึ่งถ้าลืม ก็สามารถถ่ายที่นั่น หรือบริเวณใกล้เคียงได้ แต่ราคาก็อาจจะแพงมาก และเสียเวลาในการหาร้านถ่ายเอกสารอีกด้วย
  4. รูปถ่ายสีขนาด 2 นิ้ว ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน โดยแจ้งทางร้านถ่ายรูปไปได้เลยว่าจะขอวีซ่าเชงเก้น ซึ่งโดยประสบการณ์ตรงบางร้านก็เข้าใจและถ่ายได้เลย แต่บางร้านก็ไม่รู้รายละเอียด ซึ่งเราอาจจะต้องบอกรายละเอียด ว่าต้องการภาพถ่าย หน้าตรง พื้นหลังขาว และเห็นใบหน้าชัดเจน (เปิดหู และถอดเครื่องประดับ)
  5. ประกันการเดินทาง เป็นสิ่งคุณจำเป็น “ต้องซื้อ” โดยตอนซื้อต้องระบุประเทศให้ครอบคลุมทั้งหมด รวมไปถึงระยะเวลาตั้งแต่วันบินไป-กลับ และต้องมีวงเงินประกันที่คุ้มครองทั้งค่าพยาบาล หรือประกันอื่นๆ ไม่น้อยไปกว่า 1,500,000 บาท หรือ 30,000 ยูโร โดยเราสามารถเช็คกับทางประกันได้ว่ามีประกันเจ้าไหนบ้าง ที่ทางสถานทูตรับรองวีซ่าเชงเก้น สามารถเข้าไปเปรียบเทียบราคาประกันเดินทางและซื้อได้ ที่นี่
  6. ตั๋วเครื่องบิน เป็นอีกเอกสารจำเป็น ที่เราต้องนำไปยื่นในการขอวีซ่าเชงเก้น สามารถซื้อกับบางเว็บไซต์ที่สามารถยกเลิกในกรณีที่ยื่นวีซ่าไม่ผ่านได้ หรือจะซื้อไปเลย และยื่นใบจอง และชำระเงินเลยทั้งขาไป-กลับ ก็สร้างความน่าเชื่อถือให้แก่เอกสารของเราในการยื่นวีซ่าอีกด้วย
  7. ใบจองที่พัก การจองที่พัก หากมีเทคนิคดีๆ แล้ววีซ่าไม่ผ่าน คุณจะได้ไม่ต้องเสียค่าที่พักไปฟรีๆ ให้ลองเข้ามาดูที่พักใน Skyscanner แล้วใช้ตัวกรองค้นหาที่พัก แบบยกเลิกได้ฟรี หรือถ้าหากคืนไหนคุณต้องนอนบนรถไฟ ก็ต้องระบุไปด้วยว่านอนบนเรือ บนรถ เป็นต้น ห้ามใช้คำว่า walk in ในการท่องเที่ยวในยุโรปเด็ดขาด

รู้แล้วกด Like : กรณีจะไปค้างบ้านเพื่อนหรือญาติ กรณีนี้เอกสารจะยุ่งยากเพิ่มขึ้น เพราะต้ององมีจดหมายเชิญจากบุคคลที่เราจะไปพักด้วยทั้งตัวจริงและสำเนาโดยละเอียด อธิบายถึงความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ฝ่าย รวมถึงเอกสารรับรองจากเมืองที่เราจะไปพัก โดยญาติหรือเพื่อนเราจะต้องไปยื่นขอและส่งตัวจริงมายังประเทศไทย ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินเรื่อง และการส่งข้ามประเทศอีกด้วย

  1. แผนการเดินทางฉบับย่อ สรุปแผนการเดินทางทั้งหมด เช่นวันที่นี้ อยู่เมืองนี้ และไปเมืองนี้ ข้ามไปประเทศต่อไปอย่างไร ถ้าเป็นไปได้ ใส่ชื่อโรงแรม ใบจองรถไฟต่างๆ ในการเดินทางลงไปด้วย และที่สำคัญ ถ้าหากเค้าถามแพลนในการท่องเที่ยว ต้องตอบแพลนให้ได้
  2. เอกสารรับรองการทำงาน สำคัญมากๆ ต้องให้ทางบริษัทออกจดหมายรับรองให้ โดยต้องระบุตำแหน่ง วันที่เริ่มงาน เงินเดือน วันเวลาในการลาพักร้อน และต้องครอบคลุมวันที่เราจะเดินทาง ระบุวันที่กลับมาทำงาน พร้อมลายเซ็น และประทับตาบริษัท ซึ่งจดหมายจะต้องเป็นภาษาอังกฤษ หรือภาษาประจำชาติของประเทศที่เราขอวีซ่า ถ้าหากคุณเป็นเจ้าของกิจการ ก็ต้องมีหนังสือจดทะเบียนบริษัทเป็นชื่อเรามาเป็นหลักฐาน ซึ่งหลักฐานเหล่านี้ จะเป็นตัวยืนยันว่าคุณจะไม่ไปอยู่ในประเทศเค้าแล้วไม่กลับมาเมืองไทยนั่นเอง
  3. เอกสารรับรองทางการเงิน เพียงขอเอกสารรับรองทางการเงินจากธนาคารเป็นภาษาอังกฤษ เพียงแสดงว่าเราเปิดบัญชีกับธนาคารนี้ และมียอดเงินหมุนเวียนตลอด และแจ้งว่าเราจะนำไปใช้เพื่อขอวีซ่าเชงเก้น ระบุประเทศ ธนาคารจะแสดงค่าเงินของเราเป็นไทยบาทและค่าเงินประเทศที่เราจะไป
  4. สลิปเงินเดือนตัวจริงและถ่ายเอกสารย้อนหลัง ถ้ามีภาษาอังกฤษกำกับอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องแปล แต่ถ้ามีแค่ภาษาไทย ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาราชการของประเทศที่เราขอยื่นวีซ่า
  5. Statement ย้อนหลัง 6 เดือน อาจจะปริ้นจากอินเตอร์เนทได้ หรือขอแนะนำให้ไปขอจากธนาคาร ซึ่งเราสามารถขอเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษได้เลย
  6. จดหมายรับรองทางการเงินจากธนาคาร เป็นจดหมายรับรองจากทางธนาคาร ว่าเราเปิดบัญชีกับธนาคารนี้ และมียอดเงินหมุนเวียน โดยแจ้งทางธนาคารได้เลยว่าใช้เพื่อขอวีซ่าเชงเก้น

รู้แล้วกด Like : ค่าธรรมเนียม โดยส่วนมากค่าธรรมเนียมวีซ่าเชงเก้น จะอยู่ที่ประมาณ 60 ยูโร

ถ้าเตรียมเอกสารครบถ้วน นัดและไปสัมภาษณ์ตามวันเวลา ยื่นเอกสารเรียบร้อย ก็เตรียมตัวรอรับวีซ่าได้เลย ทางเอเจนซี่หรือสถานฑูตจะส่งอีเมลและ sms มาแจ้ง การพิจารณาเร็วหรือช้าก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง อย่าง เช่น ช่วง high season ก็จะรอนานเป็นพิเศษ เร็วที่สุดอาจจะได้รับใน 2 วันทำการ จนถึงมากกว่า 2 สัปดาห์ก็ได้