สุดยอดปัญหาที่ชวนปวดหัวมากกับบัตรกดเงินสด บัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็ม แล้วบัตรเดบิตละคืออะไร? วันนี้มาสิจะมาตอบปัญหาแบบง่ายๆ ให้ว่าคุณเหมาะจะใช้บัตรใบไหนกันแน่? แล้วบัตรใบไหนที่จะทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น มาสิจะบอกให้
บัตรแบบไหนที่เหมาะสำหรับคุณ?
บัตรเครดิต
ถ้าพูดภาษาทางการก็คือบัตรที่สถาบันทางการเงินจะให้เครดิตเราไปเผื่อใช้รูดซื้อของก่อน โดยเราสามารถรูดเพื่อซื้อของได้ตามวงเงินที่อนุมัติซึ่งจะขึ้นอยู่กับรายได้หรือเงินที่ค้ำ และต้องจ่ายเงินตามจำนวนที่รูดทั้งหมด หรือง่ายๆ ก็คือเรายืมเงินในบัตรเครดิตออกมาใช้เพื่อซื้อของ และต้องคืนเงินเมื่อได้รับบิลแจ้งยอด ถ้าคืนเงินครบในเดือนถัดมาเราก็สามารถรูดได้เต็มจำนวนได้ แต่ถ้าจ่ายไม่ครบก็อาจจะเสียดอกเบี้ยได้ โดยจุดเด่นของบัตรเครดิตคือจะมีสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้ง ส่วนลดพิเศษตามร้านค้าที่ร่วมรายการ คะแนนสะสมเมื่อมีการรูดจ่ายสินค้าผ่านบัตรเครดิตเพื่อนำไปแลกของรางวัล เครดิตเงินคืน ยังร่วมถึงการเข้าเลาน์พิเศษ บริการเลขาส่วนตัวต่างๆ ในบางเจ้าก็จะมีสิทธิในการผ่อนสินค้าด้วยดอกเบี้ยต่ำสุดถึง 0% กี่เดือนก็ว่าไป และยังสามารถใช้กดเงินสดได้ แต่จะมีข้อกำหนดว่าต้องกดขั้นต่ำที่อาจสูงถึง 3,000 บาท (ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของสถาบันทางการเงินนั้นๆ) อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3% และเสียค่า VAT 7% อีก
จุดเด่น
- สามารถรูดซื้อของหรือบริการได้ผ่านเครื่องรูดบัตรเครดิต และการซื้อของผ่านอินเตอร์เน็ต
- จะมีสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น ส่วนลด เครดิตเงินคืน คะแนนสะสม สะสมไมล์
- สามารถกดเงินได้ แต่อาจมีขั้นต่ำที่ 3,000 บาทและจะเสียค่าธรรมเนียมและภาษีมูลค่าเพิ่ม และคิดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่วันแรกที่กด
- สามารถผ่อนซื้อสินค้าได้ โดนจะมีการเสียดอกเบี้ยและกำหนดระยะเวลาชัดเจน
- สามารถขอจ่ายขั้นต่ำได้ต่ำสุด 10% ของยอดที่ใช้
ข้อจำกัด
- ต้องมีอาชีพประจำ หรืออาชีพอิสระจำเป็นจะต้องนำเงินมาค้ำ
- การจะผ่านการอนุมัติจะขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของสถาบันทางการเงินนั้นๆ ซึ่งส่วนมากมักกำหนดรายได้พื้นฐาน 15,000 บาท/เดือน
- มีวงเงินจำกัดอาจจะเป็น 2-5 เท่าของเงินเดือน
- การกดเงินสดจะมีดอกเบี้ยที่ตามมาและวงเงินต่ำสุดที่กดคือ 3,000 บาท
- ไม่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีได้
บัตรกดเงินสด
เป็นสินเชื่อส่วนบุคคลรูปแบบนึง แต่ต่างกับสินเชื่อส่วนบุคคลตรงที่ว่า เราจะได้เงินสดในบัตรแทน ไม่สามารถนำไปรูดเพื่อซื้อสินค้าหรือทำธุรกรรมทางอินเตอร์ได้ ซึ่งวิธีการใช้คือการกดเงินสดผ่านตู้ ATM เท่านั้น
ง่ายๆ ก็เหมือนเป็นบัตรเอทีเอ็มที่เราไม่ต้องมีเงินฝาก แต่สถาบันทางการเงินจะอนุมัติจำนวนนึงให้เราใช้ ซึ่งถ้าไม่มีการกดเงินเหล่านั้นออกมา เราก็ไม่จำเป็นต้องเสียดอกเบี้ย ข้อดีอีกอย่างคือเราสามารถกดเงินเหล่านั้นเมื่อไรก็ได้ ไม่มีค่าธรรมเนียมการกดเงินกวนใจ แต่ในส่วนของดอกเบี้ยนั้นก็มีอัตราดอกเบี้ยที่สูงถึง 20-28%
จุดเด่น
- สมัครง่ายไม่ต้องมีคนค้ำประกัน
- รายได้เริ่มต้นที่ 8,000 บาทก็สามารถสมัครได้
- เหมาะกับคนที่ต้องการใช้เงินสด โดยสามารถกดขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 100 บาท
- สะดวกสบายมากในการกดเงิน ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
- ถ้าไม่มีการกดเงินออกมา ก็ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย
- จ่ายขั้นต่ำได้ 3-5% ของยอดที่กด
ข้อจำกัด
- ไม่สามารถนำรูดซื้อสินค้าได้หรือโอนเงินได้
- อัตราดอกเบี้ยสูงถึง 20-28%
บัตรเอทีเอ็ม
บัตรที่เราใช้กดเงินสดออกมา แต่ต่างจากบัตรเงินสดที่ว่า เงินสดนั้นจะมาจากบัญชีเงินออมทรัพย์ของเรา เท่ากับเราไม่ต้องเสียดอกเบี้ยเมื่อเรากด แต่ข้อจำกัดก็มีคือ อาจมีการเสียค่าธรรมเนียมเมื่อมีการกดต่างธนาคารหรือกดตามต่างจังหวัด และบัตรเอทีเอ็มนั้นทำได้แค่เพียงกดเงินสดเท่านั้น ไม่สามารถนำไปรูดซื้อสินค้าได้ ซึ่งเราสามารถไปเลือกเปิดบัญชีกับธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกร หรือธนาคารกรุงเทพก็ได้ค่ะ ซึ่งจะมีค่าเปิดบัญชีเริ่มต้นที่ 500-1,000 บาท
จุดเด่น
- นอกจากกดเงินสดแล้วยังสามารถโอนเงินไปตามบัญชีต่างๆ หรือนำเงินมาฝากเข้าบัญชีได้
- มีเงินในบัญชี และต้องการที่จะกดเงินสดออกมาใช้เป็นหลัก
- ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยถ้ากดเงินสดออกมา และกดได้ขั้นต่ำสุด 100 บาท
ข้อจำกัด
- ไม่สามารถนำรูดซื้อสินค้าได้
- เสียค่าธรรมเนียมเมื่อกดเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็มต่างธนาคารและสาขาต่างตังหวัด
บัตรเดบิต
บัตรเดบิตก็คือบัตรเอทีเอ็มที่สามารถรูดซื้อของได้ เพราะบัตรใบนี้แหละที่คุณสามารถกดเงินสดออกจากตู้เอทีเอ็มได้ และสามารถรูดผ่านเครื่องรูดบัตรเครดิตได้หรือสามารถทำธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ต (แต่จำเป็นจะต้อง verified บัตรก่อนนะครับ) ได้แทนบัตรเครดิต แต่ข้อจำกัดก็คือทุกครั้งที่มีการรูดอาจไม่ได้รับสิทธิพิเศษเหมือนบัตรเครดิต จะไม่มีการได้ส่วนลด คะแนนสะสม เครดิตเงินคืนต่างๆ และยังมีค่าธรรมเนียมในการกดเงินสดออกจากตู้ธนาคารต่างสาขาหรือต่างจังหวัดอีกด้วย นอกจากนั้นยังไม่สามารถใช้เพื่อผ่อนสินค้าได้
จุดเด่น
- นอกจากกดเงินสดแล้วยังสามารถโอนเงินไปตามบัญชีต่างๆ หรือนำเงินมาฝากเข้าบัญชีได้
- มีเงินในบัญชี และต้องการที่จะกดเงินสดออกมาใช้เป็นหลัก
- ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย ถ้ากดเงินสดออกมา และกดได้ขั่นต่ำสุด 100 บาท
- สามารถใช้เพื่อรูดซื้อของผ่านเครื่องรูดบัตรเครดิตได้ รวมถึงทำการซื้อของผ่านอินเตอร์เน็ต
ข้อจำกัด
- เสียค่าธรรมเนียมเมื่อกดเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็มต่างธนาคารและสาขาต่างตังหวัด
- ไม่มีสามารถผ่อนสินค้าได้ จำเป็นต้องรูดบัตรเต็มจำนวน
- ไม่มีส่วนลด คะแนนสะสม เครดิตเงินคืนต่างๆ เหมือนบัตรเครดิต
สรุปง่ายๆ ก็คือบัตรจำพวกนี้แบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆ คือพวกที่มาจากเงินในบัญชีออมทรัพย์ของเรา อย่าง บัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิต เมื่อมีการกด เงินเหล่านั้นก็ออกจากเงินของเรา ไม่จำเป็นต้องจ่ายคืน กับประเภทที่สถาบันทางการเงินออกเครดิตหรือเงินให้เราใช้ก่อน แล้วเราค่อยจ่าย/ผ่อนคืน โดยความยากง่ายในการสมัครบัตรแต่ละใบนั้นเรียงลำดับจากบัตรเอทีเอ็ม = บัตรเดบิต ตามด้วยบัตรเงินสด และบัตรเครดิต ที่จะมีการอนุมัติยากที่สุด แต่คุณประโยชน์ที่ครบครัน
สำหรับใครที่สนใจสมัครบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสด สามารถดูเคล็ดลับสมัครบัตรกดเงินสดหรือบัตรเครดิตให้ผ่านง่ายๆ ได้ นอกจากนี้ใครที่สนใจบัตรเครดิต สามารถเลือกเปรียบเทียบได้เลย มาสิ เทียบง่ายถูกใจชัวร์