รวมวิธีต่อ พ.ร.บ. ต่อภาษี รถยนต์ และ รถจักรยานยนต์ 2567 ( พร้อมซื้อ ประกันรถยนต์ และประกันมอเตอร์ไซค์ ที่นี่ )

ต่อภาษี รถยนต์
รวมวิธีต่อ พ.ร.บ. ต่อภาษี รถยนต์ และ รถจักรยานยนต์ 2567 ( พร้อมซื้อ ประกันรถยนต์ และประกันมอเตอร์ไซค์ ที่นี่ )
สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

การต่อ พ.ร.บ. ต่อภาษี รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำในทุก ๆ ปี ในบทความนี้ เราจะมาอัปเดตข้อมูล พร้อมวิธีต่อ พ.ร.บ. และต่อภาษี รวมถึงการต่อภาษีทางออนไลน์ เอกสารที่ต้องเตรียม ต่อได้ที่ไหนบ้างให้สะดวก รวดเร็ว อ่านจบแล้วทำตามได้เลย ( พร้อมซื้อ ประกันรถยนต์ และประกันมอเตอร์ไซค์ ที่นี่ )

การต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ และ รถจักรยานยนต์ คืออะไร?

( พร้อมซื้อ ประกันรถยนต์ และประกันมอเตอร์ไซค์ ที่นี่ )

การต่อ พ.ร.บ. หรือประกันภัยรถภาคบังคับ ตามกฎหมาย รถทุกคันไม่ว่าจะรถยนต์ หรือ รถมอเตอร์ไซค์ จำเป็นต้องมี ไม่เช่นนั้นถือว่ามีความผิดทางกฎหมาย จุดประสงค์เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความคุ้มครองหากได้รับความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย หรือ อนามัยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจากรถได้ทันท่วงที เมื่อมีการต่อ พ.ร.บ. เรียบร้อยแล้วจึงนำไปยื่นต่อภาษีรถในขั้นตอนต่อไป

เอกสารสำคัญในการ ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ และรถจักรยานยนต์มีอะไรบ้าง?

  1. เอกสารคู่มือจดทะเบียนรถ หรือสำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ ที่ระบุรายละเอียดรถ ทะเบียนรถ ผู้ครอบครอง และประเภทรถ
  2. สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถ ซึ่งเป็นผู้ที่มีชื่อเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถ นำเอกสารไปยื่นต่อ พ.ร.บ. กับบริษัทประกันรถยนต์ทั่วประเทศ หรือ ตัวแทนนายหน้า ในปัจจุบันการต่อพ.ร.บ. ยังสามารถทำได้สะดวก รวดเร็ว ผ่านระบบ e-service ของกรมการขนส่งทางบกได้อีกด้วย

การ ต่อภาษีรถยนต์ และรถจักรยานยนต์คืออะไร?

การต่อภาษีรถ หรือจะเรียกว่าการต่อทะเบียนรถ เป็นการยืนยันว่ารถคันดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่รถเถื่อน หรือรถไม่มีทะเบียน ซึ่งจะต้องทำการต่อไปในทุกปีเช่นกัน สามารถต่อทะเบียนรถล่วงหน้าก่อนจะหมดอายุได้ไม่เกิน 3 เดือน หากต่อภาษีช้าก็จะถูกคิดอัตราปรับ แต่หากไม่มีการต่อภาษีเกิน 3 ปี จะถูกระงับทะเบียน ถ้าจะใช้รถต้องขึ้นทะเบียนใหม่เท่านั้น

เอกสารสำคัญในการ ต่อภาษีรถยนต์ และรถจักรยานยนต์มีอะไรบ้าง?

  1. เล่มทะเบียน หรือสำเนาเล่มทะเบียน
  2. สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถ ซึ่งเป็นผู้ที่มีชื่อเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถใบตรวจสภาพรถ โดยกรมการขนส่งได้กำหนดเงื่อนไขดังนี้รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี และ รถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี จะต้องนำรถไปสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ต.ร.อ) เพื่อตรวจสภาพรถก่อนต่อภาษี
  3. พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ

ต่อภาษีรถยนต์ และรถจักยานยนต์ที่ไหนได้บ้าง?

นอกจากต่อภาษีรถได้ที่กรมการขนส่งทางบกแล้ว ยังสามารถต่อภาษีในสถานที่เอกชนได้อีกหลายแห่ง เมื่อเตรียมเอกสารพร้อมแล้ว ก็เลือกต่อภาษีในช่องทางที่สะดวกได้ดังต่อไปนี้

  1. สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 5 ซึ่งมีบริการแบบ Drive Thru for Tax หรือ เลื่อนล้อต่อภาษี โดยต้องเตรียมเอกสาร ได้แก่ เล่มทะเบียน พ.ร.บ. และใบผ่านการตรวจรถ หากรถยนต์มีอายุการใช้งาน 7 ปี และรถจักรยานยนต์ใช้งานเกิน 5 ปี ต้องมีใบผ่านการตรวจรถด้วย ที่สำคัญต้องเตรียมจำนวนเงินให้พอดี เพื่อยื่นเอกสารพร้อมชำระเงินได้ทันที สะดวกสบาย ไม่ต้องลงจากรถ
  2. สำหรับในต่างจังหวัด ติดต่อที่กรมการขนส่งทางบกของจังหวัด
  3. ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ ห้างสรรพสินค้า ที่เข้าร่วมโครงการ Shop Thru for Tax ตามวัน และเวลา ได้ดังนี้
  4. ห้างสรรพสินค้า ที่เข้าร่วมโครงการ Shop Thru for Tax ตามวัน และเวลา ได้ดังนี้
  5. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
  6. เคาน์เตอร์เซอร์วิส

กรมการขนส่งทางบก ได้เพิ่มช่องทางในการ ชำระภาษีรถ 7 ช่องทาง

โดยเผยแพร่ ระเบียบกรมการขนส่งทางบกว่าด้วยการชำระภาษีประจำปี สำหรับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ. 2564 ไว้ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2564 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการชำระภาษีรถยนต์ สำหรับ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รย.1) รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รย.3) ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี นับแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก และรถยนต์และรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล (รย.12) ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี นับแต่วันจดทะเบียนครั้งแรก

สรุประเบียบกรมการขนส่งทางบก ว่าด้วยการชำระภาษีรถประจำปี ดังนี้

  1. ชำระภาษีรถประจำปีผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ในเว็บไซต์์ https://eservice.dlt.go.th
  2. ชำระภาษีประจำปีผ่านการหักบัญชีเงินฝากธนาคาร
  3. ชำระภาษีประจำปีผ่านเทสโก้โลตัส
  4. ชำระภาษีประจำปีสำหรับรถผ่านหน่วยบริการของ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส
  5. ชำระภาษีประจำปีสำหรับรถผ่านหน่วยบริการของ บริษัท ทรู มันนี่
  6. ชำระภาษีประจำปีผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่
  7. ชำระภาษีรถประจำปีตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ผ่านตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) และแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax

การ ต่อภาษีรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ทางออนไลน์ผ่านระบบ e-service

ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกเปิดให้บริการยื่นชําระภาษีรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ทางออนไลน์ซึ่งเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุด สถิติประจำเดือนพฤษภาคม 2564 มีจำนวนผู้ใช้บริการ ผ่านทางเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th สูงถึง 50,753 คัน ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเมื่อเทียบกับช่องทางอื่น ๆ

การต่อภาษีรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ในระบบ e-service มีเงื่อนไขคือ รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี และรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งาน เกิน 5 ปี จะต้องนำรถไปสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ต.ร.อ) เพื่อตรวจสภาพรถก่อนต่อภาษีทางออนไลน์

วิธีลงทะเบียนยื่นต่อภาษีทางออนไลน์

1. เข้าเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th

ต่อภาษีรถยนต์ ออนไลน์
เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th

2. ลงทะเบียนสมาชิกใหม่ กรอกข้อมูล และ Log-in เข้าสู่ระบบอีกครั้ง

ต่อภาษีรถยนต์ ออนไลน์
ลงทะเบียนสมาชิกใหม่ กรอกข้อมูล และ Log-in เข้าสู่ระบบอีกครั้ง

3. ไปที่ส่วนของ “บริการ” และ คลิกเมนู “ชำระภาษีรถยนต์ประจำปีผ่านอินเทอร์เน็ต”

ต่อภาษีรถยนต์ ออนไลน์
ไปที่ส่วนของ “บริการ” และ คลิกเมนู “ชำระภาษีรถยนต์ประจำปีผ่านอินเทอร์เน็ต”

4. กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถ รายละเอียดเกี่ยวกับ พ.ร.บ. เพื่อลงทะเบียนรถ แล้วยื่นชำระภาษี

ต่อภาษีรถยนต์ ออนไลน์
กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถ รายละเอียดเกี่ยวกับ พ.ร.บ. เพื่อลงทะเบียนรถ แล้วยื่นชำระภาษี

5. เลือกวิธีการชำระเงิน

  1. หักผ่านบัญชีธนาคาร
  2. ชำระผ่านบัตรเครดิต
  3. ชำระผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส

นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบสถานะการยื่นชำระภาษี สถานะการจัดส่งเอกสาร ผ่านระบบ e-service การรับเอกสารใบเสร็จรับเงิน เครื่องหมายแสดงการเสียภาษี และ พ.ร.บ. โดยรอรับเอกสารทางไปรษณีย์ประมาณ 5 วันทำการ ถือว่าเป็นช่องทางที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการอย่างมาก ไม่ต้องเดินทาง หรือไปต่อคิวที่กรมการขนส่ง ดูคู่มือและการใช้งาน e-service

สรุป

การต่อ พ.ร.บ.และการต่อภาษี รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ไม่ใช่เรื่องยาก และเป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ทุกคนต้องใส่ใจ ไม่ให้หมดอายุ เพราะหากไม่ได้ต่อภาษี อาจทำให้ทะเบียนรถถูกระงับ และมีค่าปรับ หรือ หากรถไม่มีพ.ร.บ. ก็จะถือว่าผิดกฎหมาย และมีค่าปรับด้วยเช่นกัน

…………………………………………………..

ทุกๆ การขับขี่บนท้องถนนนั้นก็ยังคงเป็นสิ่งที่สิงห์นักบิดทุกคนควรให้ความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎจราจร สวมใส่หมวกกันน็อค หรือแม้แต่มีหลักประกันที่จะเข้ามาช่วยคุ้มครองความเสี่ยงบนท้องถนนครับ ซึ่งนั่นก็คือ การทำ ประกันมอเตอร์ไซค์ นั่นเอง และสำหรับใครที่ต้องการ ทำประกันมอเตอร์ไซค์ สามารถ คลิกที่นี่ เพื่อ ซื้อประกันมอเตอร์ไซค์ กับ www.masii.co.th ได้ง่ายๆ หรือโทร 02 710 3100 เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมครับ

สนใจ สมัคร ประกันภัยรถมอเตอร์ไซค์

เปรียบเทียบประกันมอเตอร์ไซค์ ที่ใช่! สำหรับคุณ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

และอย่าลืมแอดไลน์มาเป็นเพื่อนกับเราที่ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ เกี่ยวกับ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันรถยนต์ ประกันภัยโดรน ประกันสุขภาพ ประกันเดินทาง รวมถึงสินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิตจากสถาบันการเงินชั้นนำ

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม

 

……………………………………………………………………………..

 มาสิ ขอยืนยันว่า สิ่งสำคัญที่รถยนต์ทุกคันควรมี นั่นคือ ประกันรถยนต์ครับ ซึ่งเราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า ประกันรถยนต์ มีความสำคัญและจำเป็นต่อผู้ขับขี่รถยนต์ทุกคนเป็นอย่างมาก เพราะว่าช่วยให้ความคุ้มครองในกรณีที่รถยนต์เกิดอุบัติเหตุจนเกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งประกันรถยนต์ในปัจจุบันก็มีให้เลือกมากมายหลากหลายบริษัท และที่ดีกว่าเดิมคือ วันนี้คุณสามารถ ซื้อประกันรถยนต์ ออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์มาสิ  ได้อย่างง่ายๆ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

ซื้อประกันรถยนต์ ออนไลน์ กับเว็บไซต์ masii มีขั้นตอนอย่างไร ?

ซื้อประกันรถยนต์ ออนไลน์ กับเว็บไซต์ masii มีขั้นตอนอย่างไร

  1. เข้าเว็บไซต์ masii.co.th

เข้าเว็บไซต์มาสิ www.masii.co.th แล้วเลือกแถบ “ ประกันรถยนต์ ” เพื่อทำการ เปรียบเทียบประกันรถยนต์ และเลือกซื้อประกันรถยนต์

ซื้อประกันรถยนต์ ออนไลน์ กับเว็บไซต์ masii มีขั้นตอนอย่างไร

  1. กรอกข้อมูลรถยนต์ที่ต้องการทำ ประกันรถยนต์

กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถยนต์ที่ต้องการทำประกัน ได้แก่ ปีที่จดทะเบียน ยี่ห้อและรุ่นของรถ พร้อมกรอกเบอร์โทรศัพท์ จากนั้นคลิก  “ เปรียบเทียบเลย ”

ซื้อประกันรถยนต์ ออนไลน์ กับเว็บไซต์ masii 

  1. เลือกประเภท ประกันรถยนต์ ที่ต้องการ

จากนั้น เว็บไซต์มาสิจะแสดงผล ประกันภัยรถยนต์ ที่เหมาะสมมาให้ โดยสามารถคลิกตัวเลือกอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ประเภทประกันภัย ได้แก่ ประกันรถยนต์ชั้น 1 , ประกันรถยนต์ชั้น 2 , ประกันรถยนต์ชั้น 2+ , ประกันรถยนต์ชั้น 3 และ ประกันรถยนต์ชั้น3+ รวมถึงความคุ้มครองอื่นๆ ที่ต้องการ

  1. สามารถ เปรียบเทียบประกันรถยนต์ ได้

นอกจากนี้เรายังสามารถคลิกเปรียบเทียบประกันรถยนต์ที่ต้องการ เพื่อนำมาเปรียบเทียบรายละเอียดความแตกต่างในภายหลังได้

ซื้อประกันรถยนต์ ออนไลน์ กับเว็บไซต์ masii มีขั้นตอนอย่างไร

  1. เลือก ประกันรถยนต์ ที่ต้องการซื้อ

หลังจากเปรียบเทียบประกันรถยนต์ และตัดสินใจได้แล้วว่าจะซื้อประกันรถยนต์ตัวไหน ให้คลิก “ สนใจ ” จากนั้นเว็บไซต์จะให้กรอกข้อมูลสำหรับให้เจ้าหน้าที่ติดต่อดำเนินการขั้นสุดท้าย

  1. กรอกเบอร์โทรศัพท์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อดำเนินการในขั้นตอนสุดท้าย

กรอกหมายเลขโทรศัพท์ แล้วคลิก “ ยืนยัน ” เมื่อทีมงานมาสิได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว จะดำเนินขั้นตอนการชำระเงินเป็นลำดับสุดท้ายครับ

สนใจสมัคร ประกันรถยนต์

เปรียบเทียบประกันรถยนต์ แบบง่าย ๆ กับมาสิ  ได้เลย

สอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม

ต้องบอกเลยว่า การ ซื้อประกันรถยนต์ ออนไลน์ กับ มาสิ ช่วยให้คุณดำเนินการในเรื่อง ประกันรถยนต์ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว แถมยังสามารถเลือกประกันรถยนต์ที่ตรงกับความต้องการได้อีกด้วย โดยสามารถ คลิกที่นี่ เพื่อซื้อประกันรถยนต์ ออนไลน์ หรือ เปรียบเทียบประกันรถยนต์ กับเว็บไซต์มาสิได้ง่ายๆ และหากใครที่ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถโทรมาที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii เพื่อพูดคุยกับทีมงานมาสิได้เลยครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม เกี่ยวกับ ประกันภัยรถยนต์

_____________________________________________

Please become Masii Fan

Facebook: https://lnkd.in/gFFh8mh
Website: www.masii.co.th
Blog: https://masii.co.th/blog
Line: @masii
Tel: 02 710 3100
Youtube: https://lnkd.in/gbQf9eh
Instagram: https://lnkd.in/ga4j5ri
Twitter: twitter.com/MasiiGroup
#บัตรเครดิต #สมัครบัตรเครดิตออนไลน์
#ทำบัตรเครดิต #บัตรเครดิตใบแรก
#สินเชื่อส่วนบุคคล #บัตรกดเงินสด #เงินด่วนทันใจ
#สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์ #กู้เงิน #เงินสด #เงินก้อน
#เงินด่วน #เงินกู้ทันใจ#masii #มาสิ #ครบง่ายสะดวก
#เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า
#SimplifiedComparison

ซื้อประกันรถยนต์หรือพรบ. ฟรีบริการ ต่อภาษีรถ