เลือกประกันมอเตอร์ไซค์อย่างไรให้เหมาะกับเรา

เลือกประกันมอเตอร์ไซค์อย่างไรให้เหมาะกับเรา
เลือกประกันมอเตอร์ไซค์อย่างไรให้เหมาะกับเรา
สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

สำหรับคนที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์เป็นประจำ คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่เรามีประกันภัยมอเตอร์ไซค์ทำให้เราอุ่นใจมากขึ้นในการขับขี่ แต่หลายๆ คนก็ยังไม่ทราบว่า เอ๊ะ เราจะเลือกประกันมอเตอร์ไซค์ยังไงให้เหมาะกับตัวเรา วันนี้ทาง masii จะมาให้เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้กัน

 

เลือกประกันภัยรถมอเตอร์ไซค์ให้เหมาะกับเรา

 เลือกประกันมอเตอร์ไซค์อย่างไรให้เหมาะกับเรา

อย่างแรกเลยผู้ที่ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์จะต้องรู้จักว่าประกันภัยมอเตอร์ไซค์มีกี่ประเภทกันนะ ?

พอเราศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับประกันภัยมอเตอร์ไซค์กันแล้ว เรามาดูกันต่อเลยว่า ก่อนที่เราจะเลือกซื้อประกันภัยเราต้องสำรวจอะไรกันบ้าง

1. สำรวจพฤติกรรมการขับและการใช้รถของเรา

หลายๆ คนอาจจะมีการใช้รถ หรือการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ในชีวิตประจำวันไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราต้องมาดูกันว่าพฤติกรรมการใช้รถ หรือการขี่รถมอเตอร์ไซค์เป็นแบบไหน เช่น

  • มือใหม่หัดขับ : ดูเหมือนว่าคนกลุ่มนี้เหมาะกับการซื้อประกันภัยมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 มากกว่า เนื่องจากให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งเกิดอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี และไม่มีคู่กรณี จะได้สบายใจหายห่วง
  • คนที่ขับรถในเมือง : คนที่ขับขี่เป็นประจำในเมืองไม่ว่าจะไปทำงาน หรือไปเรียนก็ตาม อย่างที่เรารู้ๆ กันว่าในเมืองรถติด รถเยอะขนาดไหน กลุ่มคนเหล่านี้เหมาะกับประกันภัยมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+ เนื่องจากคุ้มครองทั้งคู่กรณีและตัวเราด้วย คุ้มสุดๆ ไปเลย
  • คนที่ขับรถไปต่างจังหวัด : สำหรับใครที่ต้องขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปทำงานต่างจังหวัดบ่อย ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดใกล้ๆ หรือต้องขี่รถกลับบ้านที่ต่างจังหวัด เหมาะกับการทำประกันภัยชั้น 2+ เช่นเคยประกันภัยมอเตอร์ไซค์ชั้นนี้ ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งตัวเราและคู่กรณี ทำให้รู้สึกอุ่นใจในขณะขับขี่เพิ่มมากขึ้น
  • คนที่ไม่ค่อยได้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ : บางคนอาจจะมีรถยนต์ส่วนตัวอยู่แล้ว แล้วก็ยังมีมอเตอร์ไซค์เอาไว้เวลาขับไปไหนใกล้ๆ แต่ก็อยากมีประกันเอาไว้ให้อุ่นใจ แนะนำว่าเราเหมาะกับประกันภัยชั้น 3 เนื่องจากราคาของประกันภัยชั้นนี้ราคาไม่สูงนัก อีกทั้งยังคุ้มครองคู่กรณี เมื่อเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย

2. สำรวจประเภทและชนิดของมอเตอร์ไซค์เรา

พอเราสำรวจพฤติกรรมการขับขี่ของเราแล้ว นอกจากนี้เรายังต้องสำรวจประเภทรถของเราด้วย เพราะว่าประกันภัยประเภทต่างๆ ให้ความคุ้มครองที่ต่างกัน เรามาดูกันเลยว่าเราขับรถประเภทไหน

  • รถมอเตอร์ไซค์ขนาดน้อยกว่า 500 cc : รถมอเตอร์ไซค์ขนาดนี้จริงๆ ควรเลือกประกันภัยมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+ หรือ 3+ ก็ได้ เนื่องจากมีราคาที่ต่ำกว่าประกันภัยชั้น 1 อีกทั้งยังให้ความคุ้มครองที่คุ้มค่าอีกด้วย
  • รถมอเตอร์ไซค์ขนาดมากกว่า 500 cc : มอเตอร์ไซค์ขนาดนี้ หรือที่เราคุ้นชินว่ารถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์นั่นเอง ส่วนใหญ่จะนิยมประกันชั้น 1 นอกจากจะให้ความคุ้มครองที่ครบครันแล้วนั้น ยังคุ้มครองกรณีรถมอเตอร์ไซค์ของเราสูญหายเพราะมอเตอร์ไซค์ของเรามีราคาสูง ก็ต้องเลือกประกันที่คุ้มครองครอบคลุมที่สุด

3. เปรียบเทียบราคาและเงื่อนไขของบริษัทประกันต่างๆ ด้วยนะ

แน่นอนว่าทุกวันนี้บริษัทประกันภัยต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย เงื่อนไขและข้อยกเว้นของประกันภัยก็ย่อมมีหลากหลายรูปแบบเพื่อรองรับผู้ที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์ แต่เราจะเลือกซื้อหรือเปรียบเทียบยังไงละ มาดูกันเลย

  • ค่าเสียหายส่วนแรก : เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับคนที่ทำประกันจะต้องจ่ายให้กับบริษัทประกันภัยนั้นๆ ก่อนเคลม ในกรณีที่เราเป็นฝ่ายผิด แต่ถ้าในกรณีที่เราเป็นฝ่ายถูกเราก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนแรกให้กับบริษัทประกัน
  • ทุนประกัน : เป็นค่าสินไหมทดแทนที่จะได้รับจากบริษัทเมื่อรถมอเตอร์ไซค์ของเราเกิดความเสียหาย โดยที่ทุนประกันของเราสูงมากเท่าไหร่ เบี้ยประกันของเราก็จะสูงตามไปด้วย
  • ความคุ้มครอง : ความคุ้มครองหรือเงื่อนไขของแต่บริษัทจะแบ่งเป็น 2 ประเภท นั่นคือ

    – ความคุ้มครองหลัก ซึ่งจะดูแลค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เช่น คุ้มครองคู่กรณี ค่าซ่อมรถมอเตอร์ไซค์เรา ก็ขึ้นอยู่กับความคุ้มครองที่เราเลือก

    – ความคุ้มครองเสริม เป็นความคุ้มครองที่เราซื้อเพิ่มจากประกันที่เรามีอยู่แล้ว เพื่อที่จะดูแลคุ้มครองเราด้านอื่นๆ เช่น คุ้มครองเราเวลาเราต่อสู้คดี ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล เป็นต้น

สนใจสมัครประกันภัยรถมอเตอร์ไซค์

button-orange
สนใจสมัคร

ดังนั้นก่อนที่เราจะซื้อประกันรถมอเตอร์ไซค์ของเรา ควรจะสำรวจข้อดีข้อเสียทุกอย่างให้ดีก่อนว่าคุ้มค่ากับราคาเบี้ยประกันที่เราต้องจ่ายไปหรือไม่ หรือจะลองเข้ามาเช็คเบี้ยประกันภัยก่อนได้ที่นี่ หรือจะแอดมาสอบถามทาง LINE@: @masii (มี @ ด้วยนะ) หวังว่าชาวสองล้อทุกคนน่าจะนำไปประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อประกันภัยรถมอเตอร์ไซค์กันได้นะจ๊ะ