การออมเงิน

เรื่องของการออมหุ้นเป็นสิ่งที่หลายคนกำลังให้ความสนใจค่อนข้างมาก คำว่า “บัญชีออมหุ้น” คืออะไร? เป็นเช่นไร? คุณทราบหรือไม่ หากยังไม่ทราบวันนี้เรามาเรียนรู้ไปด้วยกันในที่นี้เลย บัญชีออมหุ้นเป็นสิ่งที่อยู่บนหลักการอย่างหนึ่ง คือ เป็นการลงทุนแบบที่ต้องทำเป็นประจำทุกเดือนอยู่เสมอซึ่งทางฝ่ายโบรกเกอร์จะเป็นผู้ทำการหักเงินของคุณที่อยู่ภายในบัญชีออกไปทุก ๆ เดือนตามที่ได้ทำการระบุไว้ตั้งแต่ตอนแรก ทางโบรกเกอร์จะนำเงินที่หักไปนี้ไปใช้ในการซื้อหุ้นอันเป็นตัวที่คุณได้เลือกไว้ซึ่งแน่นอนว่าส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นหุ้นที่อยู่ในบริษัทขนาดใหญ่และเป็นบริษัทที่ดูน่าเชื่อใจว่าเป็นบริษัทที่มีผลประกอบการที่ดีเมื่อลงทุนไปแล้วดูน่าจะได้เงินกำไรนั่นเอง ออมหุ้นอย่างไรถึงจะสามารถลดความเสี่ยงได้? สำหรับการลงทุนนั้นจะเป็นการลงทุนแบบเฉลี่ยเท่ากันในทุก ๆ เดือน รูปแบบนี้เรียกว่า “DOLLAR COST AVERAGING : DCA” ซึ่งนั่นเป็นกลยุทธ์เพื่อการลงทุนในลักษณะของการเฉลี่ยต้นทุนเป็นหลัก เป็นการช่วยลดเรื่องของความผันผวนส่วนของพอร์ตการลงทุนไปในตัว เนื่องจาก นักลงทุนไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงส่วนของภาวการณ์ของตลาด ไม่ต้องคำนึงถึงจังหวะของการเข้าซื้อส่งผลทำให้คุณสามารถซื้อหุ้นได้ในปริมาณมากได้ในขณะที่พบว่าราคาในขณะนั้นลดลง สามารถซื้อหุ้นในจำนวนที่น้อยลงได้หากพบว่ามีราคาที่สูงมากขึ้น บัญชีออมหุ้นจริง ๆ แล้วเหมาะสมกับใครบ้าง? บุคคลที่เป็นผู้ที่มีเงินลงทุนค่อนข้างน้อยแต่มีความต้องการในการอยากซื้อหุ้นแบบหลายตัวหรือกำลังสนใจอยากที่จะซื้อหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ที่ค่อนข้างจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง บุคคลที่ยังไม่ทราบว่าตนเองนั้นจะต้องเลือกหุ้นแบบใด ตัวใด...

เศรษฐกิจบ้านเราทุกวันนี้ก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไรนัก ค่าครองชีพก็มีแค่พอกินพอใช้ไม่พอให้เหลือเก็บ จึงเป็นเรื่องยากเหลือเกินที่จะเอาไปลงทุนทำอะไร หรือแม้แต่จะประกอบธุรกิจส่วนตัว ยิ่งถ้าเกิดเรื่องฉุกเฉินขึ้น เงินที่มีอยู่ก็ยิ่งหมดไปอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นจึงต้องรู้จักวางแผนในการใช้เงินสักนิด แล้วทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางมากยิ่งขึ้น มาดูกันว่ามีวิธีวางแผนการใช้เงิน อย่างไรบ้าง 3 เคล็ดลับ วางแผนการใช้เงิน 1. ตั้งเป้าหมายทางการเงินไว้ เริ่มจากการรู้จักตัวเองก่อน ว่ามีลักษณะการใช้เงินแบบใด มีข้อจำกัดอะไรบ้าง หรือมีรายละเอียดปลีกย่อยใด ๆ อีก เช่น นาย A เป็นคนชอบกินข้าวนอกบ้านอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ช้อปปิ้งเดือนละครั้ง ในงบ 1,000 บาท มีค่าเช่าบ้านและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ รวมเดือนละ 8,000 บาท เพราะฉะนั้น...

NAV คืออะไร? นักลงทุนมือใหม่อาจยังงง แต่นักลงทุนมือเก่าน่าจะพอรู้จักกองทุนรวม “NAV”  หรือ Net Asset Value เป็นอย่างดี เพราะ “NAV” เป็นตัวเลขที่บอกถึงมูลค่าที่แท้จริงของกองทุนรวมหรือทรัพย์สินสุทธิ (มูลค่าของกองทุนรวม+ผลตอบแทน หรือ มูลค่าเงินลงทุน-ผลการขาดทุน) ที่ได้จากการลงทุน โดยจะบอกผู้ถือหน่วยลงทุนว่า หากเราจะซื้อหรือขายคืนกองทุนรวม จะได้ที่ราคาประมาณเท่าไหร่ nav คืออะไร? ด้วยเหตุนี้ NAV จึงเป็นตัวเลขที่สะท้อนผลการดำเนินงานของกองทุนรวมได้ดีที่สุด การเปลี่ยนแปลงของ NAV จะทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทราบว่า แต่ละกองทุนรวมมีการบริหารทำให้ได้กำไรหรือขาดทุนมากน้อยแค่ไหน ซึ่งปกติ NAV จะมีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน และการที่ NAV จะเพิ่มขึ้นหรือลดลง ก็ขึ้นอยู่กับผลประกอบการของกองทุนรวมนั้นๆ ...

เป็นประจำที่ช่วงต้น ๆ ปี ของทุกปี ถือเป็นช่วงที่ประชาชนคนไทยต้องมีหน้าที่ยื่นและเสียภาษี ซึ่งสำหรับในปี 2560 นี้ ได้มีการปรับอัตราภาษีใหม่โดยจะยื่นแบบภาษีในปี 2561ซึ่งจากการที่ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในที่ประชุมให้มีการปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามที่กระทรวงการคลังได้เสนอ โดยมีการเพิ่มการหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนในหลายรายการ เป็นผลให้ประชาชนที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้นเสียภาษีน้อยลงในปี 2560 ดังต่อไปนี้ อัตราภาษีใหม่ปี 2560 หน้าตาเป็นอย่างไร ใครอยากรู้มาดูกัน ปรับปรุงในส่วนของค่าใช้จ่าย เพิ่มการหักค่าใช้จ่ายของเงินเดือน ค่าจ้าง ค่านายหน้า ฯลฯ อันเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร ร้อยละ 50 ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ปรับปรุงการหักค่าใช้จ่ายของเงินได้พึงประเมินตามมาตรา...

ใกล้ถึงเวลาต้องยื่นแบบเสียภาษีแล้ว หลายๆคนคงอาจกำลังรวบรวมเอกสารต่างๆเพื่อนำมาลดหย่อนภาษี ซึ่งมีมากมายหลายวิธีด้วยกัน และวันนี้เราได้นำวิธีหักลดหย่อนภาษีมาลงให้ดูอีกเผื่อจะมีวิธีไหนที่คุณยังไม่รู้จะได้เตรียมเอกสารกันไว้ทัน และไม่ต้องฉุกละหุกเมื่อใกล้ถึงเวลา สารพัดวิธีการลดหย่อนภาษีที่คุณอาจยังไม่รู้ วิธีการลดหย่อนภาษี 1. เลี้ยงดูบิดามารดา ค่าเลี้ยงดูบิดามารดาที่มีอายุมากกว่า 60 ปี จะสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้คนละ 30,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 120,000 บาท แต่มีเงื่อนไขว่าบิดา มารดาที่นำไปขอลดหย่อนภาษีนี้ ต้องออกหนังสือรับรองว่าลูกคนไหนเป็นคนเลี้ยงดู เพราะสามารถใช้สิทธิ์ได้เพียงคนเดียวเท่านั้น 2. คู่สมรส ค่าลดหย่อนคู่สมรสจะสามารถลดหย่อนภาษีได้ 30,000 บาท ในกรณีที่คู่สมรสไม่มีเงินได้ โดยมีเงื่อนไข ต้องมีการจดทะเบียนสมรสและคู่สมรสต้องไม่มีเงินได้ในระหว่างปี หรือมี แต่เลือกที่จะนำมารวมคำนวณภาษีร่วมกัน 3. ค่าเลี้ยงดูบุตร และการศึกษาบุตร การลดหย่อนภาษีจากการเลี้ยงดูบุตร สามารถหักลดหย่อนภาษีได้คนละ 15,000 บาท แต่ไม่เกิน 3 คน โดยบุตรจะต้องมีอายุไม่เกิน 20 ปี หรือถ้าเกิน -25 ปี จะต้องศึกษาในระดับ ปวส. ขึ้นไปเท่านั้น นอกจากนี้หากบุตรศึกษาต่อในประเทศ (ตั้งแต่อนุบาล–ปริญญาเอก) ก็จะได้ลดหย่อนภาษีเพิ่มให้อีกคนละ 2,000 บาท  ซึ่งบุตรที่จะนำมาใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีต้องไม่มีรายได้ในปีภาษีเกิน 15,000 บาทขึ้นไป หรือรายได้ที่มีได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย 4. เบี้ยประกันชีวิต หากคุณต้องจ่ายเบี้ยประกันชีวิตจะสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท โดยจะนำมาลดหย่อนได้ 2 ประเภท คือ ประกันชีวิตทั่วไป ลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทส่วนประกันชีวิตบำนาญ ลดหย่อนได้ 15% ของเงินได้...

ใครๆก็อยากเป็นคนรวย เพราะความรวยจะนำมาซึ่งความสะดวกสบาย อยากได้อะไรก็ได้ แถมยังเป็นที่นับหน้าถือตาของคนส่วนใหญ่เสียด้วย และเพื่อให้ความรวยไม่อยู่ไกลเกินเอื้อมมากเกินไป เราควรต้องมาฝึกคิด คิดยังไงให้รวยกันก่อน!! คิดยังไงให้รวย 1. คิดว่าคุณสมควรรวย ความคิดนี้มันเท่ห์และคู่ควรกับคุณไม่ใช่น้อย ถ้าคุณคิดว่าควรรวยได้แล้ว คุณก็จะคิดและสรรหาวิธีมาทำให้ตัวเองรวยขึ้น เช่น ทำงานเสริม ลงทุนเพิ่มเติม หรือวิธีอื่นใดที่จะนำเงินมาเข้ากระเป๋าทำให้คุณรวยได้ ดังนั้นคิดในแง่บวกเสมอ เราต้องรวย ถึงเวลารวยของเราแล้ว 2. สนุกกับการหาเงินให้เหมือนกับการเล่นเกม คนรวยมักสนุกกับการทำงาน เขาคิดว่าวันนี้เสียไปเท่าไรและเขาต้องได้เข้ามาเท่าไร เมื่อมันทำได้มันก็จะสนุกสนานเหมือนการเล่นเกมไม่มีผิด นอกจากนี้คนที่ประสบความสำเร็จมักชอบที่จะเอาชนะ พวกเขาจึงพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา พยายามมากขึ้น เรียนรู้มากขึ้น และเติบโตให้เร็วที่สุด พวกเขาจะไม่มีวันทำงานไปเพียงวันต่อวันเพื่อรับเงินเดือนเด็ดขาด 3. ตั้งเป้าหมายให้สูง คนรวยมักตั้งเป้าหมายไว้สูง ซื่งบางทีเป้าหมายนั้นอาจดูเป็นไปไม่ได้เลย แต่พวกเขาก็เชื่อว่าจะสามารถเอาชนะมันได้ โดยไม่ย้อท้อต่ออุปสรรค คนรวยมักมองเป้าหมายเหล่านั้นว่าเป็นความท้าทาย ซึ่งหากสามารถทำได้หรือทำได้สักครึ่งทางก็จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้แล้ว 4....

ถ้าให้เลือกระหว่างคนที่ประสบความสำเร็จทางการเงินกับไม่ประสบความสำเร็จทุกคนคงเลือกสิ่งแรก แต่ในทางปฏิบัติจริงมักไม่ใช่เรื่องง่าย จำต้องใช้วินัยอย่างเคร่งครัดเพื่อให้มีอิสรภาพทางการเงินแบบนี้ สำหรับคนที่ตั้งใจจริงวันนี้เรามี เคล็ดลับของคนที่ประสบความสำเร็จทางด้านการเงินมาฝาก รับรองถ้าทำตามสิ่งที่คุณคิดไว้ย่อมเป็นจริง เคล็ดลับ เพื่อการ ประสบความสำเร็จทางการเงิน 1. ออมก่อนค่อยใช้ คนส่วนใหญ่มักใช้เงินก่อนแล้วเหลือจึงออม แต่คนที่ประสบความสำเร็จด้านการเงินมักนำเงินไปออมส่วนที่เหลือจึงนำมาใช้ ถึงแม้ว่ามันจะแตกต่างจากคนอื่น แต่เงินเก็บที่เพิ่มขึ้นทุกวันจะบ่งบอกได้ว่าคุณกำลังจะประสบความสำเร็จด้านการเงินในอนาคตแน่นอน โดยเลือกสถาบันทางการเงินที่น่าเชื่อถือและเข้าถึงง่าย อย่าง ธนาคารกสิกร หรือ ธนาคารไทยพาณิชย์ 2. ไม่พกเงินติดตัวเยอะ ลองสังเกตง่ายๆหากวันใดคุณนำเงินติดตัวไปเยอะ วันนั้นคุณจะป๋ามากๆ เห็นอะไรอยากได้ก็ซื้อ ใครมาขอให้เลี้ยงข้าวก็ได้ ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้จะทำให้เงินที่มีอยู่หมดไปอย่างง่ายดาย ตรงกันข้ามกับการพกเงินติดตัวไปพอดีหรือไม่พกเงินเลย แบบนี้ถึงแม้ว่าความต้องการของคุณจะมากแค่ไหน แต่เงินในกระเป๋าของคุณก็ไม่พอนี่จึงเป็นอีกวิธีการหนึ่งของการออมเงินให้ประสบความสำเร็จ 3. วางแผนการเงินไว้อย่างชัดเจน การใช้จ่ายเงินไปวันๆแบบไม่มีแบบแผนอาจทำให้เงินหมดไปโดยไม่รู้สึกตัว สำหรับคนที่ประสบความสำเร็จในด้านการเงินมักจะมีการวางแผนเอาไว้แต่เนิ่นๆ ว่าจะใช้จ่ายอะไรบ้าง รวมถึงการวางแผนเงินออม และเงินสำรองยามฉุกเฉิน แบบนี้เมื่อไรก็ไม่เดือดร้อน 4. ซื้อแต่ของที่มีคุณภาพ เดี๋ยวนี้ข้าวของเครื่องใช้ล้วนมีมากมายหลายเกรดให้เลือก บางคนก็ชอบของถูกๆที่ไม่มีคุณภาพเท่าไร...

“หนี้” แค่ได้ยินก็ปวดใจ เชื่อแน่ว่าชีวิตนี้ใครๆก็ไม่อยากเป็นหนี้ แต่บางครั้งความจำเป็นของคนเรามันเกิดเมื่อเงินไม่พอมันก็จำเป็นต้องไปกู้หนี้ยืมสินมา ตอนแรกก็คิดว่าจะหาเงินมาผ่อนได้แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถใช้คืนได้สักที จึงเกิดการทวงถามติดตามให้รำคาญอยู่ร่ำไป สำหรับคนมีหนี้ที่ตัดสินใจแล้วว่าจะต้องใช้หนี้ให้หมดในเร็ววันวันนี้เรามีคำตอบ รับรองถ้าทำแบบนี้หนี้ต้อเบาลงหรือหมดแน่นอน 5 วิธีปลดหนี้ให้หมดเร็วที่สุด 1. สำรวจหนี้สินของตนเอง ลองรวบรวมหนี้สินของตัวเองว่าขนาดนี้มีอยู่เท่าไร เป็นหนี้ประเภทไหนบ้าง หนี้ก้อนไหนมีดอกเบี้ยสูงสุด หนี้ก้อนไหนถึงเวลาต้องใช้คืนแล้ว หนี้ก้อนไหนเร่งด่วนที่สุด ลิสต์ออกมาทีละรายการจนครบถ้วน 2. เลือกจ่ายที่มีดอกเบี้ยแพง ก่อนอื่นแน่นอนว่าหนี้สินแต่ละก้อนย่อมมีดอกเบี้ยไม่เท่ากัน เช่น เงินยืมพี่ น้อง อาจไม่มีดอกเบี้ยเลย แต่ต้องคืนตามกำหนด หนี้ยืมเพื่อนอาจมีดอกน้อยหน่อย หนี้บัตรเครดิตดอกเบี้ยแพงมากขึ้น หนี้ส่งบ้านดอกเบี้ยแพงที่สุดคิดเป็นรายวันเป็นต้น ดังนั้นเมื่อถึงกำหนดระยะเวลาใช้พร้อมๆกันจึงต้องเลือกใช้หนี้ที่ดอกเบี้ยสุงสุดไปหาดอกเบี้ยต่ำสุดหรือไม่มีดอกเบี้ยเสมอ แต่ทุกหนี้ต้องทยอยใช้คืนให้ครบ 3. ปรับปรุงนิสัยการใช้จ่ายของตัวเอง การประหยัดค่าใช้จ่ายในทุกด้านจะทำให้เหลือเงินมาใช้หนี้มากขึ้น ลองดูว่าทุกวันนี้คุณใช้เงินเกินตัวใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายหรือเปล่า ถ้าใช่พยายามแก้ไขตัวเอง อะไรที่ตัดออกได้ก็ให้ตัด งดการสังสรรค์ หรือลดการช้อปลงบ้าง เชื่อว่าเมื่อประหยัดสุดๆแล้วต้องเหลือเงินในแต่ละเดือนมาใช้หนี้มากขึ้นแน่นอน 4. ออมก่อนผ่อนทีหลัง  เมื่อเงินเดือนออกมาหากเราใช้ก่อนแล้วค่อยคิดจะออมแบบนี้ยากมากที่จะมีเงินเก็บ...

“กองทุนการออมแห่งชาติ” หรือที่เรียกสั้นๆว่า กอช. นับว่าเป็นกองทุนที่เป็นความหวังของคนรากหญ้าโดยแท้ที่จะสร้างวินัยการออมเงินไว้ใช้ในช่วงโค้งสุดท้ายของชีวิต ทำให้เมื่ออายุ 60 ปีไปแล้วจะมีความเป็นอยู่ในชีวิตที่ดีขึ้นและไม่ถูกทอดทิ้งให้เป็นภาระของลูกหลาน เนื่องจากสามารถพึ่งพาตนเองได้ คล้ายๆกับข้าราชการที่มีบำเหน็จบำนาญหรือพนักงานเอกชนที่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนประกันสังคม เป็นต้น จึงเรียกได้ว่า เงินนี้เป็นเงินออมแห่งชาติที่เป็นความหวังสุดท้ายของคนทั่วไปเลยก็ว่าได้ กองทุนการออมแห่งชาติเกิดมาเพื่อใครบ้าง กลุ่มคนทำงานอิสระ  ไม่ว่าจะเป็นฟรีแลนซ์ แม่บ้าน แม่ค้า พ่อค้า มอเตอร์ไซด์รับจ้าง คนขับแท็กซี่ คนเก็บขยะ ชาวสวน ชาวนา หรือชาวไร่ ทุกคนมีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการนี้ วัยรุ่น  เป็นเรื่องที่ดีมากเพราะ กอช.ช่วยปลูกฝังนิสัยการออมตั้งแต่เด็กให้กับนักเรียน นักศึกษา โดยสามารถเริ่มออมได้ตั้งแต่อายุ 15-60 ปี ยิ่งออมเร็วก็ยิ่งมีเงินเก็บมากขึ้น ข้อดีของการออมแบบนี้  รัฐช่วยออม  “เราออม - รัฐออม” เมื่อเราจ่ายเงินสะสมเข้ากองทุน รัฐก็จะช่วยเราออมโดยจ่ายสมทบให้สูงสุดถึงปีละ...

สำหรับนักลงทุนหรือเหล่ามนุษย์เงินเดือนก็คงจะรู้กันดีว่า นอกจากเก็บออมเงินแบบธรรมดาแล้ว การลงทุนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีไม่แพ้กัน แต่ถึงกระนั้นกองทุนต่าง ๆ ก็มีให้เลือกลงทุนมากมายจนไม่สามารถศึกษาได้หมด บางอันความเสี่ยงสูง บางอันความเสี่ยงน้อย ซึ่งก็ทำให้เราเกิดความไม่มั่นใจพอสมควร เพราะฉะนั้นเราจะขอแนะนำให้รู้จักกับกองทุนระยะสั้น สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ ๆ ได้ทดลองกันก่อน กองทุนตราสารหนี้ กองทุนระยะสั้นที่น่าสนใจ กองทุนระยะสั้นที่เราพูดถึงนี้ ก็คือกองทุนตราสารหนี้นั่นเอง ซึ่งกองทุนสตราสารหนี้ เป็นกองทุนที่ผู้จัดการกองทุนจะรวบรวมเงินจากนักลงทุนไปซื้อตราสารหนี้รูปแบบต่าง ๆ ทั้งจากรัฐและเอกชน เช่นหุ้นกู้ พันธบัตรรัฐบาล เป็นต้น โดยกองทุนตราสารหนี้ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ กองทุนตราสารหนี้แบบระยะสั้น มีระยะเวลา 1-1.5 ปีเท่านั้น เมื่อหมดอายุหรือครบกำหนดก็จะได้เงินต้นกลับคืนมาพร้อมผลตอบแทนหรือดอกเบี้ย กองทุนนี้สามารุซื้อขายผลัดเปลี่ยนเป็นเจ้าของกันได้ทุกวัน จึงเหมาะสมเป็นอย่างมากหากจะเอาไว้พักเงินก่อนนำไปทำอย่างอื่น หรือเก็บพักเงินไว้เป็นสภาพคล่องเมื่อเกิดปัญหาขึ้น กองทุนตราสารหนี้แบบระยะยาว มีระยะเวลาตั้งแต่ 1...