เพราะการนอนคือสิ่งสำคัญ…เปิดรูปแบบที่นอนน้องหมาที่น่าสน พักผ่อนง่าย หลับสบาย พร้อมเคล็ดลับการเลือกซื้อและการใช้งาน

สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

เพราะการนอนเป็นการพัหผ่อนที่ดีสุดและถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิต ไม่ว่าเป็นคนหรือสัตว์ก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องการการพักผ่อนกันทั้งสิ้น เมื่อเรื่องของการนอนเป็นสิ่งสำคัญสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่จะช่วยส่งเสริมให้การนอนหลับของเรามีประสิทธิภาพมากที่สุดก็คนหนีไม่พ้นกับสถานที่ที่ใช้พักผ่อน หรือเตียงนอนของเรานั่นเอง แต่ทั้งนี้ สำหรับเหล่าทาส น้องหมา น้องแมว ทั้งหลาย เมื่อเราเลือกที่นอนสำหรับการพักผ่อนของเราได้ดีที่สุดแล้ว แล้วทำไมเราจะเลือกสถนที่พักผ่อนที่ดีที่สุดให้กับเหล่า น้องหมา น้องแมวของเราบ้างไม่ได้ แต่สำหรับใครที่กำลังเป็นเหล่าทาสมือใหม่หรือกำลังมองหาที่พักผ่อนให้กับเหล่า น้องหมา ตัวน้อยแสนน่ารักของเรา วันนี้ มาสิ ได้เอากับเหล่าที่นอนสำหรับน้องหมาที่น่าสนใจ พักผ่อนง่าย หลับสบาย มาฝากกันแล้ว ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ตาม มาสิ ไปอ่านกัน

หมา

การนอนของ น้องหมา

Dr. Evan Antin สัตวแพทย์จากโรงพยาบาลสัตว์ Conejo Valley Veterinary Hospital  ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เผยว่า สุนัขมักจะนอนหลับประมาณ 12 ถึง 14 ชั่วโมงต่อวัน แต่ทั้งนี้ เวลาในการนอนของสุนัขแต่ละตัวก็ขึ้นอยู่กับอายุ สายพันธุ์และระดับกิจกรรมที่น้องหมาแต่ละตัวทำ

โดยบางสายพันธุ์ที่มีความสงบ ชอบอยู่นิ่ง ๆ โดยนิสัย เช่น เฟรนช์ บูลด็อก และอิงลิช บูลด็อก ก็จะชอบนอน ใช้เวลาในการนอนมากกว่าทำกิจกรรมอื่น ๆ ส่วนสุนัขที่เลี้ยงไว้ใช้งาน หรือสุนัขที่มีความกระตือรือร้นตามลักษณะของสายพันธุ์ก็จะใช้เวลาในการนอนหลับน้อยกว่า เพราะสุนัขเหล่านี้ชอบที่จะทำกิจกรรมมากกว่าการทิ้งตัวนอนอยู่เฉย ๆ

ส่วนเรื่องของอายุก็มีส่วนสำคัญต่อการนอนหลับของสุนัขเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ลูกสุนัขมีแนวโน้มที่จะนอนได้ถึง 16-18 ชั่วโมงต่อวันเนื่องจากร่างกายกำลังเจริญเติบโต สุนัขสูงวัยก็ใช้เวลานอนหลับเกือบเท่ากับลูกสุนัข ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น สุนัขสูงวัยจะมีความกระฉับกระเฉงน้อยลง หรือมีอาการเจ็บปวด เนื่องจากปวดข้อ หรือข้ออักเสบ ก็จะทำให้สุนัขเหล่านี้เลือกที่จะนอนหลับมากกว่าขยับตัว

หมา

น้องหมาควรมีเตียงเป็นของตัวเองหรือเปล่า

เมื่อเรานำน้องหมา เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้าน สิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นลำดับแรก ๆ คือ การจัดบริเวณให้น้องหมาของเราอยู่นั้น เป็นส่วนหนึ่งในการฝึกให้น้องหมาเรียนรู้กฎระเบียบ ซึ่งควรฝึกตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข เพราะหากเราละเลยการฝึกเมื่อน้องโตแล้วจะฝึกระเบียบได้ยากกว่าตอนยังเล็ก ๆ อยู่ เมื่อเรากำหนดบริเวณที่นอนให้น้องหมาได้แล้ว ต่อมา คือ การจัดหา ที่นอนน้องหมา เพื่อความเป็นส่วนตัว ที่สำคัญเป็นหารสร้าง Safe Zone ทำให้น้องหมารู้สึกสงบ อบอุ่น ปลอดภัยเวลานอนหลับ น้องหมาต้องการความอบอุ่น ต้องการนอนสบายเหมือนคน นอกจากนี้มันยังช่วยในเรื่องของสุขภาพกล้ามเนื้อและกระดูกของน้องหมาด้วย การมีที่นอนทำให้น้องหมาไม่นอน บนโซฟา หรือที่ที่เราไม่อยากให้นอนได้ด้วย

เราจะเลือกที่นอนน้องหมาอย่างไรดี

1.ควรเลือกที่นอนน้องหมาให้เหมาะสมกับขนาดตัว หมายถึง ไม่พอดี หรือเล็กจนเกินไป อย่าลืมว่าต้องเลือกที่นอนเผื่อโตไว้สักนิดด้วย โดยคำนึงถึงการเติบโตขึ้น ตามแต่ละสายสายพันธุ์ของน้อง

2.ก่อนเลือกซื้อที่นอนน้องหมา เจ้าของควรวัดขนาดความยาวของตัวน้องไว้ด้วย เริ่มจากปลายจมูกจนถึงปลายสุดลำตัว (ไม่ต้องวัดความยาวของหางนะคะ) ให้วัดขนาดเป็นเซนติเมตร โดยเผื่อความยาวไว้ประมาณ 5 – 10 เซนติเมตร แล้วเทียบกับขนาดของที่นอนที่จะซื้อ เพราะจะช่วยให้เจ้าของซื้อที่นอนได้พอดี เหมาะกับน้องหมา น้องหมาจะได้นอนอย่างสบายตัว ไม่รู้สึกอึดอัดเวลาพลิกตัว

3.ควรเลือกซื้อที่นอนที่สามารถถอดซักทำความสะอาดได้ง่าย เพราะจะไม่ทำให้เป็นที่สะสมของเชื้อโรค อันเป็นสาเหตุให้น้องหมาของเราป่วยได้ง่าย

4.ควรเลือกที่นอนหรือเบาะนอนน้องหมาที่มีคุณภาพดี ทนทาน ใช้ได้คุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายไป เบาะหรือที่นอนต้องนุ่มสบายตัว เนื้อผ้าไม่หยาบและแข็งจนเกินไป

10 รูปแบบ ที่นอนน้องหมา พักผ่อนง่าย หลับสบาย ดีต่อสุขภาพ

1.ที่นอนน้องหมาแบบมาตรฐานทั่วไป

มองแล้วจะเหมือนเบาะนอนนวม หรือหมอนที่ไม่มีขอบ มีให้เลือกหลายทรง หลายขนาด มากมายด้วยสีสันและวัสดุที่ใช้ รูปทรงส่วนใหญ่ที่เห็นจะมีทั้ง ทรงกลม ทรงรี สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม ที่นอนแบบนี้มักจะทำจากผ้าขนสัตว์ ผ้ากำมะหยี่ ผ้าสักหลาด ผ้ายีน หนังเทียม หรือไมโครไฟเบอร์ ที่นอนแบบนี้มักจะมีราคาตั้งแต่น้อยไปหามาก แตกต่างกันไปตามการดีไซน์และยี่ห้อ ส่วนใหญ่มักจะถอดทำความสะอาดได้ โดยที่นอนแบบมาตรฐานทั่วไปนี้ เหมาะกับสุนัขทุกสายพันธุ์ แต่อาจไม่ดีนักสำหรับสุนัขที่อายุเยอะ ๆ หรือสุนัขที่มีปัญหาเรื่องกระดูก ข้อต่อ และข้อสะโพก (orthopedic problems)

2.ที่นอนน้องหมาแบบ Nest

ลักษณะทั่วไปเหมือนที่นอนแบบแรก แตกต่างกันเพียงตรงขอบยกขึ้นสูง อาจมีขอบล้อมรอบตัวที่นอนบางส่วน หรืออาจรอบที่นอนเลยก็ได้ ที่นอนชนิดนี้อาจเหมือนโซฟานั่ง หรือเก้าอี้นอนรับแขกที่เราคุ้นเคยกันดี ขอบที่ยกสูงขึ้นมานั้น ก็เพื่อจุดประสงค์ให้น้องหมาได้เกยคางอย่างสบายอารมณ์ หรือได้ม้วนตัวขดอยู่ในเบาะ ที่นอนน้องหมาแบบนี้เหมาะกับน้องหมาทุกสายพันธุ์ที่ชอบการนอนขดตัว หรือแผ่หราอย่างมีความสุข

3.ที่นอนน้องหมารูปทรงโดนัท

เหมือนที่นอนแบบ nest คือ มีขอบยกรอบตัวที่นอน แต่จะแตกต่างตรงขอบคือจะทำให้นุ่มเป็นพิเศษ เหมือนเอาหมอนข้างมาขดกลม สำหรับน้องหมาที่ชอบขดตัวและชอบซุกตัวอยู่บนที่นอน มักจะมีรูปทรงกลม หรือรูปไข่ ทำจากวัสดุที่นุ่มเป็นพิเศษ เหมาะกับน้องหมาขี้หนาว หรือเลี้ยงไว้ในห้องแอร์ แต่ไม่เหมาะกับน้องหมาที่ไม่แข็งแรง หรืออายุเยอะ ๆ เพราะอาจทำให้มีปัญหาในการเข้าออก ลุกนั่ง เพราะที่นอนแบบนี้จะนุ่มลื่นมาก

4.ที่นอนน้องหมาแบบ Orthopedic

ชื่อก็บอกแล้วนะคะว่าต้องมีไว้สำหรับน้องหมาที่มีปัญหาเรื่องกระดูก ข้อต่อ และข้อสะโพก จึงมักจะทำจากโฟมหนา ๆ ที่มีคุณภาพสูง ที่นอนชนิดนี้จะช่วยรองรับตัวของน้องหมาอย่างพิเศษ คือเมื่อน้องหมานอนจะทำให้การกดทับทางร่างกายของกระดูก ข้อสะโพก และข้อต่อต่าง ๆ น้อยมาก ที่นอนชนิดนี้สามารถใช้ได้กับน้องหมาทุกสายพันธุ์ ไม่ว่าเล็กใหญ่ อ้วนผอม หรืออายุมากก็ตาม มีให้เลือกมากมายหลายแบบสีสันสวยงาม

5.ที่นอนน้องหมาแบบใส่เข้าไปในกรง (Kenels and Crates)

โดยที่นอนชนิดนี้จะผลิตมาให้เข้ากับกรงของน้องหมา มีหลายขนาดหลายทรง ถ้าสุนัขของเราถูกเลี้ยงมาให้นอนในกรง การมีที่นอนที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับปูไว้ในกรงจะดีมากกว่าที่เราจะเอาผ้านวม หรือกระดาษไปปูให้เค้า ซึ่งปัจจุบันที่นอนแบบนี้มีชนิดที่สามารถกันน้ำ และทำความสะอาดได้ง่าย ดังนั้นหากน้องหมาของคุณชอบใช้ชีวิตอยู่ในกรงแล้วละก็ที่นอนแบบนี้นับเป็นสิ่งสำคัญ เหมาะกับน้องหมาทุกพันธุ์ ทุกวัย ทุกขนาด และทุกสรีระเลยค่ะ

6.ที่นอนน้องหมาแบบยกพื้นขึ้นมา

ที่นอนชนิดนี้มีหลายแบบเช่นกัน แบบมาตรฐานทั่วไปเหมือนเตียงนอนของเรา บ้างก็ออกแบบเป็นแบบรังนก บ้างก็เป็นแบบที่นอน orthopedic ข้อดีของที่นอนยกพื้น นอกจากจะใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ให้สวยงามให้กับบ้านได้แล้ว ยังป้องกันน้องหมาจากพื้นเย็น ๆ สิ่งสกปรก และแมลงรบกวนที่อยู่ตามพื้น แต่ที่นอนน้องหมาแบบนี้อาจไม่เหมาะกับน้องหมาที่มีปัญหาข้อต่อข้อสะโพก หรือสายพันธุ์บางชนิดที่มักมีปัญหาเรื่องหลัง เช่น ดัชฮุนด์ เพราะการต้องกระโดดขึ้นกระโดดลงอาจเสี่ยงต่ออันตรายของสุขภาพได้

7.ที่นอนน้องหมาแบบมีลักษณะปิด (covered or hooded bed)

ขอบคุณภาพจาก : snoozerpet.com – baxterboo.com

เช่น ออกแบบเป็นลักษณะบ้าน, หรือโดม เหมาะกับหมาที่ตัวเล็ก ๆ ขี้อาย มีโลกส่วนตัวสูง

8.ที่นอนน้องหมาแบบ Heated bed

หากคุณอยู่ในเมืองหนาว หรืออยู่บ้านแล้วชอบเปิดแอร์เย็น ๆ หรือน้องหมาที่มีปัญหาเจ็บปวดข้อต่อ ข้อสะโพก ที่นอนน้องหมาแบบ Heated bed จะเหมาะมาก เพราะเป็นที่นอนที่ออกแบบมาสำหรับการรักษา การทำงานของที่นอนลักษณะนี้จะคล้าย ๆ มีแผ่นให้ความร้อน หรือผ้าห่มไฟฟ้า แต่อย่าลืมนะคะ อ่านคู่มือการใช้ทุกครั้ง ทำตามคำแนะนำของบริษัทผู้ผลิตอย่างเคร่งครัด

9.ที่นอนน้องหมาแบบเจลให้ความเย็น

ที่นอนแบบนี้บ้านเราอาจจะคุ้นเคยมากกว่าแบบ heated bed ที่นอนแบบให้ความเย็นจะช่วยผ่อนคลายและเพิ่มความเย็นในช่วงอากาศร้อน หรือแม้แต่เมื่อน้องหมา ไปวิ่งเล่นกลับมาเหนื่อยๆ มักจะทำจากวัสดุพลาสติก หรือวัสดุที่คล้าย ๆ กัน สอดไส้ด้วยเจลให้ความเย็น ที่นอนชนิดนี้เหมาะกับสุนัขทุกสายพันธุ์เช่นกัน และโดยเฉพาะสุนัขที่ขี้ร้อนอย่างพวก บูลด๊อก เป็นต้น

10.ที่นอนน้องหมาสำหรับพกพา

ที่นอนแบบนี้เหมาะมากกับเดินทางท่องเที่ยว ลักษณะก็เหมือนที่นอนมาตรฐานทั่วไป เพียงแต่สามารถพับและพกพาได้ เพื่อสะดวกในการใช้และประหยัดพื้นที่

ขอขอบคุณ : บ้านและสวน Pets

เมื่อรับเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตแล้วเราก็อยากที่จะใส่ใจดูแลกันไปให้ถึงที่สุดนั่นแหละ ไม่ว่าจะสิ่งไหน ๆ หากที่จะช่วยอำนวยความสะดวก และทำให้เขาอยู่สบายได้เราก็อยากที่จะทำ และนี่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ มาสิ ได้เอามาฝาก  ทั้งนี้ ก่อนจากกันเหมืนอย่างเคย เมื่อวันนี้ เราได้เปิดมากับการดูและเอาใส่ใจกับสัตว์เเลี้ยงของเราแล้วนั้น มาสิ ก็ไมไม่พลาดที่จะเอาอีกหนึ่งประกันภัยคุณภาพ ที่ช่วยให้ความคุ้มครองดูแล เสริมสร้างคุณภาพชีวิตสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราให้เต็มที่ กับ ประกันสัตว์เลี้ยงเมืองไทย Cats & Dogs Plus ที่ให้ความคุ้มครองครบทั้งการเจ็บป่วยและบาดเจ็บ อีกทั้งความคุ้มครองพิเศษ ความเสียหายต่อบุคคลภายนอก กรณีน้องหมาของเราไปทำร้ายผู้อื่นด้วย เรียกได้ครบจบในที่เดียวจริง ๆ รายละเอียดจะเป็นอนอย่างไรบ้างนั้น ตาม มาสิ ไปดูกัน

ประกันสัตว์เลี้ยง เมืองไทย Cats & Dogs Plus

เมืองไทยประกันภัย

ความคุ้มครอง

  • มั่นใจด้วยความคุ้มครองที่ครบถ้วน ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป
  • ดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณด้วยเมืองไทย Cats & Dogs Plus
  • คุ้มครองสัตว์เลี้ยงแสนน่ารัก หากเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ
  • พร้อมดูแลและรับผิดชอบหากสัตว์เลี้ยงของคุณทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บหรือทรัพย์สินเสียหาย

ตารางความคุ้มครอง ประกันสัตว์เลี้ยง แบบที่ 1 : แผนสำหรับสัตว์เลี้ยงไม่ได้ฝังไมโครชิพ

ความคุ้มครอง แผนที่ 1 แผนที่ 2 แผนที่ 3 แผนที่ 4
1. เสียชีวิตเนื่องจากการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ หรือการเจ็บป่วย 5,000 5,000 5,000
2. ค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุแต่ละครั้ง 30,000 20,000 10,000 5,000
3. ค่ารักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วยต่อการรักษาแต่ละครั้งสูงสุดต่อปี 3,00015,000 2,00010,000 1,0005,000 1,0005,000
4. ค่ารักษาพยาบาลของสัตว์เลี้ยงที่สืบเนื่องมาจากพยาธิ เห็บ หมัด ไร เล็น โรคเรื้อน หรือโรคผิวหนังทุกชนิดต่อการรักษาแต่ละครั้งสูงสุดต่อปี  

3,000

15,000

 

2,000

10,000

 

1,000

5,000

 

1,000

5,000

5.ความรับผิดต่อบุคคลภายนอกอันเนื่องมาจากสัตว์เลี้ยง ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน ของบุคคลภายนอก ( ต่อครั้ง / ต่อปี ) 20,000 15,000 10,000 10,000
6. ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา การประกาศเพื่อติดตามสัตว์เลี้ยงที่สูญหาย ( ต่อครั้งต่อปี ) 5,000 3,000 2,000
7. การฉีดวัคซีน ตามประเภทโรคและกำหนดเวลาตามมาตรฐาน ( สูงสุดต่อปี ) 500
8. ค่าใช่จ่ายในการจัดงานศพ 5,000 3,000 2,000 2,000
9. การฝังไมโครชิพ ( 50% ของค่าใช้จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 250 บาท ) ( เฉพาะแผนที่ฝั่งไมโครชิพ )
เบี้ยประกันรายปี (รวมแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม )
อายุ 3 เดือน – 7 ปี 13,200 8,900 5,600 3,200

 

ตารางความคุ้มครอง ประกันสัตว์เลี้ยง แบบที่ 2 : แผนสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ฝังไมโครชิพ

ความคุ้มครอง แผนที่ 1 แผนที่ 2 แผนที่ 3 แผนที่ 4
1. เสียชีวิตเนื่องจากการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ หรือการเจ็บป่วย 5,000 5,000 5,000
2. ค่ารักษาพยาบาลจากการบาเดเจ็บจากอุบัติเหตุแต่ละครั้ง 30,000 20,000 10,000 5,000
3. ค่ารักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วยต่อการรักษาแต่ละครั้งสูงสุดต่อปี 3,00015,000 2,00010,000 1,0005,000 1,0005,000
4. ค่ารักษาพยาบาลของสัตว์เลี้ยงที่สืบเนื่องมาจากพยาธิ เห็บ หมัด ไร เล็น โรคเรื้อน หรือโรคผิวหนังทุกชนิดต่อการรักษาแต่ละครั้งสูงสุดต่อปี  

3,000

15,000

 

2,000

10,000

 

1,000

5,000

 

1,000

5,000

5.ความรับผิดต่อบุคคลภายนอกอันเนื่องมาจากสัตว์เลี้ยง ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน ของบุคคลภายนอก ( ต่อครั้ง / ต่อปี ) 20,000 15,000 10,000 10,000
6. ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา การประกาศเพื่อติดตามสัตว์เลี้ยงที่สูญหาย ( ต่อครั้งต่อปี ) 5,000 3,000 2,000
7. การฉีดวัคซีน ตามประเภทโรคและกำหนดเวลาตามมาตรฐาน ( สูงสุดต่อปี ) 500
8. ค่าใช่จ่ายในการจัดงานศพ 5,000 3,000 2,000 2,000
9. การฝั่งไมโครชิป ( 50% ของค่าใช้จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 250 บาท ) ( เฉพาะแผนที่ฝั่งไมโครชิป ) 250 250 250 250
เบี้ยประกันรายปี (รวมแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม )
อายุ 3 เดือน – 7 ปี 12,000 8,100 5,200 3,000
เงื่อนไขในการรับประกันภัย
  • สัตว์เลี้ยงต้องมีอายุระหว่าง 3 เดือน ถึง 7 ปี
  • สัตว์เลี้ยงต้องมีสุขภาพสมบูรณ์ ไม่มีอาการบาดเจ็บ พิการหรือเจ็บป่วย ( ดูจากใบรับรองตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยง )
  • สัตว์เลี้ยงต้องอยู่ในอาณาเขตประเทศไทยเท่านั้น
  • สัตว์เลี้ยงต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบตามประเภทโรค และกำหนดเวลาตามมาตรฐาน
  • จำนวนกรมธรรม์สูงสุด 1 ฉบับ / สัตว์เลี้ยง 1 ตัว
  • ต้องมีไมโครชิพ ( กรณีทำ ประกันสัตว์เลี้ยง แบบฝังไมโครชิพ )
  • ค่าฝังไมโครชิพให้ความคุ้มครองเฉพาะ เมื่อกรมธรรม์มีผลบังคับเป็นครั้งแรก
  • กรณีทำประกันแบบฝังไมโครชิพ สัตว์เลี้ยงจะต้องได้รับการฝังไมโครชิพมาแล้วไม่เกินกว่า 30 วัน
ข้อยกเว้นสำคัญ ของกรมธรรม์ ประกันสัตว์เลี้ยง
  • กรมธรรม์ไม่คุ้มครองการเจ็บป่วยภายในระยะเวลา 60 วัน ( Waiting Period ) ในกรณีขาดต่ออายุให้เริ่มนับ Waiting Period ใหม่
  • ไม่คุ้มครองการเสียชีวิต การบาดเจ็บ หรือการเจ็บป่วยที่เป็นสภาพที่เป็นมาก่อนการเอาประกันภัย การตรวจรักษาภาวะที่เป็นมาแต่เกิด หรือโรคทางพันธุกรรม
  • ไม่คุ้มครองการเสียชีวิต ที่มีสาเหตุมาจากพยาธิ เห็บ หมัด ไร เล็น โรคเรื้อน หรือโรคผิวหนังทุกชนิด
  • ไม่คุ้มครองการเสียชีวิตหรือการเจ็บป่วยที่มีสาเหตุมาจาก
    • การถูกฆ่าโดยเจตนา ถูกวางยาพิษ ยาโด๊ป หรือถูกกลั่นแกล้ง
    • โรคระบาดของสัตว์เลี้ยง
    • ภาวะโรคขาดอาหาร การอยู่รวมกันที่แออัด การขาดอากาศหายใจเนื่องจากคลื่นความร้อน
    • การผ่าตัด หรือฉีดวัคซีนปลูกฝี เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยจากโรค
    • ขณะการขนส่ง
  • ไม่คุ้มครองนอกอาณาเขตประเทศไทย
  • ไม่คุ้มครองการตรวจสุขภาพทั่วไป การรักษาหรือการผ่าตัดซึ่งไม่เกี่ยวกับการบาดเจ็บ

**รายละเอียด และข้อยกเว้นความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย

เอกสารที่ใช้ในการขอทำ ประกันสัตว์เลี้ยง ต้องครบทุกข้อ ดังนี้

  • ใบคำขอเอาประกันภัย ที่กรอกรายละเอียดครบถ้วนสมบูรณ์
  • ใบรับรองการตรวจสุขภาพของสัตว์เลี้ยง
  • สำเนาใบรับรองการฉีดวัคซีน
  • หลักฐานในการฝังไมโครชิพ (สำหรับสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการฝังไมโครชิพมาแล้ว) สำหรับแบบที่ 1 รับประกันภัยแบบมีไมโครชิพ
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของสัตว์เลี้ยง
  • รูปถ่ายของสัตว์เลี้ยง รวมถึงรูปถ่ายที่แสดงจุดเด่น (ตำหนิ) ของสัตว์เลี้ยงนั้น ไม่เกิน 2 สัปดาห์ ครบทุกรูปดังนี้
  • หน้าตรง
  • เต็มตัวด้านหน้า
  • ด้านข้าง (ซ้ายและขวา)
  • ท้อง
  • ตำหนิ

ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนซี้สี่ขา สัตว์เลี้ยงแสนรัก หรือเจ้านายตัวน้อยของเรา ไม่ว่าจะยามสุข ยามทุกข์ เราก็อยากให้เขาได้อยู่กับเราในทุกเหตุการณ์สำคัญของชีวิต และเมื่อเขาได้อยู่กับเราในทุกช่วงสำคัญของชีวิตการดูแลซึ่งกันและกันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราใส่ใจ เพราะจะมีความสุขใดจะสุขใจได้กว่าการได้อยู่ร่วมกันกับคนที่คุณรัก สำหรับ เหล่าทาสคนไหนสนใจที่จะทำ ประกันสัตว์เลี้ยง ก็สามารถสมัครได้กับ มาสิ เลย

สนใจประกันสัตว์เลี้ยง เมืองไทย Cats & Dogs Plus

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะครับ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ ประกันวินาศภัย ประกันรถยนต์ ประกันรถมอเตอร์ไซด์ ประกันสุขภาพ ประกันโดรน ประกันการเดินทาง ประกันอุบัติเหตุ ประกันภาคธุรกิจ และพ.ร.บ. รวมทั้ง ผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประกันสัตว์เลี้ยง

Please become Masii Fan

Facebook: https://lnkd.in/gFFh8mh

Website: www.masii.co.th

Blog: https://masii.co.th/blog

Line: @masii

Tel: 02 710 3100 

Youtube: https://lnkd.in/gbQf9eh

Instagram: https://lnkd.in/ga4j5ri

Twitter: twitter.com/MasiiGroup

#สินเชื่อ #ประกัน

#ประกันบ้าน #ประกันภัยบ้าน

#รถแลกเงิน #บ้านแลกเงิน #สินเชื่อส่วนบุคคล

#บัตรกดเงินสด #เงินด่วนทันใจ #สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์

#กู้เงิน #เงินสด #เงินก้อน #เงินด่วน #เงินกู้ทันใจ #masii

#มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า

#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า #SimplifiedComparison