น้องหมา หรือสุนัขจัดได้ว่าเป็นสัตว์เลี้ยงอีกประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการเลี้ยงสำหรับคนรักสัตว์ ด้วยนิสัยที่ขี้อ้อน ซื่อสัตย์ เป็นกันเอง จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักที่นิยมเลี้ยง แต่ทั้งนี้ เหล่าน้องหมาเองก็มีหลากหลายสายพันธ์ หลากหลายขนาด ซึ่งก็จะมีวิธีการ ข้อจำกัด และเงื่อนไขในการเลี้ยงที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของปัญหาเสียงรบกวนจากการเห่าของเหล่าน้องหมา ที่มักจะก่อให้เกิดเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบให้กับตัวผู้เลี้ยงเองด้วย ดังนั้น วันนี้ มาสิ ได้รวบเอากับ 5 สายพันธุ์น้องหมา ที่เห่าเก่งและส่งเสียงดัง หากอยากเลี้ยงต้องศึกษา ก่อนกลายเป็นปัญหาส่งเสียงดัง จะมีสายพันธุ์ใดบ้างนั้น ต้องไปติดตามกัน นอกจากนี้ มาเสรฺมสร้างความคุ้มครองในการดูแลรักษา ให้กับเหล่าสัตว์เลี้ยงทั้งหลายของเราให้ได้รับความคุ้มครองให้เต็มที่ด้วย ประกันสัตว์เลี้ยง ที่ให้ความคุ้มครองทั้งค่ารักษาจากการบาดเจ็บ เจ็บป่วย และความคุ้มครองในส่วนของค่าใช้จ่ายในการโฆษณา การประกาศเพื่อติดตามสัตว์เลี้ยงที่สูญหายด้วย ซึ่งรายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นมาดูกัน
เปิด สายพันธุ์น้องหมาเห่าเก่ง คนอยากเลี้ยงต้องรู้ ก่อนกลายเป็นปัญหา…พร้อมแนะนำเพื่อสัตว์เลี้ยงแสนรัก ดูแลรักษาด้วย ประกันสัตว์เลี้ยง คุ้มครองครบค่ารักษา ทั้งการเจ็บป่วย และบาดเจ็บ
เปิด สายพันธุ์น้องหมาเห่าเก่ง คนอยากเลี้ยงต้องรู้
สุนัข หรือน้องหมาที่ชอบเห่านั้น เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในปัญหาที่มองข้ามไม่ได้เลยทีเดียว สำหรับผู้ที่กำลังมองหาหรือเริ่มต้นที่จะเลี้ยง เพราะมันสามารถสร้างความรำคาญให้กับทั้งเจ้าของ คนใกล้ตัว คนรอบข้าง รวมถึงคนในละแวกบ้านใกล้เรือนเคียง จนเกิดเป็นปัญหาตามมาได้ ยิ่งบางตัวที่เห่าหอนทั้งวันทั้งคืนก็อาจทำให้ไม่ต้องหลับต้องนอนกันเลยทีเดียว ดังนั้นวันนี้ มาสิ จึงได้รวบมาให้แล้วกับเหล่าสายพันธุ์น้องหมา ที่มีนิสัยชอบเห่า หอน หรือส่งเสียงดัง ซึ่งจะมี 5 สายพันธุ์ ดังนี้
- บีเกิล (Beagle)
- ปอมเมอเรเนียน (Pomeranian)
- ชิวาวา (Chihuahua)
- ดัชชุน (Dachshund)
- ไซบีเรียน ฮัสกี้ (Siberian Husky)
ทั้งนี้ นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสายพันธุ์น้องหมาสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่เห่าเยอะ เห่าเก่ง และชอบส่งเสียงดัง ซึ่งใครก็ตามที่คิดจะเลี้ยงน้องหมาพันธุ์เหล่านี้ก็อย่าลืมหาวิธีรับมือ พร้อมทั้งศึกษาวิธีแก้ปัญหา และทำให้น้องหมาหยุดเห่า เพื่อนำไปปรับใช้กันด้วย
แล้วทำไม น้องหมาจึงชอบเห่า?
การ เห่า นั้นถือได้ว่าเป็นรูปแบบการสื่อสารหนึ่งของน้องหมา ที่มักจะใช้แสดงออกในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น ส่งสัญญาณเตือนภัยอันตราย ทักทาย หรือเวลาเล่นกัน ส่วนสุนัขบางสายพันธุ์ที่มีนิสัยไม่ค่อยชอบเห่ามักจะใช้วิธีการสื่อสารและแสดงออกทางอารมณ์ในรูปแบบอื่น ๆ แทน
โดยทั่วไปแล้วเสียงเห่าของน้องหมา มักจะมีคลื่นความถี่อยู่ที่ระหว่าง 160-2630 Hz (เฮิรตซ์) และใช้ความถี่ที่แตกต่างกันในการแยกเสียงเห่าของแต่ละตัว ซึ่งเสียงเห่าของน้องหมาแต่ละพันธุ์ก็จะมีความแตกต่างกันได้ หรือแม้แต่ที่เป็นพันธุ์เดียวกัน แต่มีการเลี้ยงดูและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง ก็ย่อมที่จะส่งผลให้มีเสียงเห่าที่แตกต่างกันไปได้เช่นกัน
แล้วเราต้องทำอย่างไร ไม่ให้น้องหมาของเราเห่าพร่ำเพรื่อ?
สำหรับวิธีป้องกันไม่ให้สุนัขของเราเห่าพร่ำเพรื่อ คือ สั่งให้มันหยุดเห่าด้วยน้ำเสียงปกติ ไม่ตะคอก หรือตะโกน และหมั่นให้คำชม หรือรางวัลเมื่อน้องหยุดเห่าแล้ว หรือ อาจใช้เป็นวิธีเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการชวนเล่นแทนก็ได้
แต่ทั้งนี้ อีกหนึ่งสาเหตุในการเห่าพร่ำเพรื่อของน้องหมา อาจจะเกิดจากความเครียด หรือความเหงาที่ต้องอยู่คนเดียวได้ ซึ่งหากเป็นไปได้ควรพาสุนัขไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หรือหากิจกรรมสนุก ๆ เล่นกับน้องบ่อย ๆ ไม่ปล่อยให้น้องหมาต้องอยู่ตัวเดียวตามลำพังถ้าไม่จำเป็น เพราะอาจทำให้มันรู้สึกเหงาและอยากเห่าเพื่อเรียกร้องความสนใจได้ แต่บางครั้งปัญหาในการเห่าพร่ำเพรื่อนี้ก็อาจจะมาจากปัญหาด้านสุขภาพได้เช่นกัน ฉะนั้นจึงควรหมั่นพาไปตรวจสุขภาพและทำการรักษาตามคำแนะนำของสัตวแพทย์เป็นการดีที่สุด
ขอขอบคุณ : ไทยนิวส์
ทั้งนี้ นอกจากวิธีการรับมือ และวิธีการก่อนนำน้องหมามาเลี้ยงที่ มาสิ ได้เอามาฝากให้ทุกคนได้อ่านกันแล้ว เพื่อเป็นการดูแลสัตว์เลี้ยงแสนรักต่าง ๆ ของเราได้เต็มที่ มาเสริมความคุ้มครองกันด้วย ประกันสัตว์เลี้ยง ที่แม้ว่ากรณีที่สัตว์เลี้ยงแสนรักหายออกจากบ้านไป แล้วได้ใช้วิธีติดประกาศตามหา ไม่ว่าจะเป็นการติดแผ่นป้ายโปสเตอร์ โบร์ชัวร์ หรือซื้อโฆษณาในช่องทางออนไลน์ ทาง ประกันสัตว์เลี้ยง ก็ให้ความคุ้มครองในส่วนของค่าใช้จ่ายในการโฆษณา การประกาศเพื่อติดตามสัตว์เลี้ยงที่สูญหายด้วย ซึ่งรายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นมาดูกัน
เมืองไทย Cats & Dogs Plus
คุ้มครองสัตว์เลี้ยงแสนรักเมื่อเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุ พร้อมคุ้มครองความรับผิด หากสัตว์เลี้ยงของคุณทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ หรือทรัพย์สินเสียหาย
ความคุ้มครอง ( Insurance Coverage ) : | แผนสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ไม่ได้ฝังไมโครชิป | |||
แผนที่ 1 | แผนที่ 2 | แผนที่ 3 | แผนที่ 4 | |
1. เสียชีวิตเนื่องจากการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ หรือการเจ็บป่วย | 5,000 | 5,000 | 5,000 | – |
2. ค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บ จากอุบัติเหตุแต่ละครั้ง | 30,000 | 20,000 | 10,000 | 5,000 |
3. ค่ารักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วย | ||||
– ต่อการรักษาแต่ละครั้ง | 3,000 | 2,000 | 1,000 | 1,000 |
– สูงสุดต่อปี | 15,000 | 10,000 | 5,000 | 5,000 |
4. ค่ารักษาพยาบาลของสัตว์เลี้ยงที่สืบเนื่องมาจากพยาธิ เห็บ หมัด ไร เล็น โรคเรื้อน หรือโรคผิวหนังทุกชนิด | ||||
– ต่อการรักษาแต่ละครั้ง | 3,000 | 2,000 | 1,000 | 1,000 |
– สูงสุดต่อปี | 15,000 | 10,000 | 5,000 | 5,000 |
5. ความรับผิดต่อบุคคลภายนอกอันเนื่องมาจากสัตว์เลี้ยง ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน ของบุคคลภายนอก (ต่อครั้ง ต่อปี) | 20,000 | 15,000 | 10,000 | 10,000 |
6. ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา การประกาศเพื่อติดตามสัตว์เลี้ยงที่สูญหาย (ต่อครั้ง ต่อปี) | 5,000 | 3,000 | 2,000 | – |
7. การฉีดวัคซีน ตามประเภทโรคและกำหนดเวลาตามมาตรฐาน (สูงสุดต่อปี) | 500 | – | – | – |
8. ค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพ | 5,000 | 3,000 | 2,000 | 2,000 |
9. การฝังไมโครชิป (50% ของค่าใช้จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 250 บาท) (เฉพาะแผนที่ฝังไมโครชิป) | – | – | – | – |
เบี้ยประกันภัยรายปี รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม : | 13,200 | 8,900 | 5,600 | 3,200 |
อายุ 3 เดือน – 7 ปี |
เงื่อนไขและข้อยกเว้น :
- สัตว์เลี้ยงต้องมีอายุระหว่าง 3 เดือน ถึง 7 ปี และอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น
- สัตว์เลี้ยงต้องมีสุขภาพสมบูรณ์ ไม่มีอาการบาดเจ็บ พิการ หรือเจ็บป่วย (ดูจากใบรับรองตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยง)
- สัตว์เลี้ยงต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบตามประเภทโรคและกำหนดเวลาตามมาตรฐาน
- ต้องมีไมโครชิป (กรณีทำประกันภัยแบบฝังไมโครชิป) และ ค่าฝังไมโครชิปให้ความคุ้มครองเฉพาะเมื่อกรมธรรม์มีผลบังคับเป็นครั้งแรก
- บริษัทฯ จะจ่ายค่าชดเชยในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยนำสัตว์เลี้ยงที่เอาประกันภัยไปรับการฝังไมโครชิป ภายในระยะเวลา 30 ก่อนวันที่กรมธรรม์ประกันภัยมีผลบังคับเป็นครั้งแรก โดยบริษัทฯ จะชดเชยเป็นจำนวนเงินร้อยละ 50 ของค่าฝังไมโครชิปที่เกิดขึ้นจริง และไม่เกินตามที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัย
ไม่คุ้มครอง :
- การเสียชีวิต การบาดเจ็บ และการเจ็บป่วยที่เป็นสภาพที่เป็นมาก่อนการเอาประกันภัย
- การเสียชีวิต หรือการรักษาพยาบาลเนื่องจากการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นในระหว่างระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง (Waiting Period) ที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลา 60 วัน หลังจากที่กรมธรรม์ประกันภัยมีผลบังคับเป็นครั้งแรก
และนี่ก็เป็นทั้งสาระความรู้ และอีกหนึ่งตัวช่วยดี ๆ ในการดูแลสัตว์เลี้ยงอย่าง ประกันสัตว์เลี้ยง ที่ มาสิ ได้เอามาฝากกันและหากใครที่พบน้องหมา น้องแมวแล้ว ไม่ว่าน้องจะกลับบ้านมาเอง หรือมีคนพบเห็น เมื่อพบแล้วก็ควรป้องกันไม่ให้น้องหายไปอีก ด้วยการหาปลอกคอมาใส่ให้น้องหมา-น้องแมว โดยอาจเป็น ปลอกคอระบุชื่อน้อง พร้อมเบอร์เจ้าของ หากใครพบเจอจะได้โทรหาให้เจ้าของกลับไปรับได้ หรือติด GPS ห้อยไว้ที่ปลอกคอ เพื่อตามพิกัดว่าน้องอยู่ที่ไหนรวมถึงควรทำรั้วรอบขอบชิด และคอยดูแลน้องหมา-น้องแมว ให้อยู่ในสายตาเสมอ
สนใจสมัคร ประกันสัตว์เลี้ยง
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะครับ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ ประกันวินาศภัย ประกันรถยนต์ ประกันรถมอเตอร์ไซด์ ประกันสุขภาพ ประกันโดรน ประกันการเดินทาง ประกันอุบัติเหตุ ประกันภาคธุรกิจ และพ.ร.บ. รวมทั้ง ผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประกันสัตว์เลี้ยง
-
มาสิ มาแชร์! ไอเท็มคลายร้อนยอดฮิตสำหรับ สัตว์เลี้ยง มีติดไว้ คลายร้อนได้
-
masii รีวิว I เปรียบเทียบประกันสัตว์เลี้ยง ซื้อไว้ให้น้องหมา น้องแมว ที่ไหนเวิร์คสุด
_____________________________________________
Please become Masii Fan
Facebook: https://lnkd.in/gFFh8mh
Website: www.masii.co.th
Blog: https://masii.co.th/blog
Line: @masii
Tel: 02 710 3100
Youtube: https://lnkd.in/gbQf9eh
Instagram: https://lnkd.in/ga4j5ri
Twitter: twitter.com/MasiiGroup
#สินเชื่อ #ประกัน
#ประกันบ้าน #ประกันภัยบ้าน
#รถแลกเงิน #บ้านแลกเงิน #สินเชื่อส่วนบุคคล
#บัตรกดเงินสด #เงินด่วนทันใจ #สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์
#กู้เงิน #เงินสด #เงินก้อน #เงินด่วน #เงินกู้ทันใจ #masii
#มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า
#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า #SimplifiedComparison