อุบัติเหตุทางรถยนต์มีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ต่อให้เราระวังแค่ไหนก็ตาม โดยปกติแล้วคงไม่มีใครอยากให้ตัวเองประสบอุบัติเหตุใช่หรือเปล่าครับ ซึ่งส่วนใหญ่รถยนต์ที่ประสบอุบัติเหตุมักจะมีสาเหตุจากความประมาท เช่น หลับใน ขับรถฝ่าไฟแดง ขับเร็วเกินกว่ากฏหมายกำหนด เป็นต้น และพอหลังจากประสบอุบัติเหตุประเด็นที่มักจะตามมาคือ “ทำประกันไว้ไหม?” “ทำประกันอะไรไว้?” “ประกันคุ้มครองแค่ไหน?” ซึ่งวันนี้มาสิมีตัวอย่างอุบัติเหตุที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้งในต่างจังหวัดและกรุงเทพมาให้ดูกันครับ ซึ่งนั่นก็คือ รถยนต์เสียหลักลงข้างทาง, รถยนต์เสียหลักพลิกคว่ำ, รถยนต์แหกโค้ง รวมๆคืออุบัติเหตุรถเสียหลักครับ เรามาดูรายละเอียดกันว่าหากเกิดอุบัติเหตุแบบนี้ ประกันภัยรถยนต์ จะคุ้มครองหรือเปล่า
อุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักลงข้างทาง ประกันภัยรถยนต์ คุ้มครองไหม?
กรณีรถเสียหลักขับตกลงข้างทางประกันชั้นไหนคุ้มครอง
ถ้าหากขับรถอยู่ดีๆ และอยู่ๆ เกิดอุบัติเหตุขึ้นมา มีรถมาชนกับรถของเรา ทำให้เกิดเสียหลักลงข้างทางจะมีประกันภัยรถยนต์ชั้นไหนบ้างนะที่เข้ามาดูแล
ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 นั้นคุ้มครองรถเราและตัวเรารวมถึงผู้โดยสารในรถเรา ในกรณีที่ชนหรือประสบอุบัติแบบไม่มีคู่กรณีด้วยนั้นเอง แต่รายละเอียดปลีกย่อยต้องดูจากกรมธรรม์ที่ทำนะครับ
ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2 , 3 ไม่ให้ความคุ้มครองในส่วนของค่าซ่อมรถเราครับ เพราะจะคุ้มครองในส่วนของทรัพย์สินภายนอกหรือคู่กรณีเราเท่านั้นครับ
ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2+ , 3+ ไม่ให้ความคุ้มครองในกรณีตัวอย่างนี้นะครับ เพราะ “คุ้มครองเฉพาะการชนกับคู่กรณีที่เป็นยานพาหนะทางบกเท่านั้น” หรือเข้าใจง่ายๆว่า ครอบคลุมแค่กรณีรถชนรถเท่านั้น
มีอุบัติเหตุรถตกข้างทางแบบไหนที่ประกันภัยรถชั้น 2 , 2+ , 3 , 3+ จะคุ้มครอง?
– สำหรับ ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2,2+,3,3+ กรณีเกิดอุบัติเหตุจากรถชนรถจนส่งผลให้รถตกข้างทาง ตัวอย่างเช่น เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ และเสียหลักรถตกลงข้างทาง ซึ่งแบบนี้จะได้รับความคุ้มครองและบริษัทประกันต้องรับผิดชอบความเสียหายทั้งหมด เนื่องจากสาเหตุเกิดจากรถชนรถ จนส่งผลให้รถเราเสียหลักตกข้างทางนั้นเอง
– แต่ถ้ากรณีหลับในแล้วรถตกข้างทาง แบบนี้ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+,3+ ไม่คุ้มครองค่าซ่อมรถเรา เพราะไม่ได้มีสาเหตุมาจากรถชนรถครับ ส่วน ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2 , 3 ไม่คุ้มครองค่าซ่อมรถเราเช่นกันครับ
ความแตกต่างระหว่าง ประกันภัยรถยนต์ ชั้น2 , 2+ , 3 , 3+ และชั้น 1
สาเหตุหลักอย่างหนึ่งที่ทำให้ ประกันรถยนต์ ชั้น2 , 2+ , 3 , 3+ และชั้น 1 มีราคาแตกต่างกัน หรือพูดง่ายๆว่า ประกันชั้น 2 , 2+ , 3 , 3+ มีราคาถูกกว่าประกันชั้น 1 เพราะมีเงื่อนไขบังคับ และให้ความคุ้มครองความเสี่ยงภัยน้อยกว่าประกันชั้น 1 ดังเช่นตัวอย่างที่มาสิยกมาพูดในวันนี้ จึงเป็นสาเหตุที่เบี้ยประกันมีราคาถูกกว่าครับ
ข้อดีของ ประกันภัย ชั้น 1 เมื่อรถเสียหลัก
เราจะมาดูในส่วนข้อดีของประกันชั้น 1 กันครับว่าเมื่อไหร่ที่ เกิดเหตุขึ้น มีความคุ้มครองในส่วนนี้ทำให้เราได้รับการดูแลค่าเสียหายรถและค่ารักษาพยาบาลจากบริษัทประกัน เราไม่ต้องเสียเงินค่าซ่อมรถและค่ารักษาพยาบาลเอง ถึงแม้ ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 จะมีราคามากกว่า ประกันภัยรถยนต์ ชั้นอื่นๆ แต่ ก็คุ้มค่าที่จะทำ เนื่องจากความคุ้มครองที่ครอบคลุมดูแลเยอะกว่ามากครับ และหากเรา ต้องใช้ถนนเป็นประจำยิ่งควรมองถึงจุดนี้ เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตจะประสบเหตุแบบนี้หรือไม่ แต่หากเราเลือกความคุ้มครองนี้ไว้เวลาเกิดเหตุจะได้เบาใจว่า ค่าซ่อมรถและค่ารักษาพยาบาลของเราจะมีคนดูแลครับ ซึ่งถือเป็นการลงทุนเพื่อความประหยัดได้นะครับ ประหยัดค่ารักษาพยาบาลกับค่าซ่อมรถไงครับ
สนใจซื้อ ประกันภัยรถยนต์
และหากสนใจอยากทำ ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 สามารถเข้ามาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 02 710 3100 ได้เลยครับ หรืออยากสอบถามเรื่องราคา ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ก็สามารถสอบถามได้เลยที่คอลเซนเตอร์ และนอกจากนี้ยังสามารถ สอบถามข้อมูลหรือเปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์ได้ด้วยนะครับ แค่ คลิกที่นี่ แอดไลน์มาเป็นเพื่อนกับเราที่ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อติดตามข่าวสารอัปเดตและความรู้ดีๆ เกี่ยวกับ พ.ร.บ.รถยนต์ ประกันรถยนต์ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันภัยโดรน ประกันเดินทาง รวมไปถึง ประกันสุขภาพ ได้เลยเช่นกัน