อีกไม่กี่เดือนก็จะเข้าสู่ช่วงสิ้นปีแล้ว ซึ่งก็เป็นช่วงที่วุ่นวายพอสมควรสำหรับเหล่ามนุษย์เงินเดือนทั้งหลายที่ต้องหามาตรการมาลดหย่อนภาษี ที่เกิดจากการ “เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา” ยิ่งใครมีรายได้สูง ๆ ฐานภาษีก็ต้องสูงเป็นธรรมดา เพราะฉะนั้นอะไรที่สามารถลดหย่อนปี 2560 ได้บ้าง ก็ต้องเอามาใช้ให้มากที่สุด ซึ่งเราได้รวบรวมมาไว้ที่นี่แล้ว
ลดหย่อนภาษีปี 2560 ลดหย่อนอะไรได้บ้าง
1. การชำระเบี้ยประกันภัย
รู้หรือไม่ว่าการทำประกันภัยนั้น ก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ แต่กรมธรรม์ประกันชีวิตจะต้องมีระยะเวลา 10 ปีขึ้นไป เพราะฉะนั้นประกันชีวิตประเภทนี้จึงเป็นประกันแบบออมทรัพย์หรือบำนาญนั่นเอง โดยมีกำหนดไว้ว่า สามารถลดหย่อนได้ตามฐานภาษี แต่ต้องไม่เกิน 90,000 ขึ้นไป ก็นับว่าคุ้มพอสมควร เพราะนอกจากจะลดหย่อนได้แล้ว ยังสามารถเก็บไว้รอผลประโยชน์ระยะยาวได้อีก
2. การออมเงินผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
การออมเงินผ่านกองทุนนี้ มีข้อบังคับว่าออมได้ไม่เกิน 15% ของรายได้ทั้งหมดที่ต้องเสียภาษี เพราะฉะนั้นจึงสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่ได้ออมเงินไปจริง แต่ไม่เกิน 10,000 บาท ก็ยังนับว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจอย่างมาก
3. การลงทุนในกองทุนรวม LTF/RMF
เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการลดหย่อนภาษี เพราะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนกลับมาด้วย ตั้งสองกองทุนนี้ก็มีความแตกต่างกันพอสมควร ซึ่งเราขอสรุปแบบพอสังเขปไว้ดังต่อไปนี้
กองทุน LTF ชื่อเต็มว่ากองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund) หลักเกณฑ์ในการลงทุนกับเงินกองทุนนี้ คือสามารถซื้อได้ไม่เกิน 15% ของเงินที่ต้องเสียภาษี เพราะฉะนั้นจึงเป็นเงินที่น้อยมากสำหรับมนุษย์เงินเดือน และคุ้มค่าเป็นอย่างยิ่งที่จะลงทุน ส่วนผลตอบแทนนั้นก็รอไม่นานเลย เพราะใช้เวลาเพียง 5 ปีปฏิทินเท่านั้น (ตามคำศัพท์ทางการคลัง)
กองทุน RMF ชื่อเต็มว่ากองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fundหากจะแปลกันตรง ๆ ก็คือกองทุนเพื่อการเกษียณนั่นเอง โดยกองทุนนี้จะแยกมาจากกองทุนบำนาญของข้าราชการ และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของเอกชน โดยเงื่อนไขในการซื้อกองทุนนี้ ก็คือต้องลงทุนขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 3% และสูงสุดไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี แต่ความโหดจะอยู่ที่เราต้องออมเป็นจำนวนเท่ากันทุก ๆ ปี และจะสามารถถอนเงินออกมาได้เมื่อมีอายุ 55 ปีบริบูรณ์แล้วเท่านั้น
ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่าจะเลือกลดหย่อนภาษีปี 2560 ด้วยวิธีไหน แต่ถ้าเลือกทั้ง 3 วิธีนี้รับรองว่าคุ้มแน่นอน อย่างไรก็ตามหากเป็นการลดหย่อนจากการลงทุนก็ต้องมั่นใจด้วยว่าเมื่อลงทุนแล้วจะสามารถรับมือกับความเสี่ยงและทำตามเงื่อนไขการลงทุนได้ จะได้ไม่มีปัญหาเกิดขึ้นนั่นเอง