เหล่ามนุษย์ออฟฟิศควรรู้ไว้กับ 6 สารอาหารจำเป็นสำหรับ วัยทำงาน

สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

มนุษย์ทำงานอย่างเรา ๆ แม้เรื่องของความรับผิดชอบในหน้าที่การงานจะเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่การดูแลรักษาทั้งสุขภาพกาย สุขภาพใจ ละสุขภาพจิตก็เป็นเรื่องสำคัญที่เราควรใส่ใจและดูแลรักษาให้ดีอยู่เสมอ แต่ก็เข้าใจด้วยด้วยภาระหน้าที่ทั้งหลายเพียงแค่จะเจียกเวลาไปพักผ่อนก็ว่าอยากแล้ว จะให้เผื่อเวลาไปออกกำลังกาย เล่นกีฬา ทำงานอดิเรกด้วยยิ่งยากเข้าไปใหญ่ แต่แม้ว่าเรื่องของการออกกำลังกาย หรือการทำงานอดิเรกเสริม อาจะเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้หรือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากในบางคน แต่เรื่องของการเลือกอาหารการกินก็คนทำได้ไม่ยากจนเกินไป เพราะเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้วเสนมอ ๆ ในปัจจุบัน ดังนั้น วันนี้ มาสิ จึงได้หยิบเอากับ 6 สารอาหารดี ๆ ที่เหล่ามนุษย์ออฟฟิศควรรู้ว่าเหมาะกับวัยทำงานเป็นที่สุด จะมีสารอาหารใดบ้างนั้น ไปอ่านกัน

มนุษย์ออฟฟิศ วัยทำงาน

วัยทำงานหรือวัยแรงงาน ในประเทศไทยจะมีอายุอยู่ในช่วง 15-59 ปี เป็นวัยที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เป็นกลไกขับเคลื่อนผลผลิตของเศรษฐกิจ และยังเป็นที่พึ่งของคนในครอบครัว คนในวัยนี้จึงควรให้ความสนใจ ใส่ใจกับการดูแลสุขภาพของตนให้แข็งแรงอยู่เสมอ ไม่ทำงานจนลืมดูแลสุขภาพตนเอง จะต้องเตรียมพร้อมที่จะเป็นผู้สูงวัยที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี พึ่งตัวเองให้ได้มากที่สุด และเป็นภาระต่อสังคมน้อยที่สุด ถือเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ

วัยทำงาน กับการดูแลสุขภาพ

ข้อมูลจากการสำรวจเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบประเด็นน่าสนใจในเรื่องพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของคนวัยทำงาน โดยเริ่มต้นจากการบริโภคอาหาร ที่ถือเป็นพฤติกรรมเสี่ยงอย่างแรกที่ถูกละเลยโดยไม่สนใจว่าในแต่ละวันได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่ หรือครบ 3 มื้อหลักหรือไม่  โดยพบว่าคนในวัยทำงานมีการบริโภคอาหารหลักครบทั้ง 3 มื้อ น้อยกว่าวัยอื่นๆ อย่างชัดเจน

นอกจากนี้คนวัยทำงานยังออกกำลังกายน้อยกว่ากลุ่มอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด แม้จะมีการรณรงค์ให้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพกันอย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่ก็ยังพบว่าคนวัยทำงานเพียง 1 ใน 5 เท่านั้นที่ออกกำลังกาย คนวัยทำงานยังมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพด้วยการดื่มสุราและสูบบหรี่ แม้จะรู้ถึงโทษและพิษภัยว่าส่งผลเสียต่อสุขภาพ แต่ก็ยังเลือกที่จะดื่มสุราและสูบบุหรี่ ซึ่งข้อมูลจากการสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการดื่มสุรา พบว่าวัยทำงานดื่มสุราและสูบบุหรี่มากกว่าวัยอื่นอย่างชัดเจน

เหล่ามนุษย์ออฟฟิศควรรู้ไว้กับ 6 สารอาหารจำเป็นสำหรับ วัยทำงาน

นักวิชาการด้านอาหารและโภชนาการจาก เนสท์เล่ แนะนำ 6 สารอาหาร ที่จำเป็นสำหรับคนวัยทำงาน ควรรับประทานทุกวัน ช่วยสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง เสริมภูมิต้านทาน ฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรง มีดังนี้

6 สารอาหารจำเป็นสำหรับวัยทำงาน

1.วิตามินดี

คนไทยจำนวนไม่น้อยมีระดับวิตามินดีไม่เพียงพอ แม้ร่างกายจะสามารถสังเคราะห์วิตามินดีได้เองเมื่อผิวหนังโดนแสงแดด แต่พฤติกรรมเปลี่ยนไปเมื่อคนวัยทำงานใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในตึก ในห้อง ขาดกิจกรรมกลางแจ้ง อาจทำให้เกิด ภาวะขาดวิตามินดี การดูดซึมแคลเซียมทำได้ไม่ดี ส่งผลให้ระดับภูมิคุ้มกันลดลง

เสริมวิตามินดี : อาหารและกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น สัมผัสแดดยามเช้า ออกไปเดินเล่น ออกกำลังกาย รดน้ำต้นไม้ เวลา 8.00 – 10.00 น. หรือ 15.00 – 17.00 น. ประมาณ 10 – 20 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์

กินปลาเป็นประจำ เห็ด ตับ ไข่แดง ปลาที่มีน้ำมันสูง ได้แก่ ปลาซาร์ดีน ทูน่า แซลมอน แมคเคอเรล เห็ดหอม ธัญพืชต่าง ๆ และนมที่เสริมวิตามินดี

………………………………………………

2.วิตามินบี

คนวัยทำงานต้องใช้ความคิด ใช้สมอง บางทีอาจโหลดเกินไป รู้สึกอ่อนเพลีย สมองล้า หงุดหงิดง่าย

เสริมวิตามินบี : บี 1, บี 6, บี 12 เพื่อช่วยการทำงานของระบบประสาทและสมอง และอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เนื้อปลา อาหารทะเล นมและผลิตภัณฑ์จากนม โยเกิร์ต ไข่ ถั่ว ผักใบเขียว

โดยเฉพาะผู้หญิงวัยทำงาน ต้องการวิตามินบี 6 มีมากในเนื้อสัตว์, ปลา, ผลิตภัณฑ์จากนม และวิตามิน บี 12 พบมากในเนื้อสัตว์, ปลา, นม, ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง, คาโนลาออยล์ ซึ่งเป็นแหล่งของสารโคเอ็นไซม์คิว 10 ด้วย (CoQ10) ช่วยลดอัตราเสี่ยงโรคหัวใจ ควรบริโภควันละ 30-100 มก.

………………………………………………

3.วิตามินซี

สารอาหารสำคัญช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานดีขึ้น ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง สังเคราะห์คอลลาเจนช่วยให้โครงสร้างผิวมีความยืดหยุ่น

เสริมวิตามินซี : ผักผลไม้หลายชนิด เช่น พริกหวานหลากสี ผักคะน้า บร็อกโคลี่ ดอกกะหล่ำ ผลไม้ได้แก่ ฝรั่ง มะขามป้อม กีวี สตรอว์เบอร์รี่ ฯลฯ

เคล็ดลับ : ควรกินผักผลไม้ในทุกมื้ออาหาร ร่างกายจะดูดซึมได้ดีกว่ากินปริมาณมากในครั้งเดียว

………………………………………………

4.ธาตุเหล็ก

เป็นส่วนประกอบสำคัญในเลือดที่ไหลเวียนทั่วร่างกาย ช่วยนำพาออกซิเจนจากปอดไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ เมื่อร่างกายได้รับธาตุเหล็กเพียงพอจะช่วยลดโอกาสการเกิดอาการอ่อนเพลีย และช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งได้อีกทางหนึ่ง

เสริมธาตุเหล็ก : เนื้อสัตว์ อาหารทะเล  แหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กสูงร่างกายสามารถดูดซึมได้ดี เช่น เลือดหมู 100 กรัม มีธาตุเหล็ก 25.9 มิลลิกรัม หมูหยอง 100 กรัม มีธาตุเหล็ก 17.8 มิลลิกรัม ตับหมู 100 กรัม มีธาตุเหล็ก 10.5 มิลลิกรัม

ผักใบเขียว ธัญพืช มีธาตุเหล็กสูง แต่ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กจากแหล่งอาหารเหล่านี้ได้ไม่ค่อยดีนัก นักโภชนาการจึง แนะนำให้ทานวิตามินซีที่มีส่วนช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น

………………………………………………

5.แคลเซียม

ในวัยทำงานควรได้รับแคลเซียม 800-1,000 มิลลิกรัม ต่อวัน ถ้าได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ จะทำให้ระดับแคลเซียมในเลือดต่ำลง ร่างกายจะไปดึงแคลเซียมจากกระดูกมาใช้จนทำให้มวลกระดูกลดลง เสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุน วิธีการดูแลสุขภาพกระดูกทำง่าย ๆ คือกินอาหารที่มีแคลเซียมสูงและออกกำลังกายเป็นประจำ

เสริมแคลเซียม : ดื่มนมวันละ 1-2 กล่อง ร่วมกับอาหารอื่น ๆ ที่มีแคลเซียมสูงเช่น กุ้งแห้ง งาดำ กุ้งฝอย เต้าหู้เหลือง นมและผลิตภัณฑ์จากนมที่มีวิตามินดีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้น

ผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป มักสูญเสียความแข็งแรงกระดูก ควรได้รับแคลเซียมอย่างน้อย 500 มก. ต่อวัน ถ้าอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรได้รับ 800-1,000 มก.ต่อวัน จากอาหารเช่น นมและผลิตภัณฑ์นม ผักใบเขียวเข้ม

อีกวิธี คือ ออกกำลังเพิ่มมวลกระดูก เพื่อให้ร่างกายนำแคลเซียมที่กินเข้าไปใช้เสริมความแข็งแรงของมวลกระดูกได้อย่างเต็มที่ เช่น เดินเร็ว วิ่งจ็อกกิ้ง กระโดดเชือก หรือกิจกรรมที่มีแรงต้านช่วยเสริม เช่น เดินขึ้นบันได เดินลู่ที่มีความชัน การเล่นเวตเทรนนิ่ง ช่วยให้ร่างกายสามารถนำแคลเซียมไปดูแลสุขภาพกระดูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

………………………………………………

6.ใยอาหาร

วัยทำงานควรได้รับใยอาหาร 25 กรัมต่อวัน ในวัยนี้ ผู้ที่มีอาการท้องผูกส่วนใหญ่เกิดจากการกินอาหารที่ย่อยยาก อย่างเนื้อสัตว์ หรือทานผักผลไม้น้อย หรือนั่งทำงานติดกับที่นานเกินไป

วิธีดูแลสุขภาพ : สร้างสมดุลระบบขับถ่ายและระบบย่อยอาหาร ทำได้ไม่ยากด้วยการรับประทานผักผลไม้ที่มีใยอาหารสูง เช่น ฝรั่ง สัปปะรด แอปเปิ้ล เพราะกากใยจะช่วยทำความสะอาดลำไส้ นอกจากนั้นยังสามารถเพิ่มใยอาหารโดยการทานธัญพืชเต็มเมล็ดหรือโฮลเกรน ข้าวไม่ขัดสี ข้าวกล้อง หรือมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีใยอาหารสูงเพื่อเป็นทางเลือกที่ง่ายและสะดวก

เสริมใยอาหาร : นักโภชนาการจากเนสท์เล่ แนะนำ ธัญพืชโฮลเกรน ข้าวโอ๊ต เมล็ดเจีย ลูกเดือย กินคู่กับนมจืด หรือนมถั่วเหลือง, โยเกิร์ตกับผลไม้สด

ยามบ่ายแก้หิวด้วยถั่วลิสง, อัลมอนด์, พิสตาชิโอ ประมาณ 1 อุ้งมือ หรือเลือกผลไม้หวานน้อยแทนการกินขนมหวาน เช่น ฝรั่ง แก้วมังกร แอปเปิ้ล ชมพู่ และดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 แก้ว นอกจากช่วยลดความหิวยังทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นดูมีสุขภาพดีอีกด้วย

” วัยทำงาน ” ถือเป็นวัยที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศเป็นกลไกขับเคลื่อน ผลผลิตของเศรษฐกิจ นอกจากยังนี้เป็นที่พึ่งของคนในครอบครัว ดังนั้นจึงควรหันกลับมาดูแลตัวเองกันอย่างจริงจัง เปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำลายสุขภาพ จากการดื่มสุราหรือสูบบุหรี่ มาเป็นการสร้างสุขภาพให้แข็งแรงกันดีกว่า และอย่าทำงานจนลืมดูแลสุขภาพของตัวเอง

ขอขอบคุณ : nestle.co.th, everydayhealth.com, กรุงเทพธุรกิจ และ สำนักสถิติแห่งชาติ

ก่อนจากกันในวันนี้ก็เหมือนอย่างเคย ไม่เพียงแค่สาระดี ๆ ที่ มาสิ ได้หยิบเอามาฝากให้ทุกคนได้อ่าน และได้นำไปใช้ในการดูแลสุขภาพกัน แต่ มาสิ ยังได้หยิบเอากับอีกหนึ่งตัวช่วยในเสริมสาร้างในการดูแลสุขภาพกับ ประกันสุขภาพ จากเอ็ทน่าประกันภัยที่จะช่วยเสริมสร้างความคุ้มครองที่ดีให้กับความเจ็บป่วยทางกาย จะมีความน่าสนใจ หรือรายละเอียดความคุ้มครองอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามกัน

ประกันสุขภาพ แผนเอ็กซ์ตร้าแคร์ ( Extra Care )

ประกันสุขภาพ แผนบียอนด์ เพอร์ซันนัลแคร์ ( Beyond Personal Care )

เอ็ทน่า ประกันภัย
ประกันสุขภาพ แผนบียอนด์ เพอร์ซันนัลแคร์ ( Beyond Personal Care )

สำหรับ ประกันสุขภาพ เอ็ทน่า เอ็กซ์ตร้าแคร์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีประกันสุขภาพ ประกันสังคม หรือสวัสดิการจากบริษัทอยู่แล้ว แต่อาจมีวงเงินความคุ้มครองไม่เพียงพอ แผนประกันนี้จึงช่วยเติมเต็มวงเงินความคุ้มครองจากสวัสดิการที่มีอยู่ ช่วยชดเชยค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินอีก 80% โดยไม่เกินผลประโยชน์สูงสุดในแต่ละแผนที่กำหนดไว้ต่อการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บในแต่ละครั้ง โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยใน( ต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง ) 20,000 บาท
  • ความคุ้มครองเพิ่มเติมอีก 80% ของค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลในส่วนที่เกินจากความรับผิดส่วนแรก ครอบคลุมในส่วนค่ารักษาพยาบาลทั่วไป ค่าธรรมเนียมแพทย์ผ่าตัดและวิสัญญีแพทย์ ค่าห้องผ่าตัด ค่าแพทย์เยี่ยมไข้ ค่าธรรมเนียมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพิเศษสูงสุด 600,000 บาท
  • ค่าห้องผู้ป่วยปกติ สูงสุดต่อวัน 4,000 บาท
  • ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล( อบ.2* ) กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะสายตา การรับฟังเสียง การพูดออกเสียง และทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง รายละ 1,000 บาท
  • เบี้ยประกันเริ่มต้น 3,172 บาท
    * อบ.2 คือ ประเภทความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัยที่มีรายละเอียดความคุ้มครองคือ (1) การเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ/สายตา การทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง, (2) การทุพพลภาพชั่วคราวสิ้นเชิง, (3) การทุพพลภาพชั่วคราวบางส่วน, (4) การรักษาพยาบาล และ (5) การสูญเสียนิ้ว การสูญเสียการรับฟังเสียง/การพูดออกเสียงและการทุพพลภาพถาวรบางส่วน
สนใจสมัคร ประกันสุขภาพแผนเอ็กซ์ตร้าแคร์ ( Extra Care )

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะครับ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ ประกันวินาศภัย ประกันรถยนต์ ประกันรถมอเตอร์ไซด์ ประกันสุขภาพ ประกันโดรน ประกันการเดินทาง ประกันอุบัติเหตุ ประกันภาคธุรกิจ และพ.ร.บ. รวมทั้ง ผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประกันสุขภาพ

_____________________________________________

Please become Masii Fan

Facebook: https://lnkd.in/gFFh8mh

Website: www.masii.co.th

Blog: https://masii.co.th/blog

Line: @masii

Tel: 02 710 3100 

Youtube: https://lnkd.in/gbQf9eh

Instagram: https://lnkd.in/ga4j5ri

Twitter: twitter.com/MasiiGroup

#สินเชื่อ #ประกัน

#รถแลกเงิน #บ้านแลกเงิน #สินเชื่อส่วนบุคคล

#บัตรกดเงินสด #เงินด่วนทันใจ #สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์

#กู้เงิน #เงินสด #เงินก้อน #เงินด่วน #เงินกู้ทันใจ #masii

#มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า

#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า #SimplifiedComparison