แม้โลกใบนี้จะกว้างใหญ่ แต่อยู่คนเดียวได้ไม่ใช่เรื่องยาก…มาเรียนรู้ “ศิลปะการ อยู่คนเดียว ” กันเถอะ

โดย

08/10/2022

สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

ว่ากันว่ามนุษย์ของเรานั้นเป็นสัตว์สังคมที่ไม่ว่าเวลาจะไปไหน หรือทำสิ่งใดหากได้มีเพื่อนหรือคนข้างกายไปด้วยนั้นจะยิ่งช่วยส่งเสริมความมั่นใจให้ได้มาก เนื่องจากช่วงสถานการณ์โรคระบาดอย่างโควิดที่ผ่านมาตั้งแต่สองสามปีนั้น ทำให้การสัญจรหรือการเดินทางไปไหนมาไหน ใช้ชีวิตร่วมกันของมนุษย์เราลดน้อยลง กลายเป็นว่าเราจะต้องอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวหรืออยู่คนเดียวมากขึ้น พึ่งพาในตัวเองกันมากยิ่งขึ้น ซึ่งตรงส่วนนี้อาจจะทำให้ใครหลายคนอยู่ในภาวะที่ไม่ค่อยโอเคเสียเท่าไร แต่เราก็อย่าลืมว่าไม่มีใครที่จะสามารถอยู่กับเราได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นเท่ากับตัวของเราเอง ดังนั้นแล้ว วันนี้ มาสิ จึงได้หยิบเอาทริคดี ๆ มาแนะนำให้ทุกคนได้มาลองเรียนรู้ “ศิลปะของการ อยู่คนเดียว ” กัน บอกเลยว่าการอยู่คนเดียวไม่ใช่เรื่องยาก!

ศิลปะของการ อยู่คนเดียว

โดยพื้นฐานแล้วมนุษย์ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์สังคมแต่ไหนแต่เรา นับย้อนไปตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ส่วนมากมนุษย์มักอยู่รวมกันเป็นกลุ่มหรือสร้างชุมชนขึ้น มักทำอะไรเป็นกลุ่มเป็นก้อน มีการแลกเปลี่ยนกันทางด้านความคิด คำพูด และใช้วิธีสื่อสารเป็นหลักด้วยเหตุนี้ทำให้สิ่งเหล่านี้ถูกปลูกฝังรากลึก ประหนึ่งถ่ายทอดมาทางพันธุกรรมของมนุษย์ และอาจด้วยเหตุนี้ด้วยหรือไม่ ที่เป็นสาตุที่ทำให้มนุษย์เรากลัวการ อยู่คนเดียว ซึ่งอาจจะไม่ใช่แค่เรื่องความไม่คุ้นชินเมื่อต้องอยู่คนเดียวเท่านั้น แต่อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้มนุษย์เรานั้นไม่กล้าใช้ชีวิตคนเดียวอาจเป็นเพราะเรากลัว “ความเหงา” กันหรือเปล่า

ว่าด้วยเรื่องของความเหงา

ตามหลักจิตวิทยาแล้วความเหงา หรือ Loneliness เป็นความรู้สึกทางด้านอารมณ์อย่างหนึ่งซึ่งโดยปกติมนุษย์ทั่วไปมักพบเจอความรู้สึกนี้ด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งร้อยละ 80 ของคนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี และร้อยละ 40 ของคนที่เป็นผู้ใหญ่ไปจนถึงอายุ 65 ปี เคยมีความรู้สึกเหงา

โดยอารมณ์ความรู้สึกเหงานั้น เกิดจากความรู้สึกที่แปลกแยกจากสังคม หรือความต้องการทางสังคมไม่ได้รับการตอบสนอง เช่น ความรู้สึกว่าไม่เป็นหนึ่งเดียวกับคนในกลุ่ม การที่เราไม่ได้รับคำติชมจากคนรอบข้าง เป็นต้น เพราะแบบนี้มนุษย์เราถึงกลัวความเหงา ว่าง่ายๆ เรากลัวไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมนั่นเอง เพราะแบบนี้แหละ “ศิลปะของการอยู่คนเดียว” จึงสำคัญ

เริ่มที่เรา…อยู่คนเดียว

ในยุคนี้สมัยนี้ การอยู่คนเดียวให้เป็นเรื่องสำคัญ ด้วยสังคมปัจจุบันที่เต็มไปด้วย Social Media ต่างๆ การกระทำอะไรแทบจะทุกอย่างเป็นการ Public ดูจะสาธารณะไปเสียหมด ความเป็นส่วนตัวเหลือน้อยลงทุกที ประกับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ มากมายที่ไหลผ่านเรากันไปในแต่ละวันบอกได้เลยว่ายากเกินกว่าจะควบคุมได้

ด้วยเหตุนี้ทำให้มนุษย์เรายิ่งตามหาการยอมรับจากสิ่งเหล่านี้อยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการลงรูปเพื่อดูยอด Like รอให้คนมาชม หรือใด ๆ ก็ตาม พอไม่เป็นไปตามที่คิด ก็ผิดหวังและเกิดเป็นความเครียด ความนอยด์สะสม ด้วยเหตุนี้ “การอยู่คนเดียวให้เป็นจึงสำคัญ”

ข้อดี “ศิลปะของการ อยู่คนเดียว”

1.อยู่คนเดียวไม่จำเป็นต้องมีกฎ

และข้อดีของการ “ อยู่คนเดียว ” ในข้อแรกคือการไม่จำเป็นต้องมีกฎระเบียบหรือข้อบังคับทางสังคมเข้ามาพัวพัน อย่างที่เรารู้ ๆ กันพอเราอยู่ในสังคมหมู่มาก จะมีกฎ มีระเบียบแบบแผนต่างๆ มากมายให้ดำเนินตาม ยิ่งคนเยอะ กฎต่างๆ ก็จะยิ่งเยอะไปด้วย ทำให้เราต้องแบกรับข้อจำกัด ที่ในบางครั้งเราก็ไม่ได้เห็นด้วยเสียเท่าไร แต่หากเราอยู่คนเดียว อยู่ในพื้นที่ของเรา เราจะเป็นตัวเองอย่างไรก็ได้ แต่ตัวเราเป็นเจ้าของกฎของตนเอง อยากจะตื่นกี่โมง, จะถอดเสื้อผ้าเดินไปมา หรือแม้กระทั่งจะนอนอืดไม่ทำอะไรก็ย่อมได้

2.สวรรค์บนดินของมนุษย์ Introvert

จากงานวิจัยหลาย ๆ สถาบันมักบอกว่า มนุษย์เรายิ่งโตขึ้น ยิ่งเปลี่ยนจาก Extrovert เป็น Introvert กันเยอะ ด้วยสภาพแวดล้อมและสังคมหมู่มากที่ทำให้ คนเราอยากอยู่คนเดียวและในพื้นที่ปลอดภัยของตนเองมากขึ้น และในข้อนี้ก็คือข้อดีของการ “ อยู่คนเดียว ” อีกข้อหนึ่ง ก็คือ มนุษย์ Introvert เป็นมนุษย์ที่ต้องการการชาร์จพลังงานชีวิตต่างจาก Extrovert โดย Extrovert นั้นชอบออกไปข้างนอก ไปเจอผู้คน ชาร์จแบตจากการพูดคุยและอยู่กับเพื่อน ๆ แต่ทว่า Introvert นั้นต้องการชาร์จพลังชีวิตโดยการอยู่คนเดียว อยู่ในพื้นที่ของตัวเอง ทำอะไรตามใจตนเอง นี่แหละ ความสุขของคน Introvert

3.ได้ตกผลึกและใช้ความคิดกับตนเอง

ข้อดีของการอยู่คนเดียวในข้อนี้ เมื่อเราได้ใช้ชีวิตอยู่คนเดียว เราจะได้ยินเสียงตัวเองมากที่สุด หากไม่เชื่อให้ลองใช้เวลา 10 – 15 นาทีต่อวันก่อนนอน ลองนั่งคิดถึงสิ่งที่เราทำแล้วดีใจมีความสุขต่อใจ List และบอกกับตัวเอง หรือแม้กระทั่งนั่ง List สิ่งที่เราทำผิดพลาดไป สิ่งเหล่านี้จะเป็นตะกอนตกผลึกเล็ก ๆ ให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น

4.ลดความเครียดและความขัดแย้ง

ข้อดีอยู่คนเดียวในข้อนี้ เรียกได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อสังคมที่เต็มไปด้วยการตัดสิน มากจริง ๆ ในเมื่อเราได้เรียนรู้ที่จะอยู่คนเดียวให้เป็น ในช่วงเวลาที่เราอยู่คนเดียวนี่แหละ คือ ช่วงที่เราสามารถหาความสุขได้อย่างเต็มที่ เพราะเราไม่ต้องแบกรับหรือเผชิญหน้ากับความคิดของผู้อื่น ไม่เพียงแค่นั้น อีกทั้ง เรายังไม่ต้องรับแรงกดดันจากสภาวะแวดล้อมรอบข้างอีกด้วย มีแค่ตัวเองเท่านั้น เมื่อไม่ต้องเจอใคร ก็ไม่เครียดและลดความขัดแย้งทางด้านความคิดเห็นได้เช่นกัน

5.เพิ่มช่องว่างและกระชับความสัมพันธ์

ศิลปะของการอยู่คนเดียว ไม่ได้เหมาะแค่เฉพาะกับคนโสดเท่านั้น แต่ยังเหมาะกับคนที่มีคู่รัก หรือ ครอบครัวด้วยเช่นกัน เพราะการเรียนรู้ที่จะอยู่คนเดียวใช้ได้นั้น เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยเพิ่มช่องว่างของคำว่าคิดให้ได้เข้ามาทำงานบ้างลองสังเกตคู่รักไหนก็แล้วแต่ที่ตัวติดกันตลอดเวลา ส่วนมากมักจะชินกับการอยู่ร่วมกัน จนบางครั้งขาดการดูแลเอาใจใส่ แต่พอแยกกันอยู่คนเดียวบ้าง จะมีช่องว่าให้ความคิดถึงและความห่วงใยได้ทำงาน เรียกได้ว่าเป็นการกระชับความสัมพันธ์ไปในตัวเลยทีเดียว

และนี่ก็เป็นเพียงด้านดี ๆ ส่วนหนึ่งของการอยู่คนเดียวให้เป็นกับ “ศิลปะการอยู่คนเดียว” บอกได้เลยว่าการอยู่คนเดียวไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวเลยด้วยซ้ำ แต่หากเราไปอยู่ผิดที่ผิดทาง อยู่รายล้อมกับคนที่ไม่เห็นค่าในตัวเรานี่สิถึงน่ากลัว ดังนั้น เราจึงควรอยู่คนเดียวให้ได้และเข้าสังคมให้เป็น เพียงเท่านี้ ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนเราก็สามารถรับมือได้และผ่านไปได้สบาย ๆ กันอยู่แล้ว

และอย่างเคย ๆ กัน ไม่เพียงสาระดี ๆ ที่ มาสิ ได้หยิบยกมาฝากกันเท่านั้น วันนี้ มาสิ ยังได้ติดเอากับอีกหนึ่งตัวช่วยทางการเงินที่ดี ที่จะมาช่วยเพิ่มอิสระทางการเงินให้เกิดขึ้นกับ บัตรเครดิตยูโอบี พรีเฟอร์ บัตรเครดิตที่ตอบโจทย์ กลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการได้รับโปรโมชั่นต่างๆในร้านอาหาร หรือร้านค้าชั้นนำ ซึ่วงจะมีเงื่อนไข รายละเอียดคุณสมบัติอย่างไรบ้างนั้น ตาม มาสิ ไปดูกัน

บัตรเครดิตยูโอบี พรีเฟอร์

เหมาะสำหรับ : ลูกค้าที่ชื่นชอบการได้รับโปรโมชั่นต่างๆในร้านอาหาร หรือร้านค้าชั้นนำ และทุกการใช้จ่าย 15 บาท รับ 1 คะแนนสะสม เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ไม่ว่าจะรูดใช้จ่ายอะไร

รายละเอียดบัตรเครดิตยูโอบี พรีเฟอร์

กำหนดอายุ 20-60 ปี
รายได้ขั้นต่ำ15,000 บาท
อนุมัติวงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้

สิทธิ์สำหรับผู้ถือบัตรเครดิตยูโอบี พรีเฟอร์

ทุกๆ ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต UOB Preferred 15 บาท จะได้รับคะแนนสะสม UOB Reward Plus เท่ากับ 1 คะแนน
มื่อช้อปด้วยบัตรเครดิตยูโอบีพรีเฟอร์ที่ห้างเซ็นทรัล, เซ็น, โรบินสัน, ท็อปส์, เซ็นทรัล ฟู้ดฮอลล์ และ แฟมิลี่มาร์ท รับคะแนนสะสม The One เพิ่มอีก 3 คะแนน (จากเดิมทุก 25 บาท= 1 คะแนน) เป็น 4 คะแนน
รับเครดิตเงินคืน 15% ที่ แกร็บ, ทรู คอฟฟี่, คาเฟ่ อเมซอน, และ ดีนแอนด์เดลูกา

สนใจสมัคร บัตรเครดิตยูโอบี พรีเฟอร์

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะครับ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบ้านแลกเงิน สินเชื่อรถแลกเงิน และผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ