สวัสดีค่ะ มาสิแฟนทุกท่าน วันนี้มาสิจะชวนมาไขคำตอบที่ทุกคนติดข้างอยู่ในใจว่าฉันน่ะ เหมาะกับบัตรเครดิตประเภทไหนกันแน่? แล้วบัตรแบบไหนน่ะคุ้มกับตัวเรามากที่สุด มาสิจะบอกให้
เครดิตเงินคืน vs ส่วนลด บัตรเครดิตแบบไหนที่เหมาะกับคุณ?
ก่อนอื่นเลยต้องมาย้อนความกันอีกนิดก่อนนะคะว่าเจ้าบัตรเครดิตนะมีกี่ประเภท? หลักๆ บัตรเครดิตจะมีประเภทส่วนลด เครดิตเงินคืน สะสมไมล์ สะสมคะแนน ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลถ้าเราเลือกใช้ได้ถูกประเภทและใช้อย่างชาญฉลาด เชื่อเถิดค่ะว่าคุณจะได้รับสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าที่สุด และในวันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องเครดิตเงินคืน หรือ ส่วนลดกันค่ะ
เครดิตเงินคืนและส่วนลดคืออะไร?
บางคนอาจจะรู้คำตอบพวกนี้อยู่แล้ว แต่มาสิขอบอกเลยค่ะ ว่าส่วนลดคือทุกครั้งที่เราใช่จ่ายด้วยบัตรเครดิตใบนี้ในร้านค้าหรือบริการที่กำหนดก็จะได้รับส่วนลดกี่ % ตามเงื่อนไขของร้านค่ะ เช่น ถ้ารับประทานอาหารในร้านค้าที่กำหนด ยอด 500 บาทได้ลด 15% ถ้าเราจ่ายด้วยบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ เราไม่จำเป็นจะต้องเสียเงินถึง 500 บาท แต่เป็น 425 บาท เพราะได้รับส่วนลด 15% ซึ่งถือว่าเราลดค่าใช้จ่ายได้ไปเลยถึง 75 บาท
ในขณะที่บัตรเครดิตประเภทได้เครดิตเงินคืนหรือแคชแบ็กจะได้เป็นเงินซึ่งจะไปหักในยอดบิลถัดไปตามเปอร์เซ็นต์ของยอดเงิน ส่วนมากบัตรเครดิตประเภทนี้จะมีกำหนดอยู่ว่าได้คืนยอดสูงสุดกี่บาท/รอบบิล เช่น คุณได้รับเครดิตเงินคืนจากยอดซื้อเสื้อผ้า 10% จากราคา 500 บาท คุณจะได้เงินคืนในบัตรเครดิต 50 บาทในรอบบิลถัดไป
ส่วนถ้าถามความคุ้มค่าของบัตรใบไหนแล้วเราจะเลือกบัตรเครดิตประเภทไหน มาสิจะบอกให้ ก่อนอื่นลองถามตัวเองกันว่าเรานะต้องการอะไร? ไลฟ์สไตล์แบบไหน? ถ้าเรามีกิจวัตรประจำวันที่ค่อนข้างเป็นรูทีนและต้องการหาบัตรเครดิตที่จะช่วยให้เราได้สิทธิประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดหรือเงินคืนค่ะ ดังนั้น เราต้องเลือกสำรวจตัวเองก่อนว่าบัตรเครดิตใบนี้จะเป็นเพียงบัตรเครดิตใบเดียวของเรา หรือเอามาใช้เพื่อเสริมบัตรเครดิตการ์ดใบอื่นของเรากันแน่ เราเป็นคนชอบความซ้ำซากจำเจรึเปล่า? เช่น ทานข้าวร้านเดิม ช้อปปิ้งที่เดิม เดินทางแบบเดิมซ้ำๆ
ชอบกินอาหารในห้าง vs ร้านข้างทางทั่วไป
สำหรับใครที่ชอบกินร้านอาหารในห้าง หรือร้านอาหารที่มีหลากหลายสาขา แนะนำสมัครเป็นบัตรเครดิตประเภทส่วนลด เพราะบัตรเครดิตประเภทนี้มักจะมีพาร์ทเนอร์กับร้านอาหารในห้างหรือร้านอาหารแบรนด์ดังต่างๆ เช่น บัตร KTC Fico Platinum ที่มีส่วนลดสูงสุด 15% สำหรับร้านอาหารที่ร่วมรายการหรือบัตรเครดิตในเครือ JCB ก็จะได้รับส่วนลดเมื่อรับประทานญี่ปุ่น 5-10% ค่ะ
สมัครบัตรเครดิต KTC Fico Platinum
การเดินทางขนส่งสาธารณะ vs รถส่วนตัว
ในส่วนนี้ก็เป็นก็ขอตอบเลยค่ะ ว่าถ้าเราเป็นคนที่โฟกัสเรื่องการเดินทาง ไม่ได้เน้นสายกินขนาดนั้น บัตรเครดิตประเภทได้เครดิตเงินคืนจะตอบโจทย์มากที่สุดค่ะ เพราะว่าบัตรเครดิตประเภทเครดิตเงินคืนส่วนมากจะออกโปรโมชั่นร่วมกับปั๊มน้ำมันหรือพวก BTS/MRT ค่ะ อย่างบัตรเครดิตธนชาต ไดมอนด์ มาสเตอร์การ์ดที่สามารถรับเครดิตเงินคืน 3.5% ได้ที่ปั๊มน้ำมันทั่วโลก โดยกำหนดเครดิตเงินคืนไม่เกิน 2,500 บาท หรือถ้าใครโดยสารด้วย MRT/BTS หรือพวก grab เป็นประจำบัตรเครดิตประเภทเครดิตเงินคืนอย่าง บัตรเครดิตซิตี้ แคชแบ็ก แพลตตินั่ม ที่จะมีสิทธิประโยชน์เครดิตเงินคืนสูงสุดถึง 11% เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต
สมัครบัตรเครดิตซิตี้ แคชแบ็ก แพลตตินั่ม
ขาช้อปในห้างร้าน
แหม พูดขนาดนี้แล้วรายคนคงรู้แล้วว่าตัวเองค่ะเหมาะกับบัตรเครดิตใบไหน แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ ก่อนที่เราจะไปตอบปัญหาพวกนี้ มาสิขอถามก่อนว่านิสัยการช้อปปิ้งของคุณน่ะซ้ำซากจำเจรึเปล่า? เพราะถ้า ใช่ คุณมีไลฟ์สไตล์ที่ชอบซื้อของตามห้างร้านที่เดิมๆ พวกบัตรเครดิตประเภทส่วนลดที่มีพาร์ทเนอร์กับดิสพาร์ทเม้นท์สโตร์ต่างๆ จะช่วยให้คุณได้รับส่วนลดที่คุ้มค่า อย่างบัตรเครดิต อิออน บิ๊กซี แพลทินัม เพย์เวฟ ให้ส่วนลด 3% จากยอดซื้อทุกครั้งเมื่อคุณซื้อของในบิ๊กซี
สมัครบัตรเครดิต อิออน บิ๊กซี แพลทินัม เพย์เวฟ
แต่ในทางกลับกันถ้าคุณไม่ได้มีห้างร้านประจำบัตรเครดิตประเภทเครดิตเงินคืนจะเหมาะสมกว่า ทำไมนะหรอ? ก็เป็นเพราะว่าส่วนมากบัตรเครดิตประเภทเงินคืนถึงแม้จะได้ได้ส่วนลด 3-10% แต่ว่าทุกยอดการใช้จ่ายจะได้รับเครดิตเงินคืน 0.8-1% อย่างบัตรเครดิต เคทีซี แคชแบ็ควีซ่าแพลทินัม ที่สามารถรับเงินคืนกลับทุกการใช้จ่ายรวมถึงการเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า เข้าบัญชีง่ายๆ สูงสุดทันทีถึง 0.8% โดยไม่จำกัดวงเงินคืน
สมัครบัตรเครดิต เคทีซี แคชแบ็ควีซ่าแพลทินัม
คงจะเห็นความแตกต่างแล้วสินะคะ ว่าคุณน่ะเหมาะกับบัตรเครดิตสไตล์ไหน? ประเภทเครดิตเงินคืนหรือส่วนลดกันแน่ ใครที่สนใจอยากเปรียบเทียบบัตรเครดิตประเภทส่วนลด คลิกที่นี่ ส่วนใครที่อยากลองหาบัตรแคชเบ็กที่ใช้ก็ คลิกที่นี่ ค่ะ มาสิ หวังว่าคุณะตัดสินใจเลือกบัตรที่ชอบหรือใช้ได้ สามารถติดตามมาสิได้ทางไลน์ @masii ขอบคุณค่ะ