หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ นอกจาก ทะเล ภูเขา และน้ำตกแล้ว คงไม่มีใครไม่นึกถึง “ถ้ำ” ใช่ไหมล่ะคะ เพราะถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ และมีความสวยงามอลังการแตกต่างกันไปตามแต่ละที่ บ้างเป็นถ้ำหินงอกหินย้อย ถ้ำหินปูน หรือแม้แต่ถ้ำลอด ที่ต้องล่องน้ำเข้าไปชมความงามภายในถ้ำ ซึ่งในประเทศไทยนั้นก็มีถ้ำอยู่มากมายทั่วทุกภาค วันนี้ masii จึงได้คัด 5 ถ้ำน่าเที่ยวในเมืองมาฝากกัน งานนี้ขอบอกเลยว่าแต่ละที่สวยๆ ทั้งนั้น จะมีถ้ำไหนที่ห้ามพลาดบ้าง ไปดูกันเลย…
5 ถ้ำน่าเที่ยวในเมืองไทย ไม่ไปไม่ได้แล้ว
1. ถ้ำพระยานคร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เริ่มกันที่ถ้ำพระยานคร ซึ่งเป็นถ้ำขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีเอกลักษณ์ตรงที่เพดานถ้ำเปิดทะลุเป็นปล่องใหญ่ให้แสงสว่างส่องเข้ามาได้ อีกทั้งยังมี พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ พระที่นั่งที่สร้างขึ้นเป็นที่ประทับของรัชกาลที่ 5 เมื่อพระองค์เสด็จมาทอดพระเนตรที่แห่งนี้ ยิ่งเวลาที่แสงแดดส่องกระทบพระที่นั่งนั้น เป็นภาพที่สวยงามราวกับต้องมนต์สะกดเลยทีเดียวล่ะ โดยช่วงเวลาที่แสงส่องลงถ้ำสวยที่สุดคือ 10.30-11.30 น.
2. ถ้ำเขาหลวง จังหวัดเพชรบุรี
อีกหนึ่งถ้ำที่มีแสงอาทิตย์ส่องลงมาจากด้านบนเช่นกันนั่นก็คือ ถ้ำเขาหลวง จังหวัดเพชรบุรี ตั้งอยู่ห่างจากเขาวังประมาณ 5 กิโลเมตร เมื่อมาถึงแล้วต้องลงบันไดเพื่อไปปากถ้ำ ภายในถ้ำประกอบด้วยหินงอกหินย้อยรูปทรงสวยแปลกตา ทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปองค์ใหญ่ (หลวงพ่อโต) รวมถึงพระพุทธรูปอื่นๆ มากมาย แต่ไฮไลท์เด็ดของที่นี่ก็คงหนีไม่พ้นการชมแสงอาทิตย์ที่ส่องลงมายังพื้นถ้ำ ทำให้ดูคล้ายกับการฉายสปอตไลท์ ยิ่งเวลาแสงส่องกระทบพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ยิ่งดูสวยงดงามมาก โดยช่วงเวลาที่แสงสวยที่สุดคือช่วง 10.00-11.00 น.
3. ถ้ำภูผาเพชร จังหวัดสตูล
ลงใต้กันมาที่ ถ้ำภูผาเพชร ตั้งอยู่ที่อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล ซึ่งถือเป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกเลยทีเดียว ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยหลากหลายรูปแบบ สวยงดงามตระการตามากๆ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็นห้องต่างๆ มากถึง 20 ห้อง มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป แต่ห้องที่น่าสนใจ คือ ห้องแสงมรกต ซึ่งสุดทางเดินจะพบกับ ลานแสงมรกต เมื่อแสงแดดจากภายนอกส่องกระทบทำมุมกับหินรูปพญานาค จะเห็นเป็นแสงสีเขียวสวยงดงามราวกับมรกต นอกจากนี้ยังมีอีกหลายบริเวณที่น่าตื่นตาตื่นใจ รอให้คุณไปสัมผัสความงามด้วยตัวเอง
4. ถ้ำลอด จังหวัดแม่ฮ่องสอน
คราวนี้ขึ้นเหนือกันไปชม ถ้ำลอด ที่อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอนกันดูบ้าง โดยสาเหตุที่ชื่อว่าถ้ำลอด ก็เพราะว่าถ้ำแห่งนี้มีน้ำไหลผ่านตั้งแต่ปากทางเข้าถ้ำไปจนถึงด้านใน โดยน้ำได้กัดเซาะโพรงถ้ำเป็นเวลาหลายล้านปี จึงทำให้เกิดเป็นถ้ำใหญ่ๆ 3 ถ้ำ ได้แก่ ถ้ำเสาหิน ที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม ถ้ำตุ๊กตา ที่มีหินงอกรูปร่างคล้ายตุ๊กตาตั้งอยู่มากมาย และถ้ำผีแมน ที่มีโครงกระดูกมนุษย์โบราณ และข้าวของเครื่องใช้ภาชนะดินเผาต่างๆ โดยการเที่ยวชมถ้ำลอด นักท่องเที่ยวต้องมีไกด์นำทางเข้าไปเท่านั้น โดยจะนั่งแพไม้ไผ่ในการเข้าไปชมถ้ำนั่นเอง
5. ถ้ำเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
ปิดท้ายกันที่ ถ้ำเชียงดาว ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณเชิงเขาของดอยหลวงเชียงดาว เป็นหนึ่งในถ้ำที่มีขนาดใหญ่และลึกที่สุดของเมืองไทย ภายในมีหินงอกหินย้อยที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เมื่อฉายไฟจะเห็นเป็นประกายระยิบระยับสวยงาม ภายในถ้ำมี 3 เส้นทางให้เดินเที่ยวชม คือ ถ้ำพระนอน ถ้ำแก้ว และถ้ำมืด โดยในถ้ำแก้วและถ้ำมืดจะไม่มีไฟฟ้า ต้องมีตะเกียงและไกด์นำทางเข้าไป ภายในแต่ละถ้ำก็จะมีหินงอกหินย้อยหลากหลายรูปทรง มีชื่อเรียกต่างกันไป เช่น หินโคมไฟเทวดา หินมือยักษ์ หินดอกบัวพันชั้น เป็นต้น
ต้องขอบอกเลยว่าแต่ละถ้ำในเมืองไทยที่มาสิแนะนำในวันนี้ ล้วนมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์และน่าไปเที่ยวทั้งนั้น นอกจากจะสวยงามมากๆ แล้ว ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สมบูรณ์อีกด้วย อย่างไรแล้วก็ควรเที่ยวกันอย่างมีสติ ปฏิบัติตามกฎของสถานที่ ช่วยกันรักษาธรรมชาติด้วยนะคะ
สนใจสมัครประกันเดินทาง
และถ้าจะให้ดีมาสิแนะนำว่าควรทำประกันเดินทางในประเทศไว้ด้วยก็ดีค่ะ หากเกิดเหตุฉุกเฉินใดๆ ก็ยังมั่นใจได้ว่ายังมีประกันการเดินทางคุ้มครองเราอยู่นั่นเอง และหากใครสนใจอยากทำประกันการท่องเที่ยวหรือประกันการเดินทางก็สามารถติต่อกับมาสิได้โดยตรงที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับประกันการเดินทางได้เลยค่ะ
