ด้วยความที่มนุษย์เรานั้นเป็นสัตว์สังคม จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะมีความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นทั่วไปทั่วไป ไม่ว่าจะรู้แบบความสัมพันธ์ไหน ๆ ก็ตาม แต่โดยเฉพาะเรื่องตวามรักเรื่องของความสัมพันธ์ เรื่องของการรักใคร่ที่มีความลึกซึ้งกว่าปกติ แม้มันจะเป็นเรื่องของคนสองคน แต่ก็ไม่มีใครที่จะอยากเก็บไว้เพียงแค่สองคนเช่นกัน ไม่มีใครที่อยากที่จะเป็นตัวเลือก ถูกให้ความสำคัญบ้างช่วงเวลา ถูกไม่ให้ความสำคัญ หรือต้องตกอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนกันทั้งนั้น แต่กลับกันพฤติกรรมความสัมพันธ์ในรูปแบบที่คลุมเครือแบบนี้กลับพบได้มากขึ้นในหมู่วัยรุ่น Gen Z แล้วเหตุใดจึงเป็นอย่างนั้น วันนี้ มาสิ เอาอัพเดทเทรนด์ให้ทุกคนได้อ่านกันแล้ว ว่าแล้วไปอ่านกันเลย
Generation Z หรือ Gen Z
คือคนที่เกิดหลัง พ.ศ. 2540 เกิดจากพ่อแม่รุ่นใหม่อย่าง Gen-X และ Gen-Y เป็นเด็กรุ่นใหม่ที่เกิดมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน เรียนรู้รูปแบบการดำเนินชีวิตในสังคมแบบดิจิตัล ดำเนินชีวิตแบบมีการติดต่อสื่อสารไร้สาย และสื่อบันเทิงต่างๆ เด็กรุ่นนี่้จะเป็นรุ่นแรกที่ทั้งพ่อและแม่จะออกไปทำงานนอกบ้านทั้งคู่ จึงทำให้เด็กยุคGen Z ได้รับการเลี้ยงดูจากคนอื่นมากกว่าพ่อและแม่ของตัวเอง
เนื่องจากเกิดมาในยุคเทคโนโลยีที่ทันสมัย เด็กในยุคนี้อาจจะจินตนาการไม่ออกเลยว่าโลกที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตนั้นจะอยู่ได้อย่างไร แถมยังยกให้สมาร์ทโฟนเป็นอวัยวะของชาว Gen-Z จนถูกเรียกว่า Digital in their DNA คนเจนนี้ติดโลกออนไลน์และรับข้อมูลข่าวสารมากมายอย่างรวดเร็ว ทันโลกและวิเคราะห์สถิติเรื่องต่างๆ เพื่อคาดการณ์อนาคตได้เร็ว ตัดสินใจทำอะไรอย่างรวดเร็ว ไม่ชอบรอคอย แต่ก็เป็นคนที่กลัวอนาคต จึงมักหาข้อมูลมาเปรียบเทียบและป้องกัน เช่น เรียนอะไรไม่ตกงาน อาชีพอะไรมั่นคง นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มว่าจะเลือกงานที่เงินดีมากกว่าที่ชอบจริงๆ
คน Gen Z จะเปิดกว้างทางความคิดและวัฒนธรรมที่แตกต่างมากขึ้นจากการมองเห็นในโลกโดิจิตัล จึงเปิดกว้างในการยอมรับความแตกต่าง มีแนวโน้มที่จะปรับทัศนคติได้ดี ไม่แบ่งแยกชนชั้น สีผิว ศาสนา หรือประเพณีที่แตกต่าง แต่มีแนวโน้มที่จะเป็นมนุษย์หลายงาน เพราะความอดทนต่ำ ต้องการคำอธิบายมากขึ้น ต้องมีเหตุผล ต้องรู้สึกว่าได้เข้าใจกับทุกเรื่องในชีวิต ส่วนการเรียนรู้ของคนGen Z จะหาความรู้ได้ทุกที่ เกลียดการเรียนแบบบรรยาย ก็ชอบข้อมูลแนวกราฟ ภาพ สถิติชัดเจน เน้นข้อมูลสั้นๆ ที่เข้าใจง่ายๆ เพราะจดจำข้อมูลได้ดีจากข้อมูลสั้นๆ ตามแบบฉบับโลกออนไลน์
พฤติกรรม “Gen Z” เป็นอย่างไร
พฤติกรรม “ คนGen Z ” เป็นอย่างไร ผลวิจัย “Now you Z me: Debunking myths about ASEAN’s Generation Z” (พลิกมุมมองใหม่ พิชิตใจผู้บริโภค Gen Z ในอาเซียน) โดย ฮาคูโฮโด อาเซียน หรือ ฮิลล์ อาเซียน พบว่าGen Z คือ นักประสานความลงตัว หรือ SynergiZers ที่ให้ความสำคัญกับตนเอง ครอบครัวและคนรอบตัวอย่างเท่าเทียมกัน ร่วมมือกันแก้ปัญหาถึงแม้ว่าจะมีความแตกต่างระหว่างกัน
ความสัมพันธ์ส่วนตัว
- กลุ่ม Gen Z 46% ได้รับการสนับสนุนให้ตั้งคำถาม ถกเถียงและมีความเห็นเป็นของตัวเอง และถูกเลี้ยงมาแบบเพื่อน
- 63% ของกลุ่ม Gen Z สนับสนุนให้ปฏิบัติตามธรรมเนียมปฏิบัติและมาตรฐานของสังคม
- ขณะที่ 67% ความสำเร็จของคนกลุ่มนี้ คือ การทำให้ครอบครัวและเพื่อนฝูงภาคภูมิใจ
สิ่งสำคัญในชีวิต
คนGen Z ให้คุณค่าทั้งกับตัวเองและครอบครัว พวกเขาคิดว่า คนที่อยู่รอบตัวจะไม่มีความสุขถ้าตัวเขาเองไม่มีความสุข 86% เห็นด้วยกับข้อความที่ว่า “ชีวิตเป็นการเติมเต็มความรับผิดชอบ” และ “ชีวิตเป็นเรื่องของการรักตัวเอง” ขณะที่ 74% ของค Gen Z เห็นด้วยว่า “ความสำเร็จ คือ การมีความสุขกับสิ่งที่เราเป็น ไม่ว่าคนอื่นจะว่าอย่างไร” เพราะฉะนั้นตำแหน่งใหญ่โตและการหาเงินทองไม่ใช่สิ่งพิสูจน์ความสำเร็จ รวมถึงอาชีพหน้าที่การงานด้วย ผลวิจัยยังบอกอีกว่า ลักษณะสำคัญอย่างหนึ่งของคนกลุ่มนี้ คือ หลายคนให้ความสำคัญกับความพอใจของตัวเอง และเสาะหาความก้าวหน้าทีละน้อยด้วยการตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้
การใช้โซเชียลมีเดีย
- แน่นอนว่าคนGen Z เกิดมาพร้อมในยุคที่มีทั้งโซเชียลมีเดียและอินเทอร์เน็ต ที่ใช้ชีวิตแบบเปิดกว้างมากขึ้น
- พร้อมกับเลือกใช้โซเชียลมีเดียแต่ละแพลตฟอร์มด้วยหน้าที่ที่แตกต่างกัน รวมถึงให้ความสำคัญของคาแรกเตอร์ของตัวเอง แต่ต้องไม่ fake
- ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเสพข่าวสารจากเฟซบุ๊ก แชร์ชีวิตส่วนตัว เรื่องราวในชีวิตประจำวันผ่านอินสตาแกรม
- 82% คนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญมากในเรื่องคาแรกเตอร์ของตัวเอง และ 68% ต้องการแสดงตัวตนที่เป็นธรรมชาติของฉันในโซเชียลมีเดีย
โดยพบว่า คนกลุ่มนี้ไม่ได้สร้างตัวตนปลอม แต่จะมีแอคเคานต์ไว้ใช้งานมากกว่า 1 บัญชี โดยใช้เป็นช่องทางในการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันตามคาแรกเตอร์ของตัวเองและแพลตฟอร์มนั้นๆ
มากกว่าเพื่อน แต่ไม่ถึงแฟน ความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ที่มาแรงของชาว “Gen Z”
เอลิซาเบธ อาร์มสตรอง ศาสตราจารย์ด้านสังคมวิทยาจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ในสหรัฐ ผู้วิจัยเกี่ยวกับเรื่องเพศวิถีและความสัมพันธ์รูปแบบดังกล่าว ระบุว่า ความสัมพันธ์แบบ Situationship เป็นขั้นตอนหนึ่งในการออกเดตที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหมู่Gen Z หรือกลุ่มผู้ที่เกิดในระหว่างปี พ.ศ.2540-2555 มีอายุตั้งแต่ 9-24 ปี โดยความสัมพันธ์แบบนี้สามารถแก้ปัญหาความต้องการทางเพศ ความใกล้ชิด ความเป็นเพื่อนได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน
Situationship เป็นรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนที่เชื่อมต่อทั้งทางอารมณ์และทางกายภาพ โดยไม่มุ่งหวังที่จะผูกมัดหรือครอบครองด้วยการพัฒนาความสัมพันธ์ให้เป็นคนรัก บางครั้งความสัมพันธ์แบบนี้ไม่ได้กำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน แต่ปล่อยให้มันเป็นไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างเช่น นักศึกษามหาวิทยาลัยปีสุดท้ายสองคนอาจจะยังไม่ได้ตกลงเป็นคู่รักกัน เพราะต่างรู้ดีว่าพอเรียนจบแล้วอาจจะต้องแยกย้ายกันไปเติบโตหลังจากเรียนจบ จึงปล่อยจอยกับความสัมพันธ์แบบนี้
ศาสตราจารย์อาร์มสตรอง ระบุอีกว่า Situationship กลายเป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ เนื่องจากเป็นการท้าทายต่อค่านิยมของสังคมที่เรียกว่า “การยกระดับความสัมพันธ์” (The Relationship Escalator) ซึ่งเป็นรูปแบบความสัมพันธ์แบบดั้งเดิม ที่สังคมคาดหวังในรูปแบบความสัมพันธ์ที่พัฒนาและก้าวไปตามลำดับที่ควรจะเป็น ตั้งแต่เริ่มทำความรู้จักกัน คบกันเป็นแฟน แต่งงาน กลายเป็นคู่ชีวิต
ความสัมพันธ์ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว
เมื่อ เจน Z เข้าสู่ช่วงวัยที่จะมีความรัก เริ่มออกเดต ก็ต้องเจอกับความท้าทายใหม่ ๆ ที่คนรุ่นก่อนไม่เคยเจอ ทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เจอผู้คนได้ยากลำบากยิ่งขึ้น และต้องหันมาเดตออนไลน์มากขึ้น อีกทั้งคนรุ่นใหม่ไม่ได้มองว่าการสร้างครอบครัวเป็นเรื่องที่สำคัญมากขนาดนั้น เพราะพวกเขาต้องเผชิญวิกฤติสภาพภูมิอากาศ เศรษฐกิจที่ชะลอตัว พร้อมอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ตลอดจนความวุ่นวายทางการเมืองและสังคม ทำให้ชาวเจน Z เลือกแสวงหาความมั่นคงทางการเงินและอาชีพก่อน
“คนรุ่นใหม่มักพูดว่าความสัมพันธ์ทำให้พวกเขาเสียสมาธิจากเป้าหมายด้านการศึกษาและอาชีพการงาน ดังนั้น ความสัมพันธ์ที่ไม่ต้องผูกมัดมากเกินไปจึงเหมาะสมกับพวกเขา เพราะคุณอาจสูญเสียเส้นทางชีวิตของตัวเองเพื่อคนอื่น” เวดกล่าว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ Situationship จะกลายเป็นที่นิยมของคนเจน Z และกลายเป็นเรื่องปกติที่จะอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจน แทนที่จะหลีกหนีเหมือนคนรุ่นอื่น ๆ แต่ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงและความไม่แน่นอนในความสัมพันธ์นี้
เวดกล่าวว่า ในทางทฤษฎีแล้ว ความสัมพันธ์นี้จะดำเนินไปได้ด้วยดี เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายเปิดใจคุยกันถึงความต้องการอย่างชัดเจน แต่ในทางปฏิบัติอาจจะไม่ได้ง่ายเช่นนั้น เพราะมนุษย์ล้วนมีความรู้สึก ยิ่งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ให้มากขึ้นด้วยแล้ว ย่อมเท่ากับว่าความต้องการของทั้งคู่ไม่ตรงกัน และความสัมพันธ์นี้ก็อาจจบลงอย่างไม่สวยงามเหมือนที่คิดไว้
ขอขอบคุณ : กรุงเทพธุรกิจ , Marketeer และ Posttoday
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วความสัมพันธ์ก็ยังคงเป็นเรื่องของคนสองคน ตราบใดที่ทั้งคู่ยังมีความสุขและสบายใจที่จะอยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้ ก็ไม่มีอะไรถูกหรือผิด เพราะพวกเขาเป็นคนกำหนดมันเอง และด้วยความต่างอย่างมีสไตล์กันอย่างนี้ เพียงแค่สาระดี ๆ ที่ มาสิ ได้เอามาฝากไว้ให้กับทุกคนได้อ่านคนไม่เพียงพอ มาสิ จึงได้ขนเอากับอีกหนึ่งเครื่องมือดีที่จะนำพาคุณให้ไปได้สุดได้อีกกับอีกหนึ่งความต้องการของชีวิต กับ บัตรเครดิต ซึ่งจะมีบัตรใบไหนบ้าง ตาม มาสิ ไปดูกัน
บัตรเครดิต ซิตี้ พรีเมียร์
เหมาะสำหรับ : ลูกค้าที่อยากได้รับสิทธิ์พิเศษแบบครอบคลุมทุกการใช้จ่าย เช่นส่วนลดจากการช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้า ท่องเที่ยวแล้วได้รับรถรับส่งหรือเลานจ์ของ Miracle Lounge รับเครดิตเงินคืนเข้าบัญชี 3% เมื่อเติมน้ำมันเชลล์ ผ่านบัตรฯ ครบทุก 800 บาท ต่อเซลล์สลิป
รายละเอียดบัตรเครดิต ซิตี้ พรีเมียร์
- กำหนดอายุ 20-65 ปี
- รายได้ขั้นต่ำ 30,000 บาท
- อนุมัติวงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้
สิทธิ์สำหรับผู้ถือบัตรเครดิต ซิตี้ พรีเมียร์
- รับคะแนนสะสมซิตี้ รีวอร์ด 2 เท่า ทุกการใช้จ่าย ทั้งในและต่างประเทศ
- บริการที่จอดรถสำรองพิเศษที่ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์, พารากอน,เซ็นทรัล ชิดลม เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลพระราม 3, เซ็นทรัล เวสต์เกต และเดอะมอลล์บางกะปิ
- Miracle Lounge ที่สนามบินสุวรรณภูมิ 2 ครั้งต่อปีปฏิทิน
- รับสิทธิ์ซื้อบัตรชมภาพยนต์ 69 บาทต่อที่นั่ง ที่โรงภาพยนตร์ในเครือ SF ทั่วประเทศ
- ดอกเบี้ย 16% ต่อปี
- ฟรีค่าธรรมเนียม
สนใจสมัครบัตรเครดิต ซิตี้ พรีเมียร์
………………………………………………………………………………
บัตรเครดิตยูโอบี โยโล่ แพลทินัม
เหมาะสำหรับ : ลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์แบบคนเมือง เพราะจะได้รับ สิทธิ์พิเศษสำหรับเครดิตเงินคืนจากหลายร้านที่ร่วมรายการ เช่นรถไฟฟ้า MRT เซเว่น อีเลฟเว่น ร้านบูทส์ ร้านวัตสันร้านมัตสึโมโตะ คิโยชิ เบอร์เกอร์ คิง เป็นต้น และรับเครดิตเงินคืน 5% เมื่อซื้อ เติมเงิน หรือเติมเที่ยวบัตรโดยสาร BTS และ MRT
รายละเอียดบัตรเครดิตยูโอบี โยโล่ แพลทินัม
- กำหนดอายุ 20-60 ปี
- รายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท
- อนุมัติวงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้
สิทธิ์สำหรับผู้ถือบัตรเครดิตยูโอบี โยโล่ แพลทินัม
- รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15%
- ที่รถไฟฟ้า MRT เซเว่น อีเลฟเว่น ร้านบูทส์ ร้านวัตสันร้านมัตสึโมโตะ คิโยชิ เบอร์เกอร์ คิง Shopee Grab ร้าน Baskin Robbins และ Ticket Melon
- รับเครดิตเงินคืน 5% เมื่อซื้อ เติมเงิน หรือเติมเที่ยวบัตรโดยสาร BTS และ MRT
- ฟรี ค่าธรรมเนียมรายปี 2,000 บาท/ปี เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตร 100,000 บาท/ปี
- ดอกเบี้ย 16% ต่อปี
สนใจสมัครยูโอบี โยโล่ แพลทินัม
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะครับ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบ้านแลกเงิน สินเชื่อรถแลกเงิน และผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บัตรเครดิต
-
masii ชี้เป้า! บัตรเครดิต ที่ให้ ส่วนลด Shopee มีอะไรบ้าง? นักช้อปออนไลน์ ห้ามพลาด!
-
บุคลิกภาพ หลากหลาย Extrovert, Ambivert, Introvert บุคลิกไหนที่ใช่คุณ
-
ไม่ค้านสายตา! Miss Grand International 2022 มงลง Miss Grand International Brazil
_____________________________________________
Please become Masii Fan
Facebook: https://lnkd.in/gFFh8mh
Website: www.masii.co.th
Blog: https://masii.co.th/blog
Line: @masii
Tel: 02 710 3100
Youtube: https://lnkd.in/gbQf9eh
Instagram: https://lnkd.in/ga4j5ri
Twitter: twitter.com/MasiiGroup
#สินเชื่อ #ประกัน
#รถแลกเงิน #บ้านแลกเงิน #สินเชื่อส่วนบุคคล
#บัตรกดเงินสด #เงินด่วนทันใจ #สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์
#กู้เงิน #เงินสด #เงินก้อน #เงินด่วน #เงินกู้ทันใจ #masii
#มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า
#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า #SimplifiedComparison