เพราะอุบัติเหตุเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดและไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่จะทำอย่างไรหากวันใดวันหนึ่งเราเกิดอุบัติเหตุ ขับรถชนเสาไฟฟ้า จนเสาไฟฟ้าเสียหายหรือถึงขั้นรุนแรงจนหักโค่นลงมาทั้งต้น หากเป็นกรณีนี้ผู้ขับขี่ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับใคร เป็นจำนวนเงินเท่าไร และประกันรถยนต์ที่ทำไว้จะให้ความคุ้มครองหรือไม่นั้น เราไปหาคำตอบพร้อมกับ masii กันเลยค่ะ
ขับรถชนเสาไฟฟ้า ต้องชดใช้เท่าไร ประกันคุ้มครองไหม
การขับรถชนเสาไฟฟ้า นับเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี แต่เสาไฟฟ้าถือเป็นทรัพย์สินของหน่วยงานราชการ นั่นก็คือ การไฟฟ้า ซึ่งรวมทั้ง การไฟฟ้านครหลวง (เฉพาะ กรุงเทพฯ, นนทบุรี และสมุทรปราการ) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ผู้ขับขี่จึงต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับหน่วยงานดังกล่าว โดยเบื้องต้น จะต้องจ่ายค่าเสาไฟฟ้า ซึ่งจะคิดราคาตามประเภท ขนาด และพื้นที่ในการติดตั้ง, ค่ารื้อถอน, ค่าขนส่งตามระยะทาง และค่าแรงงานที่จะมาทำการติดตั้ง โดยเสาไฟฟ้าหนึ่งต้นราคาอยู่ราวๆ 50,000 – 150,000 บาท แล้วแต่ขนาดความสูงเเละกำลังไฟของเสาต้นที่เสียหาย
ถ้าไม่มีเงินชดใช้ค่าเสียหาย ควรทำอย่างไร
หากผู้ขับขี่ที่ขับรถชนเสาไฟฟ้าไม่มีเงิดชดใช้ค่าเสียหาย สามารถเข้าไปเจรจาต่อรองขอผ่อนชำระหนี้ หรือขอลดหนี้สินที่แผนกไกล่เกลี่ยและประนอมหนี้ของการไฟฟ้าฯ แต่อาจจะต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มด้วย ที่สำคัญคือห้ามหนีหนี้ หรือไม่ให้ความร่วมมือในการชดใช้ค่าเสียหายเด็ดขาด เพราะจะถูกดำเนินคดี และต้องชดใช้ค่าเสียหายตามจำนวนที่ศาลกำหนดตามมาตรา 438 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ระบุไว้ความว่า
มาตรา 438 ค่าสินไหมทดแทนจะพึงใช้โดยสถานใดเพียงใดนั้น ให้ศาลวินิจฉัยตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิด
อนึ่ง ค่าสินไหมทดแทนนั้น ได้แก่การคืนทรัพย์สินอันผู้เสียหายต้องเสียไปเพราะละเมิด หรือใช้ราคาทรัพย์สินนั้น รวมทั้งค่าเสียหายอันจะพึงบังคับให้ใช้เพื่อความเสียหายอย่างใด ๆ อันได้ก่อขึ้นนั้นด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อสิ้นสุดคำวินิจฉัยของศาลแล้ว ผู้กระทำความผิดจะไม่สามารถต่อรองขอลดหนี้ได้อีก นอกจากนี้หากพบว่าผู้ขับขี่เมาแล้วขับ ฝ่าไฟแดง หรือขับรถด้วยความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนดจนเกิดอุบัติเหตุ ก็จะถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีกกรณี
ขับรถชนเสาไฟฟ้า ประกันจ่ายไหม
ในกรณีที่รถยนต์คันที่เกิดอุบัติเหตุชนเสาไฟฟ้าได้ทำประกันรถยนต์ไว้ หากเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 บริษัทประกันจะทำการชดใช้ค่าเสียหายทั้งในส่วนของรถยนต์ และทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย แต่หากทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ ประกันรถยนต์ชั้น 3+ หรือประกันรถยนต์ชั้น 3 จะไม่ได้รับความคุ้มครอง ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขและความคุ้มครองที่ไม่ครอบคลุมกรณีขับรถชนของหลวงนั่นเอง
เมื่อเพื่อนๆ ได้ทราบกันไปแล้วว่าหากขับรถชนเสาไฟฟ้า ต้องชดใช้เท่าไร และประกันรถยนต์จะคุ้มครองหรือไม่นั้น อย่างไรก็ตามเราก็ควรขับรถอย่างปลอดภัย ไม่ประมาท เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ และถ้าจะให้ดีมาสิแนะนำว่าควรทำประกันรถยนต์ไว้ด้วยเพื่อความอุ่นใจ โดยสามารถ คลิกที่นี่ เพื่อเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับเว็บไซต์มาสิได้เลย
สนใจสมัครประกันรถยนต์
หรือหากใครที่ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถโทร.มาพูดคุยกับทีมงานมาสิได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์มาเป็นเพื่อนกับเราที่ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ เกี่ยวกับ ประกันรถยนต์ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันภัยโดรน ประกันเดินทาง ประกันสุขภาพ รวมถึงสินเชื่อส่วนบุคคล บัตรกดเงินสด และบัตรเครดิตจากสถาบันการเงินชั้นนำได้เลย
