ก็เรียกได้ว่าผ่านพ้นกันไปอย่างเป็นทางการกันแล้วในหลายพื้นที่ กับเทศกาลปีใหม่ไทย หรือ วัน สงกรานต์ ที่บอกได้เลยว่าปีนี้กลับมาครึกครืนกว่าทุก ๆ ปีที่เคยจัดกันมา เพราะหลังจากที่ห่างหายกันไปนานจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งสัปดาห์นี้ใครหลายคนก็เริ่มที่จะกลับมาทำงานกันตามปกติแล้ว แต่หลังจากที่ได้ไปผจญภัย หรือสนุกสนานกับการเล่นน้ำมาอีกหนึ่งปัญหาที่พบได้นั่นก็ปัญหาผิวที่ได้รับความเสียหายจากการออกไปเล่นน้ำกลางแดด ยิ่งในปีนี้สภาพอากาศร้อนจัด ความรุนแรงของแดดก็ร้อนแรงตามไปด้วย จึงทำให้แม้แต่เราจะเตรียมพร้อมมาดีเท่าไหรแล้วก้ตาม ก็อาจที่จะยังได้รับผลกระทบอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริเวณใบหน้าของเราที่จัดได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่โดนแสง และได้รับผลกระทบมากเป็นอันดับต้น ๆ กันเลยทีเดียว ว่าแล้ววันนี้ มาสิ ก็ไม่พลาดที่จะเคล็ดลับกับเทคนิคดี ๆ ในการพื้นฟูผิวหน้าที่ได้รับผลกระทบหลังจากการเล่นน้ำสงกรานต์มาฝากกัน ซึ่งจะมีเทคนิคไหนน่าสนใจกันบ้าง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาก็ตาม มาสิ ไปดูกัน…พร้อมเสริมการดูแลร่างกายด้วย ประกันสุขภาพ
ขอขอบคุณ : smooth-e ,The Better และ Vogue Beauty
ประกันสุขภาพ แผนบียอนด์ เพอร์ซันนัลแคร์ ( Beyond Personal Care )
เปิด! เคล็ดลับฟื้นฟู สภาพผิวหน้าหลัง สงกรานต์ …พร้อมเสริมการดูแลร่างกายด้วย ประกันสุขภาพ
ปัญหาผิวไหม้แดด หลังเล่นน้ำ สงกรานต์
หลัง สงกรานต์ ใครหลายคนอาจจะกำลังประสบปัญหา ผิวไหม้แดด กลายเป็นผิวคล้ำ หรือผิวทูโทน ซึ่งอันที่จริง ไม่ต้องสงกรานต์เสมอไป เพราะแดดเมืองไทย ไม่ว่าจะวันไหน ฤดูไหน ถ้าอยู่กลางแดดนานๆ ก็ไหม้ได้เหมือนกัน แม้ว่าเราจะปกป้องผิวดีแค่ไหนก็เอาไม่อยู่
โดยอาการ ผิวไหม้แดด (Sunburn) เกิดจากการที่ผิวหนังชั้นนอกถูกแสงแดดทำร้าย เนื่องจากผิวหนังเผชิญกับแสงแดดจัดเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 30 นาที โดยสามารถสังเกตได้ว่าผิวหนังจะมีอาการแสบร้อน เป็นรอยแดง หรือรุนแรงในระดับที่มีตุ่มพองเกิดขึ้นได้ หากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้ผิวแห้งและลอกออกมาเป็นขุย ส่งผลกระทบทำให้เกิดปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวลอก แสบผิว ผิวคล้ำเสียและแห้งกร้านอย่างเห็นได้ชัดตามมา
ฟื้นฟูสุขภาพผิวใส จากอาการไหม้แดด
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังได้ให้ข้อแนะนำเบื้องต้นในการฟื้นบำรุงผิวจากอาการผิวไหม้แดด ด้วยการทาครีมมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติช่วยบรรเทาผิวแห้งลอก และปลอบประโลมผิวจากอาการแสบร้อนระคายเคืองได้ โดยวิธีที่ง่ายๆ ที่ช่วยบรรเทาอาการผิวไหม้แดดได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถทำได้ ดังนี้
1.รักษาด้วยน้ำเย็น: หากเพิ่งมีอาการ แนะนำให้ใช้น้ำเย็นประคบบริเวณที่ไหม้ แต่ก็ไม่ควรใช้น้ำเย็นจัดหรือน้ำแข็ง เพราะอาจทำให้เกิดการกัดผิวหนังได้
2.ใช้ครีมบำรุง: ควรใช้ครีมบำรุงที่ให้ความชุ่มชื่น เพื่อลดอาการผิวลอกแตก และควรเป็นครีมบำรุงสำหรับผิวแพ้ง่าย ไม่ให้เกิดอาการแพ้หนักกว่าเดิม
3.ห้ามเจาะตุ่มหรือลอกผิวหนัง: การเจาะหรือลอกผิวหนังที่เกิดจากอาการไหม้แดด จะทำให้ผิวหนังยิ่งระคายเคือง อาจทำให้อาการลุกลามหนักกว่าเดิม ดังนั้นทางที่ดีคืองดสัมผัสบริเวณที่ผิวไหม้ และควรบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นอยู่เสมอ
4.ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ผิวหนังที่ไหม้แดด ร่างกายกำลังอยู่ในสภาวะที่ต้องการน้ำมาซ่อมแซม ดังนั้นควรดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน และงดเครื่องดื่มประเภทโซดา กาแฟ แอลกอฮอล์ เพราะร่างกายอาจยิ่งสูญเสียน้ำได้
5.หลีกเลี่ยงออกแดดในเวลาแดดแรง: ผิวที่อ่อนแอทำให้ไวต่อแดด อาจทำให้เกิดอาการแพ้หนักกว่าเดิม ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการเผชิญแดดในช่วงเวลาที่แดดจัด หากจำเป็นควรทาครีมกันแดดก่อนเสมอ และทาซ้ำทุกๆ 2-3 ชั่วโมง
ฟื้นฟูสุขภาพผิวพรรณ ด้วยสมุนไพร กลับมาเนียนใส จากพิษแสงแดด
ด้าน นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า “หลังเทศกาลสงกรานต์ประชาชนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคุณผู้หญิง มักพบปัญหาที่เกี่ยวกับสภาพผิวพรรณ อันเนื่องจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะมีการเล่นน้ำสงกรานต์กันกลางแจ้ง ทำให้ผิวพรรณ โดยเฉพาะผิวหน้าไหม้จากแสงแดด ทำให้ผิวหน้าโทรม หมองคล้ำ เกิดจุดด่างดำบนใบหน้า และแห้งกร้าน ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งรักษา โดยตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย มีเคล็ดลับการฟื้นฟูสุขภาพผิวหน้า ผิวพรรณ ที่น่าสนใจในการจัดการกับสภาพปัญหาที่แตกต่างกันด้วยสมุนไพร 6 วิธี ดังนี้
วิธีที่ 1 รักษาด้วยขมิ้นชัน
ใช้ผงขมิ้นชันบดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ (บดเองหรือซื้อผงสำเร็จรูป) ผสมกับน้ำมะนาวเล็กน้อย จนได้เป็นเนื้อครีมข้น พอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำ 2-3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ จะช่วยให้ผิว กระจ่างใส ลดสิว และ ความมันบนใบหน้า
วิธีที่ 2 รักษาด้วยว่านหางจระเข้
ใช้วุ้นใสจากใบว่านหางจระเข้บดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับดินสอพองสะตุ (ดินสองพองที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว) 2 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เป็นเนื้อเดียว พอกหน้าทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น กระจ่างใส ลดการอักเสบของเซลล์ผิว
วิธีที่ 3 รักษาด้วยกล้วยสุก
ใช้กล้วยสุก 1 ผล มาบดผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น ทำ 2–3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ ช่วยปรับสภาพผิวให้กระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย และ จุดด่างดำบนใบหน้า
วิธีที่ 4 รักษาด้วยมะนาว
ใช้น้ำมะนาว 2 ช้อนชา ผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ พอกหน้า ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ
วิธีที่ 5 รักษาด้วยมะเขือเทศ
ใช้เนื้อมะเขือเทศบดละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ พอกหน้าทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น ทำ 2-3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ ช่วยปรับสภาพผิวให้กระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย และ จุดด่างดำบนใบหน้า
วิธีที่ 6 รักษาด้วยแตงกวา
ใช้แตงกวา 1 ลูก ปั่นรวมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ พอกหน้าทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น ทำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ลดการอักเสบของเซลล์ผิว
ทั้งนี้ นอกจากวิธีรักษาด้วยสมุนไพรที่น่าสนใจที่นำมาฝากแล้วแล้วนั้น นายแพทย์ขวัญชัย ยังกล่าวเพิ่มอีกว่า ควรพักผ่อนให้เพียงพอ นอนอย่างน้อยวันละ 6 – 8 ชั่วโมง ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และควรหลีกเลี่ยง การสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานานๆ เพราะจะเป็นอันตรายต่อผิวพรรณได้ จึงจะสามารถทำให้การรักษามีประสิทธิภาพมากที่สุด
…………………………….
และนี่ไม่เพียงสาระดีๆ ที่เอามาฝากกัน มาสิ ยังได้ขนเอากับอีกหนึ่งตัวช่วย ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างความคุ้มครองให้กับการดูแลสุขภาพของเราให้ดียิ่งขึ้นด้วย ประกันสุขภาพ แผนบียอนด์ เพอร์ซันนัลแคร์ ( Beyond Personal Care ) ที่สามารถเลือกแผนความคุ้มครองได้ตั้งแต่ 1,000,000 และ 5,000,000 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งการรักษาต่อปี ซึ่งรายละเอียดจะมีอย่างไรบ้างไปดูกัน
ประกันสุขภาพ แผนบียอนด์ เพอร์ซันนัลแคร์ ( Beyond Personal Care )
- ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยใน ( ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาลค่าบริการทั่วไปสำหรับการรักษาพยาบาลค่าธรรมเนียมแพทย์ผ่าตัดและค่าแพทย์เยี่ยมไข้ ) และการรักษาพยาบาลที่มีค่าใช้จ่ายสูง ( Major Medical ) สามารถเลือกแผนความคุ้มครองได้ตั้งแต่ 1,000,000 และ 5,000,000 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งการรักษาต่อปี
- ค่าห้อง ค่าอาหาร และพยาบาล สูงสุดต่อวัน 12,000 บาท
- ค่าห้องไอซียูสูงสุด 24,000 บาท ( สูงสุด 15 วันต่อปี )
- ค่ารักษาพยาบาลทั่วไป สูงสุดถึงครั้งละ 200,000 บาท ต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง
- ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินกรณีผู้ป่วยนอก สูงสุด 25,000 บาท
- ค่าธรรมเนียมแพทย์ผ่าตัด รวมถึงค่าปรึกษาแพทย์ก่อนการผ่าตัด ( ตามตารางผ่าตัด ) สูงสุด 250,000 บาท
- ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล( อบ.2* ) กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะสายตา การรับฟังเสียง การพูดออกเสียง และทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง รายละ 100,000 บาท
- เบี้ยประกันเริ่มต้น 2,279 บาท
ประกันสุขภาพ แผนบียอนด์ เพอร์ซันนัลแคร์ ( Beyond Personal Care )
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ ประกันวินาศภัย ประกันรถยนต์ ประกันรถมอเตอร์ไซด์ ประกันสุขภาพ ประกันโดรน ประกันการเดินทาง ประกันอุบัติเหตุ ประกันภาคธุรกิจ และพ.ร.บ. รวมทั้ง ผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประกันสุขภาพ
-
สายทุเรียนห้ามพลาด ทุเรียน พันธุ์ไหนมีน้ำตาลเท่าไหร่ ชนิดไหนมากที่สุดเช็คที่นี่…กินเท่านี้ดีที่สุด
-
รู้หรือไม่? ปรากฎการณ์ สภาวะโรคร้อน ส่งผลกระทบต่อเด็กอย่างไร?
-
ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทํางาน ที่ไหนดี ปี 2023 รวมโรงพยาบาลรัฐ เอกชน
_____________________________________________
Please become Masii Fan
Facebook: https://lnkd.in/gFFh8mh
Website: www.masii.co.th
Blog: https://masii.co.th/blog
Line: @masii
Tel: 02 710 3100
Youtube: https://lnkd.in/gbQf9eh
Instagram: https://lnkd.in/ga4j5ri
Twitter: twitter.com/MasiiGroup
#สินเชื่อ #ประกัน
#รถแลกเงิน #บ้านแลกเงิน #สินเชื่อส่วนบุคคล
#บัตรกดเงินสด #เงินด่วนทันใจ #สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์
#กู้เงิน #เงินสด #เงินก้อน #เงินด่วน #เงินกู้ทันใจ #masii
#มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า
#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า #SimplifiedComparison