คนกลางหนักใจ….ต้องทำอย่างไรถึงมีรักไม่ขัดใจแม่ !?

คนกลางหนักใจ....ต้องทำอย่างไรถึงมีรักไม่ขัดใจแม่ !?
สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

เรื่องความรักความสัมพันธ์ใช่ว่าจะเป็นเรื่องของคนเสมอไป ถึงแม้ว่าจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ จะมาจากความรู้สึกดีๆ ที่คนสองคนมีให้กัน แต่ด้วยความที่มนุษย์เองนั้นก็เป็นสัตว์สังคม ดังนั้น คนสองคนนี้ก็ย่อมที่จะต้องมีพื้นที่เล็กๆ วงสังคมของกันและกันอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องพื้นฐานสังคมที่ใกล้ชิดกับเรามากที่สุดอย่าง “ครอบครัว” แต่หากเมื่อเราเริ่มที่จะมีความรักความสัมพันธ์ ซึ่งนับได้ว่าเป็นสิ่งใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในช่วงจังหวะเวลาของชีวิต หากแต่ความรักความสัมพันธ์นั้นกลับอยู่ฝั่งตรงกันข้าม เป็นปฏิปักษ์ความกับครอบครัว แล้วอย่างนี้เราควรที่จะทำอย่างไร ว่าแล้ววันนี้เรามาดูกันดีว่าหากเราอยากที่ก้าวข้ามปัญหา และพร้อมที่จะเดินหน้าต่อกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ หรือทางออกที่ดีสำหรับสถานการ์ที่ยากลำบากนี้จะเป็นอย่างไร แต่ก็ต้องบอกก่อนเลยว่าทริคดีๆ เทคนนิคน้อยๆ เราเหล่านี้ที่ มาสิ ได้นำมาให้ไม่ได้มีการการันตีว่าจะใช้แก้ปัญหาได้อย่างร้อยเปอร์เซ็น เพราะทุกๆคน ทุกๆ สถานการณ์ย่อมที่จะมีปัจจัยต่างกัน ดังนั้นแล้ว แต่ก็ลองนำข้อคิดเหล่านี้และเทคนิคที่ได้ไปปรับใช้ดูก็ไม่เสียหลาย…

ขอขอบคุณ : The Standard,Spring News และ ไทยรัฐ ออนไลน์

ทำไว้ก่อนอุ่นใจกว่า! ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล

คนกลางหนักใจ….ต้องทำอย่างไรถึงมีรักไม่ขัดใจแม่ !?

ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ โจทย์ใหญ่ของความสัมพันธ์

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาคราสสิคที่ไม่เพียงแต่ ครอบครัว คนไทยเราเท่านั้นที่ต้องเจอ กับปัญหาความสัมพันธ์ที่เมื่อลูกคิดจะมีแฟน แต่แฟนของลูกกลับไม่ถูกกับคนในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น แม่ผัวลูกสะใภ้ หรือแม่ยายกับลูกเขย  ซึ่งไม่ว่าจะเป็นปัญหาไหน ก็สร้างความหนักใจให้กับความรักของคนทั้งสองเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ จุดเริ่มต้นของปัญหาที่ใหญ่โตดังกล่าว มักที่จะเกิดจากจุดเริ่มต้นของปัญหาเล็ก โดยการที่ครอบครัวครอบครัวหนึ่งจะให้กำเนิดอีกชีวิตขึ้นมา คนเป็นพ่อเป็นแม่ย่อมต้องการให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูกของเขาเสมอ ดังนั้น ระบบคัดกรองของแต่ละคนเลยมีความแตกต่างกันไป ถ้าคนที่เป็นลูกเขยลูกสะใภ้สามารถคิดแบบนี้ได้ อาจช่วยลดความเป็นปฏิปักษ์กับครอบครัวคนกลางได้

แม่ผัวลูกสะใภ้
แม่ผัวลูกสะใภ้

คนกลาง ลำบากใจ…เลือกเดินทางไหนก็ดูผิด!

นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโจทย์ที่ยากเป็นอย่างยิ่งสำหรับ “คนกลาง” ในความสัมพันธ์ เพราะคนกลาง คือ คนที่อยู่ตรงกลางระหว่าง ครอบครัว ของเดิมของเขา และครอบครัวที่เขากำลังจะสร้างกับเรา ซึ่งครอบครัวเดิมของเขานั้นก็จำเป็นเพราะนั่นคือเลือดเนื้อเชื้อไข ส่วนครอบครัวเราก็สำคัญ เพราะมันคือสิ่งที่ทั้งคู่อยากมี ดังนั้น เมื่อไรที่สองครอบครัวนี้ไปด้วยกันไม่ได้ คนที่หนักและต้องแบกรับความลำบากใจนั่นก็คือคนกลางนี่เอง

สำหรับคนกลางแล้ว ความเข้มแข็งเป็นสิ่งสำคัญ เพราะต้องเข้าใจทั้งสองฝ่าย และพยายามหาจุดพอดี ต้องอารมณ์เย็นและมีสติ ไม่แสดงทางทีที่เทคแอคชั่นในการเข้าข้างใดข้างหนึ่ง ตลอดจนให้ความสำคัญ หรือละเลยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจนเกินไป เพราะการแสดงออกและท่าทีของคนกลางนั้นถือได้ว่ามีอิทธพลต่อทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างมาก

แล้วคนเป็นแฟนต้องรับมืออย่างไร ให้ไปต่อได้ โดยไม่ลำบากใจ?

เมื่อเป็นแบบนี้เราจะรับมือยังไงดีให้ไปต่อกับแฟนได้ ก็อย่างที่ได้กล่าวไป ถ้ามีปัญหาครอบครัวแล้วรับมือได้ยาก ก็สามารถเป็นปัญหาใหญ่ในความสัมพันธ์ได้ แม้การพาแฟนไปให้พ่อแม่รู้จัก หรือตัวเราเองต้องไปทักทายพ่อแม่ของอีกฝั่ง ดูจะเป็นเรื่องที่ควรทำ หรือเป็นขนบของสังคมส่วนใหญ่ แต่นี่ก็เป็นส่วนที่ทำให้กระทบต่อความสัมพันธ์โดยตรง ซึ่งทางออกของปัญหาก็คงที่จะทำอะไรได้ไม่มาก นอกจากการพูดมันออกไป คุยกันด้วยเหตุผล และต้องพูดอย่างไม่ให้บั่นทอนทั้งสองฝ่าย

แล้วเราจะเปลี่ยนให้พ่อแม่แฟนกลับมารักเราได้หรือไม่?

ถ้าเราพร้อมที่จะไปต่อและเดินหน้าความสัมพันธ์ครั้งนี้ไปด้วยกัน จะมีทางหรือไม่ที่เราจะสามารถเปลี่ยนใจให้พ่อแม่แฟนกลับมารักเรา ก็ต้องบอกตามตรงว่าคงไม่มีวิธีไหนหรือเทคนิคใดที่สามารถใช้ได้กับทุกคู่รักหรือกับครอบครัวแฟนทุกคนได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ นอกจาก “เวลา” และ “ความดี” เท่านั้นที่จะเอาชนะใจได้ แต่คงดีไม่น้อยหากต้องไปแก้ปัญหาที่บันปลายสู้เราสร้างความประทับใจไว้แต่เริ่มคงจะดีกว่า วันนี้ มาสิ จึงได้หยิบเอากับเทคนิคในการปรับตัวเข้าหาครอบครัวแฟนเล็กๆน้อยๆมาให้ได้ลองนำไปปรับใช้ดูกัน

1. เข้าใจและยอมรับ : การทำความเข้าใจพื้นฐานครอบครัวของแฟน และเรียนรู้นิสัยความชอบจะทำให้เราเข้าใจถึงสาเหตุว่าเพราะอะไรเราถึงเข้ากับครอบครัวแฟนไม่ได้ ทั้งนี้ ก็เพื่อนำไปใช้ในการปรับตัวเราให้เข้ากับที่บ้านของเขาได้ด้วย

2. ความประทับใจคือสิ่งสำคัญ : สำหรับผู้ใหญ่แล้ว การที่เด็กเข้าหาและมีความอ่อนน้อมถ่อมตนมักจะถูกใจผู้ใหญ่เสมอ หากต้องไปพบเจอแม่แฟนหรือครอบครัวแฟน แนะนำว่าควรมีของฝากเล็กๆ น้อยๆ ติดไม้ติดมือไปด้วย เพื่อแสดงถึงความใส่ใจและห่วงใยอย่างจริงใจ ซึ่งไม่จำเป็นว่าต้องเป็นของมีค่ามีราคาแพง อาจเป็นอาหารที่แม่แฟนชอบกิน หรือของอื่นๆ ที่มีประโยชน์ใช้สอยได้ เท่านี้ก็สร้างความประทับใจแม่แฟนและครอบครัวเขาได้แล้ว

3. บุคลิกการแต่งกายและการวางตัว : หากว่าเราเป็นคนชอบการแต่งตัวที่ทันยุคmyoสมัยแต่อาจดูมากเกินไปไม่ถูกใจในสายตาผู้ใหญ่ ก็ควรลดความหวือหวาในการแต่งตัวลง และที่สำคัญคือควรแต่งกายให้ถูกกับกาลเทศะ พร้อมกับวางตัวให้สุภาพเรียบร้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าแม่แฟนและครอบครัวเขาด้วย

4. ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ : สำหรับบางคนที่เข้าหาผู้ใหญ่ไม่เก่ง ไม่รู้จะเริ่มต้นบทสนทนาอย่างไร แนะนำว่าเริ่มต้นจากการชมเล็กๆ น้อยๆ โดยที่ไม่ฝืนใจเราเองก่อน เช่น วันนี้ชุดคุณแม่สวยจัง คุณแม่ทำอาหารอร่อยมาก ทำอย่างไรให้ผิวดีแบบนี้บ้าง หรือจะถามไถ่ว่าช่วงนี้สุขภาพคุณแม่แฟนเป็นอย่างไร ก็เป็นจุดเริ่มต้นการสนทนาที่ดีและทำให้แม่แฟนรู้สึกผ่อนคลายกับเรามากขึ้น

5. ทำตัวเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวแฟน : ครอบครัว แฟนบางคนอาจรู้สึกน้อยใจที่เห็นลูกของตนเองให้ความสนใจแฟนมากกว่าพวกเขา ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้น เราจึงควรทำตัวเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเขาด้วย เสมือนว่าเราเป็นลูกคนหนึ่งของเขา ด้วยการชวนแม่แฟนไปทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันระหว่างเรากับแฟนบ่อยๆ เช่น ไปกินข้าว ไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศด้วยกัน อาจไม่จำเป็นต้องไปด้วยทุกครั้ง แต่อย่างน้อยควรเอ่ยปากชวน

6. ช่วยเหลือเกื้อกูลเมื่อมีโอกาส : หาก ครอบครัว แฟนมีปัญหา เราควรให้การช่วยเหลืออย่างจริงใจ ซึ่งอาจจะไม่จำเป็นว่าต้องอยู่ในรูปแบบของตัวเงินเสมอไป แค่เพียงแสดงน้ำใจช่วยเหลือลงแรงลงใจในยามที่บ้านเขาประสบกับปัญหา ก็ทำให้แม่แฟนรู้สึกถึงความจริงใจที่เรามีให้กับลูกของเขาได้แล้ว

7. ไม่ทำตัวข่มแฟนต่อหน้าครอบครัวเขา : บางคนอาจไม่รู้ตัวว่าวิธีการแสดงออกของเราบางอย่างเป็นการข่มเหงแฟนเรา เช่น สั่งให้เขาทำในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราสามารถทำเองได้ พูดจากระโชกโฮกฮากเสียงดังใส่ หรือพูดจาข่มว่าเราเหนือกว่าในเรื่องอื่นๆ พฤติกรรมเหล่านี้นอกจากดูไม่ดีในสายตาคนอื่นแล้ว ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ครอบครัวแฟนไม่ชอบเราด้วยเช่นกัน เพราะไม่มีครอบครัวไหนที่ชอบให้ลูกโดนทำแบบนี้ใส่

ทั้งหมดนี้เป็นวิธีพื้นฐานที่อาจจะช่วยให้ครอบครัวแฟนรู้สึกดีหรือชอบเราขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัยด้วยว่าสาเหตุที่ครอบครัวแฟนไม่ชอบเราคืออะไร หากเราพยายามปรับตัวทำทุกวิธีที่กล่าวมานี้อย่างเต็มที่แล้วแต่ยังไม่ดีขึ้น หรือดีขึ้นเล็กน้อย บ้างครั้งการก้าวถ้อยออกมาอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในความสัมพันธ์ของเราทั้งสอง อย่างที่ดีเจพี่อ้อย นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล ได้กล่าวไว้ “บางทีการที่เจอโจทย์ยาก ก็ทำให้รู้ว่าเรารักกันมากแค่ไหน เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับคนสองคนที่พร้อมสู้และจับมือไปด้วยกัน”

……………………………..

ไม่เพียงข่าวสาร และสาระ ที่เอามาฝากกัน มาสิ ยังได้ขนเอากับอีกหนึ่งตัวช่วย ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างความคุ้มครองให้กับการดูแลสุขภาพของเราให้ดียิ่งขึ้นด้วย ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล V Prestige Care จาก วิริยะประกันภัย ที่ให้ความคุ้มครองครบทั้งการเจ็บป่วย และบาดเจ็บ จะมีความน่าสนใจอย่างรบ้างนั้น ตามมาสิไปดูกัน

ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล V Prestige Care

จาก วิริยะประกันภัย

ประกันสุขภาพ
ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล V Prestige Care จาก วิริยะประกันภัย
ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล V Prestige Care จาก วิริยะประกันภัย

จุดเด่นที่น่าสนใจ

  1. คุ้มครองค่ารักษาผู้ป่วยใน เหมาจ่ายต่อครั้งสูงสุด 5 ล้าน
  2. คุ้มครองค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการ ผู้ป่วยในสูงสุด 12,000/วัน
  3. สามารถต่ออายุได้ถึง 100 ปี
  4. ไม่มีเคลม มีเงินคืน
  5. ไม่ปฏิเสธการต่ออายุแม้มีเคลม
  6. สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาท
  7. ไม่ต้องสำรองจ่าย กรณีเข้ารักษาที่โรงพยาบาลในเครือ ที่มีคู่สัญญากว่า 500 แห่งในประเทศไทย

เงื่อนไขการรับประกันภัย

  1. สมัครได้ตั้งแต่อายุ 15 วัน – 65 ปี
  2. ผู้เอาประกันภัยอายุ ไม่เกิน 60 ปี สามารถต่ออายุได้ถึง 100 ปี
  3. ผู้เอาประกันภัยอายุ 61 – 65 ปี สามารถต่ออายุได้ถึง 70 ปี
  4. ผู้เอาประกันที่อายุระหว่าง 15 วัน ถึง 15 ปี ต้องสมัครพร้อมบิดาหรือมารดาอย่างน้อย 1 คน และแผนประกันจะต้องให้ความคุ้มครองที่ต่ำกว่าหรือเทียบเท่ากับบิดาหรือมารดาหรือผู้ปกครองโดยชอบธรรม
  5. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การพิจารณาใบคำขอฯ ตามหลักเกณฑ์การรับประกันภัยของบริษัท และผ่านเกณฑ์การพิจารณารับประกันภัยของบริษัท
  6. ความคุ้มครองการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจะคุ้มครองทันที ในวันที่กรมธรรม์มีผลบังคับครั้งแรก

เงื่อนไขและข้อยกเว้นที่สำคัญ

  1. การเจ็บป่วยใด ๆ ที่เกิดขึ้นในระยะเวลา 30 วัน (Waiting Period) หลังจากที่กรมธรรม์ประกันภัยมีผลบังคับครั้งแรก
  2. การเจ็บป่วยดังต่อไปนี้ที่เกิดขึ้นในระยะเวลา 120 วัน (Waiting Period) หลังจากที่กรมธรรม์ประกันภัยมีผลบังคับครั้งแรก เนื้องอก ถุงน้ำ หรือมะเร็งทุกชนิด, ริดสีดวงทวาร, ไส้เลื่อนทุกชนิด, ต้อเนื้อ หรือต้อกระจก, การตัดทอนซิล หรืออดีนอยด์, นิ่วทุกชนิด, เส้นเลือดขอดที่ขา, เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
  3. โรคที่เป็นมาแต่กำเนิด โรคเรื้อรัง การบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วยที่ยังมิได้รักษาให้หาย ก่อนวันทำสัญญาประกันภัย
หมายเหตุ
  1. เบี้ยประกันภัยสำหรับปีต่ออายุจะปรับเปลี่ยนตามอายุที่เปลี่ยนแปลง และประวัติการเคลม
  2. เงื่อนไขและข้อยกเว้นข้างต้นนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น โปรดศึกษารายละเอียด และข้อยกเว้นความคุ้มครองเพิ่มเติมในกรมธรรม์ประกันภัย
  3. ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง และเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันทุกครั้ง
สนใจสมัครประกันสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล V Prestige Care 

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะครับ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบ้านแลกเงิน สินเชื่อรถแลกเงิน และผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประกันสุขภาพ

_____________________________________________

Please become Masii Fan

Facebook: https://lnkd.in/gFFh8mh

Website: www.masii.co.th

Blog: https://masii.co.th/blog

Line: @masii

Tel: 02 710 3100 

Youtube: https://lnkd.in/gbQf9eh

Instagram: https://lnkd.in/ga4j5ri

Twitter: twitter.com/MasiiGroup

#สินเชื่อ #ประกัน

#รถแลกเงิน #บ้านแลกเงิน #สินเชื่อส่วนบุคคล

#บัตรกดเงินสด #เงินด่วนทันใจ #สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์

#กู้เงิน #เงินสด #เงินก้อน #เงินด่วน #เงินกู้ทันใจ #masii

#มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า

#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า #SimplifiedComparison