วันนี้มาสิจะพาไปดูอุบัติเหตุรถยนต์ที่มือใหม่หัดขับมักจะประสบกันอยู่เป็นประจำ นั้นคือ ถอยรถชนกำแพง รถชนเสา รถชนต้นไม้ ฯลฯ ซึ่งหลายๆ คนอาจจะเคยมาบ้าง (ใช่ไหมล่ะครับ^^) และหลายๆคนพอประสบอุบัติเหตุนี้ก็ไม่กล้าที่จะแจ้งประกันเพราะอายบ้าง กลัวบ้าง วันนี้มาสิจึงนำเรื่องประกันภัยรถยนต์มีรายละเอียดอย่างไรบ้างต่ออุบัติเหตุนี้ มาแชร์ให้เพื่อนๆ รู้กัน
ชนเสา ชนต้นไม้ กรณีนี้นับว่าเป็นอุบัติเหตุอะไร?
- นับเป็นอุบัติเหตุรถยนต์ชนทรัพย์สินครับ เสา ต้นไม้ นับเป็นทรัพย์สินครับ ฉะนั้น ประกันชั้น 1 เท่านั้นที่จะจ่ายค่าซ่อมรถให้เรา โดยไม่สนว่าเราผิดหรือถูก
- ประกันชั้น 2, 2+, 3, 3+ จะจ่ายค่าเสียหายให้เจ้าของทรัพย์สินที่เราชนหรือเรียกง่ายๆ ว่าคู่กรณีเท่านั้น(ในกรณีที่มี) ส่วนค่าซ่อมรถเรานั้น ประกันชั้น 2, 2+, 3, 3+ จะไม่คุ้มครองในกรณีขับรถชนเสา,รถชนต้นไม้นี้ เพราะไม่ตรงตามเงื่อนไข “รถชนรถ”
แยกกรณีรับผิดชอบให้ดูชัดๆ แยกเป็น 2 กรณี
-
ความคุ้มครองต่อทรัพย์สินคู่กรณี(ขับรถไปชนกำแพง เสา,ต้นไม้,ฯลฯ)
- กรณีรถชนเสา,รถชนต้นไม้นี้ ประกันชั้น 1,2, 2+, 3, 3+ จะดูแลจ่ายค่าเสียหายให้คู่กรณีของเรา เพราะอยู่ในความคุ้มครองของกรมธรรม์ แต่บริษัทประกันจะจ่ายค่าเสียให้ไม่เกินตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์เท่านั้น ส่วนเกินที่เหลือเราต้องรับผิดชอบเอง
-
ความคุ้มครองต่อทรัพย์สินของเรา(รถเรานั้นเอง)
- กรณีรถชนเสา,รถชนต้นไม้นี้ ประกันชั้น 1 จะดูแลจ่ายค่าซ่อมแซมรถของเรา เพราะอยู่ในความคุ้มครองของกรมธรรม์ ไม่สนว่าเราผิดหรือถูก แต่บริษัทประกันจะจ่ายค่าเสียหายให้ไม่เกินตามทุนประกันที่ระบุไว้ในกรมธรรม์เท่านั้น ส่วนเกินที่เหลือเราต้องรับผิดชอบเอง
- กรณีรถชนเสา,รถชนต้นไม้นี้ ประกันชั้น 2, 2+, 3, 3+ จะคุ้มครองในส่วนของทรัพย์สินภายนอกหรือคู่กรณีเราเท่านั้นครับ แต่จะไม่ดูแลจ่ายค่าซ่อมแซมรถของเรา เพราะประกันรถยนต์ชั้น 2+ , 3+ ให้ความคุ้มครองในส่วนของค่าซ่อมรถเราเฉพาะกรณีรถชนรถเท่านั้น และ ประกันรถยนต์ชั้น 2 , 3 ไม่ให้ความคุ้มครองในส่วนของค่าซ่อมรถเราครับ
กรณีรถชนเสา รถชนต้นไม้ ฯลฯ ประกันคุ้มครองใครในรถบ้าง?
- ประกันชั้น 1,2, 2+, 3, 3+ ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลต่อเราและผู้โดยสารในรถ ในกรณีชนเสานี้ โดยจะดูแลค่ารักษาพยาบาลไม่เกินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
masii tips – กรณีตัวอย่างง่ายๆ ให้เห็นภาพ
ถอยรถไปชนกำแพง ชนเสา ชนต้นไม้ ประกันรับผิดชอบยังไงบ้าง?
- ประกันชั้น 1 ซ่อมให้ทั้งกำแพงและรถเราทุกกรณี ไม่ว่าผิดหรือถูก
- ประกันชั้น 2, 2+, 3, 3+ จ่ายเฉพาะค่าซ่อมกำแพง ส่วนรถเรา เราต้องซ่อมเอง
และเมื่อประสบอุบัติเหตุนี้ปุ๊บ มาสิแนะนำให้รีบแจ้งประกันทันทีเพื่อที่จะสามารถชี้จุดเกิดเหตุให้ประกันได้นั้นเอง
ข้อดี-ข้อเสีย ของประกันภัยที่คุ้มครองเหตุรถชนเสา รถชนต้นไม้
ข้อดี
- หากเกิดเหตุขึ้น มีความคุ้มครองในส่วนนี้ทำให้เราได้รับการดูแลค่าเสียหายทรัพย์สินให้คู่กรณีและค่ารักษาพยาบาลจากบริษัทประกัน
- ไม่ต้องเสียเงินค่าซ่อมรถและค่ารักษาพยาบาลเอง ถ้าอยู่ในเงื่อนไขกรมธรรม์ ทำให้เราประหยัดเงินในส่วนนี้ไปได้
- ทำประกันภัยรถชั้น 1 ทีเดียวครอบคลุมถึงจุดนี้ไปด้วยเลย
ข้อเสีย
- ประกันชั้น 2 ,2+,3,3+ จะไม่คุ้มครองค่าซ่อมรถเราครับ จะคุ้มครองในส่วนของทรัพย์สินภายนอกหรือคู่กรณีเราเท่านั้นครับ เพราะไม่ใช่กรณีรถชนรถ
- ประกันชั้น 2 ,2+,3,3+ จะคุ้มครองค่าซ่อมรถเรา กรณีรถชนรถเท่านั้น โดยรายละเอียดความคุ้มครองจะระบุไว้ที่กรมธรรม์ที่เราทำ
- ประกันชั้น 1 ถึงจะคุ้มครองส่วนนี้ แต่ก็มีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องให้ดีตอนทำกรมธรรม์อีกที เพราะบริษัทประกันแต่ละเจ้าข้อจำกัดไม่เหมือนกัน
- ประกันชั้น 1 มีราคาที่สูงกว่าประชั้น 2, 2+ ,3 , 3+ พอสมควรและมีข้อจำกัดในการทำ
สรุป
กรณีรถชนกำแพง ชนเสา ชนต้นไม้นี้ มักจะเกิดกับมือใหม่หัดขับเสียส่วนใหญ่ เพราะยังไม่ค่อยชินรถนั้นเอง แต่ในมือเก๋าก็มีบ้างที่อาจเกิดอุบัติเหตุนี้ ทำให้การมีประกันอุบัติเหตุส่วนนี้ไว้จะช่วยให้เราสบายใจยิ่งขึ้นในการขับขี่ เพราะหากเกิดอะไรขึ้น เรายังมีประกันที่จะคอยดูแลในส่วนของค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลให้เรานั้นเอง ยิ่งมือใหม่หัดขับประกันชั้น 1 คุ้มค่าแน่นอนครับ
หากเพื่อนๆ ต้องการหาข้อมูลหรือเปรียบเทียบประกันรถยนต์ ในส่วนรายละเอียดอื่นๆ สามารถลองใช้บริการที่ www.masii.com ได้ครับ