ครั้งแรกของประเทศไทย Nissan เปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เทคโนโลยี e-Power เอกสิทธิ์เฉพาะของนิสสัน ผสานระบบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และมอเตอร์เข้าด้วยกัน โดยเทคโนโลยีตัวนี้ยังคงใช้แหล่งพลังงานจากน้ำมันอยู่ แต่ทว่าน้ำมันเหล่านี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า ทำให้ตัวรถสามารถขับเคลื่อนจากพลังงานไฟฟ้า 100% สร้างประสบการณ์ให้ผู้ขับขี่ไม่ต่างจากรถยนต์ไฟฟ้า อย่าง รถยนต์ EV ซึ่งวันนี้ที่เราจะมารีวิวกันก็คือ Nissan Kick รุ่น VL ราคา 1,049,000 ที่เป็นตัวท็อปของนิสสันรุ่นนี้
รีวิว Nissan Kick e-Power เทคโนโลยีรถไฟฟ้าเติมน้ำมัน ขับสนุก
Nissan Kick E-power มีให้เลือกกัน 4 รุ่นด้วยกัน
- รุ่น S ราคา 889,000 บาท
- รุ่น E ราคา 949,000 บาท
- รุ่น V ราคา 999,000 บาท
- รุ่น VL ราคา 1,049,000 บาท
นอกจากนี้หากใครอยากได้สีแบบ 2 โทนท้ังภายในและภายนอก เพียงเพิ่มอีกแค่ 25,000 เท่านั้น โดยสี 2 โทนนี้จะเลือกได้เฉพาะเมื่อซื้อรุ่น VL เท่านั้น
ภายนอก
เริ่มกันที่ภายนอกกันก่อนมีการตกแต่งด้วยกระจังหน้าทรง V-Motion มีไฟหน้า LED ส่องสว่าง ไฟท้ายเป็นแบบบูมเมอแรง LED Signature Light และไฟตัดหมอก อีกทั้งยังเป็นระบบไฟแบบเต็มรูปแบบที่มีระบบ Follow-me-home, Day time running และการเปิดปิดแบบอัตโนมัติ
ส่วนของกระจกมองข้างมีสีเดียวกับตัวรถสวยงาม มีกระจกมองรอบคันแบบ Around View Monitor ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดเด่นของรุ่นนี้ ซึ่งจะมีกล้องอยู่ที่ ข้างหน้า 1 ตัว ข้างหลัง 1 ตัว และด้านข้างอีก 2 ตัว แต่กล้องแบบมองรอบคันจะมากับรุ่นท็อป และรองท็อปเท่านั้น ส่วนเสาอากาศเป็นแบบครีบฉลามที่เป็นเสาอากาศที่นิสสันมีให้มาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น
ด้านหลังมีระบบ Sensor กะระยะด้านหลัง ระบบเตือนในระยะอับสายตา ต่อมาเมื่อเราเปิดประตูด้านหลังจะเจอกับพื้นที่เก็บสัมภาระที่ค่อนข้างกว้างความจุ 400 ลิตร (ไม่รวมการพับเบาะหลัง) ผิดกับตัวรถที่ดูไซส์เล็ก ข้อเสียก็คือด้วยความที่ที่เก็บสัมภาระค่อนข้างลึกเมื่อพับเบาะหลังแล้วทำให้ไม่เรียบไปกับพื้นที่ด้านหลัง ซึ่งทำให้สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร ภายใต้พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังนี้จะมีแบตเตอรี่และชุดซ่อมยางมาให้ แต่จะไม่มียางอะไหล่
ภายใน
ภายในเริ่มจากด้านหลัง มีพื้นที่กว้างนั่งสบายแถมยังเข้าออกได้อย่างสะดวกสบายเป็นเพราะความสูงของรถทำให้สามารถนั่งลงได้โดยไม่ต้องย่อตัวลงมา อีกทั้งพื้นที่วางขายังมีความยาวพอสมควรขนาดที่คนตัวสูงนั่งได้สบายเลย รวมถึงพื้นที่เหนือศีรษะที่มีความสูงไม่แคบ แต่สิ่งที่เป็นข้อเสียนั้นก็คือด้วยความที่เบาะหลังไม่สามารถเอน หรือปรับได้จึงทำให้พอนั่งแล้วมีความชันหลังนิดหน่อย และพนักพิงวางแขนสำหรับที่นั่งด้านหลังไม่มีมาให้
มีไฟช่องเสียบ USB สำหรับชาร์จแบตมือถือ 2 ช่อง มีที่วางน้ำด้านข้างประตูพร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง ในส่วนของรุ่นรองท็อปลงมาจะมีลำโพงเพียง 4 ตำแหน่ง
ด้านหน้าตกแต่งดูดี แผงหน้าปัดแบบ Gliding Wing หรือลายเส้นแนวปีกเครื่องร่อน มีหน้าจอระบบสัมผัสตรงกลางขนาด 8 นิ้วสามารถเชื่อมต่อ USB/Bluetooth/AUX ได้ ด้านหน้าคนขับจอแสดงผล TFT ขนาด 7 นิ้วให้ข้อมูลสำคัญต่าง ๆ กับผู้ขับขี่อย่างครบถ้วน
กระจกมองหลังถือเป็นจุดเด่นอีกอย่างนึง เพราะเป็นกระจกมองหลังแบบเชื่อมต่อกับกล้องด้านท้ายรถปรับได้ง่าย เราไม่ต้องห่วงอีกต่อไปว่าคนนั่งด้านหลังจะมาบังทัศนวิสัยในการมองเห็นของเรา ทั้งนี้การติดตั้งกระจกมองหลังยังเป็นแบบปรับลดแสงสะท้อนอีกด้วย
ระบบความปลอดภัย
- One-Pedal: ระบบคันเร่งอัจฉริยะ
- Intelligent Cruise Control: ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
- Blind Spot Warning-BSW: ระบบเตือนจุดอับสายตา
- Intelligent Forward Collision Warning: ระบบเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ
- Rear Cross Traffic Alert: ระบบเตือนรถในทางสวนขณะถอยรถ
- Intelligent Ride Control: ระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ
**ระบบเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งระบบความปลอดภัยของ Nissan Kick ถือว่าครบครันมาก ๆ ทำให้เมื่อขับขี่มีความนุ่มนวล และยังปลอดภัยด้วยระบบควบคุมความเร็วต่าง ๆ
เครื่องยนต์
- เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.2 ลิตร
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium Ion) 1.57 KWH
- โหมดขับเคลื่อน 4 โหมด S (Smart) Mode, Eco Mode, Normal Mode, EV Mode
- กำลังสูงสุด 129 แรงม้า
- 260 นิวตันเมตร
- ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชั่วโมง
- น้ำมันเติม E-20 เท่านั้น
สรุป
ถ้าพูดถึงรถยนต์นิสสันแล้วก็เป็นรถยนต์ที่มีคุณภาพตลอดมา ทั้งด้านงานประกอบ หรือระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนิสสันมือหนึ่ง นิสสันมือสอง ส่วน Nissan Kick e-Power ก็เป็นรถยนต์นิสสันอีกรุ่นนึงที่มีความน่าสนใจ ด้วยนวัตกรรมที่เปลี่ยนจากน้ำมันมาเป็นไฟฟ้าที่ทำให้ผู้ขับขี่ได้ฟีลลิ่งการขับขี่รถไฟฟ้าในราคาเพียง 1 ล้านเศษๆ อีกทั้งยังมีระบบความปลอดภัยที่ครบครันตามเคย การดีไซน์ตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย ทั้งนี้นิสสันยังมีประกันรถใหม่ 3 ปี 1 แสนกิโลเมตร รับประกันระบบไฟฟ้า 5 ปี 1 แสนกิโลเมตร และประกันเเบตเตอรี่อีก 10 ปี
แต่หากใครสนใจทำประกันรถยนต์ ก็สามารถติดต่อกับมาสิได้เลยที่ 02 710 3100 หรือหากใครอยากทำประกันรถยนต์แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกประกันรถยนต์ประเภทไหนดีละก็ สามารถ คลิกที่นี่ เพื่อเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับเว็บไซต์มาสิได้ง่ายๆ
สนใจสมัครประกันรถยนต์
นอกจากนี้เพื่อนๆ ยังสามารถแอดไลน์เพื่อติดตามข่าวสารจากมาสิได้ที่ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ เกี่ยวกับ ประกันรถยนต์ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันภัยโดรน ประกันสุขภาพ ประกันไวรัสโคโรนา รวมไปถึง สินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิตจากสถาบันการเงินชั้นนำได้เลย