ใบอนุญาตขับรถ หรือ ใบขับขี่ ถือเป็นเอกสารสำคัญที่ช่วยยืนยันตัวตนผู้ขับขี่ว่าเป็นผู้มีความสามารถในการขับขี่รถยนต์ โดยใบขับขี่มีทั้งแบบชนิดชั่วคราว 2 ปี (สำหรับผู้ทำใบขับขี่ใหม่) และใบขับขี่ชนิด 5 ปี ซึ่งหากใบขับขี่หมดอายุ ก็ต้องทำการต่อใบขับขี่ หรือหากใครที่ไม่เคยทำใบขับขี่มาก่อน ก็ต้องทำการสอบใบขับขี่ แต่หลายคนอาจมีคำถามว่า ถ้าหากกำลังจะไปทำใบขับขี่ หรือต่อใบขับขี่ แต่ว่าลืมเอาบัตรประชาชนไปด้วย หรือดันทำบัตรประชาชนหาย แบบนี้จะยังทำใบขับขี่ได้ไหม เราไปหาคำตอบพร้อมกับ masii กันเลยค่ะ
ไม่มีบัตรประชาชน ทำใบขับขี่ได้ไหม
สำหรับเอกสารที่ต้องใช้ในการขอใบอนุญาตขับรถ หรือการทำใบขับขี่ รวมถึงการต่ออายุใบขับขี่นั้น ต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้
- บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริง)
- ใบรับรองแพทย์ อายุไม่เกิน 1 เดือน (เฉพาะผู้ขอรับใบขับขี่ใหม่ ใบขับขี่ส่วนบุคคลชั่วคราวขาดเกิน 1 ปี และ 3 ปี รวมทั้งใบขับขี่ส่วนบุคคลขาดเกิน 3 ปี)
- ใบขับขี่ใบเดิมที่หมดอายุ (ตัวจริง) สำหรับผู้ที่จะต่อใบขับขี่
แม้ว่าเอกสารในการทำใบขับขี่มีเพียงไม่กี่อย่าง แต่สิ่งที่สำคัญและขาดไม่ได้คือ บัตรประชาชนตัวจริงเท่านั้น เพราะในการทำใบขับขี่หรือต่อใบขับขี่ ต้องใช้บัตรประชาชนตัวจริงเสียบเข้าเครื่องอ่าน (Smart Card Reader) เพื่อดึงฐานข้อมูลในระบบทะเบียนราษฎร เช่น ชื่อและที่อยู่ ซึ่งทางกรมการขนส่งทางบกไม่สามารถอนุโลมให้ใช้สำเนาบัตรประชาชน หรือใบแทนอื่นๆ มาใช้แทนบัตรประชาชนได้ ดังนั้นในกรณีที่บัตรประชาชนหาย หรือชำรุด จะต้องดำเนินการทำบัตรใหม่ที่สำนักงานเขตให้เรียบร้อยเสียก่อน จึงจะสามารถยื่นเอกสารขอรับใบขับขี่ได้อย่างถูกต้องตามขั้นตอน
ขั้นตอนทำใบขับขี่ในช่วงโควิด-19
ในช่วงที่สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง ทางกรมการขนส่งทางบก็ได้เปิดให้บริการด้านใบอนุญาตขับรถและผู้ประจำรถ โดยปรับรูปแบบการดำเนินการเป็นแบบ New Normal ภายใต้การดำเนินการตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยผู้ที่จะต่ออายุใบขับขี่จะต้องทำการจองคิวสอบใบขับขี่ หรือต่อใบขับขี่ผ่านทางแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue ของกรมการขนส่งทางบก โดยผู้ที่จองคิวเรียบร้อยแล้ว สามารถตรวจสอบสิทธิได้ที่เว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th/checkbooking
- จองคิวขอทำใบขับขี่ผ่านแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue
- นำเอกสารสำหรับการทำใบขับขี่มาให้พร้อมในวันนัด
- บัตรประชาชนตัวจริง
- ใบรับรองแพทย์ อายุไม่เกิน 1 เดือน (เฉพาะผู้ขอรับใบขับขี่ใหม่ ใบขับขี่ส่วนบุคคลชั่วคราวขาดเกิน 1 ปี และ 3 ปี รวมทั้งใบขับขี่ส่วนบุคคลขาดเกิน 3 ปี)
- ใบขับขี่เดิม (สำหรับผู้มาต่อใบขับขี่)
- หลักฐานการจองคิวออนไลน์ในแอปพลิเคชัน
- หลักฐานการผ่านการอบรมออนไลน์ (สำหรับผู้ต่อใบขับขี่ที่อบรมออนไลน์)
- ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
- ทดสอบตาบอดสี โดยบอกการมองเห็นสัญญาณไฟ (แดง เขียว เหลือง)
- ทดสอบสายตาในการมองทางลึก โดยให้ปรับความขนานของเสา 2 แท่งให้เท่ากัน
- ทดสอบปฏิกิริยาทางเท้า หรือการตอบสนองต่อการเหยียบเบรก
- ทดสอบสายตาในการมองทางกว้าง ด้วยการมองสีสัญญาณไฟด้วยหางตา
- อบรมเกี่ยวกับกฎจราจร การขับขี่รถยนต์ ประมาณ 1 ชั่วโมง (สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้อบรมออนไลน์)
- สอบข้อเขียนและสอบปฏิบัติ (สำหรับผู้ทำใบขับขี่ใหม่)
- ถ่ายรูปและชำระเงินค่าธรรมเนียมจำนวน 505 บาท
สำหรับการดำเนินการด้านใบขับขี่ในยุค New Normal นี้ ต้องมีการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด คือ การสวมใส่หน้ากากอนามัย และการเว้นระยะห่างทางสังคม นอกจากนี้ควรแต่งกายให้สุภาพขณะมาติดต่อราชการ
เมื่อได้ทราบกันไปแล้วว่าหากไม่มีบัตรประชาชน จะไม่สามารถทำใบขับขี่ หรือต่อใบขับขี่ได้ ดังนั้นหากใครที่ทำบัตรประชาชนหาย ควรรีบดำเนินเรื่องขอทำบัตรประชาชนใหม่ เพื่อความสะดวกในการทำใบขับขี่ และเพื่อความสะดวกในการทำธุรกรรมอื่นๆ นั่นเอง
สนใจสมัครประกันรถยนต์
สำหรับใครที่มีใบขับขี่แล้ว ก็ขอให้ขับรถอย่างปลอดภัย ไม่ประมาท เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ โดยสามารถทำประกันรถยนต์เพื่อเพิ่มความคุ้มครองให้แก่ตนเองและคู่กรณี เพียง คลิกที่นี่ หรือโทร.มาพูดคุยสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์มาเป็นเพื่อนกับเราที่ @masii เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากมาสิได้เลยค่ะ