รู้หรือไม่ว่า “คาร์ซีท” (Car Seat) หรือเบาะนั่งนิรภัย นั้นมีประโยชน์มากมายสำหรับเด็กตั้งแต่อายุแรกเกิด จนถึง 12 ปี เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดโอกาสบาดเจ็บรุนแรงหรือลดความเสี่ยงการเสียชีวิตได้หากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยคาร์ซีทนั้นจะช่วยรองรับสรีระของเด็ก โดยเฉพาะช่วงศีรษะ คอ และหลัง ไม่ให้ถูกกระทบกระเทือนจากแรงกระแทก ซึ่งคาร์ซีทนั้นก็มีหลากหลายประเภทออกไป แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ควรเลือกคาร์ซีทแบบไหนดี วันนี้ masii เลยได้นำวิธีเลือกคาร์ซีท มาฝากกัน เพื่อการใช้งานอย่างถูกต้องเหมาะสม และเพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยที่คุณรัก
วิธีเลือกคาร์ซีท ให้เหมาะกับลูกน้อย
ด้วยความที่ปัจจุบันมีคาร์ซีทให้เลือกหลากหลาย ทั้งยี่ห้อ และคาร์ซีทประเภทต่างๆ ซึ่งก่อนที่เราจะเลือกซื้อคาร์ซีทก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับเด็กมากที่สุด โดยดูจากขนาด น้ำหนักตัว ส่วนสูง และอายุของลูก ถ้าจะให้ดีควรนำลูกไปลองนั่งจริงก่อนซื้อด้วย ซึ่งคาร์ซีท มีการแบ่งประเภทต่างๆ ดังนี้
ประเภทของคาร์ซีท
1. คาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ (Rearward-facing baby seat)
คาร์ซีทแบบนั่งหันหน้าเข้าหาเบาะนี้ เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดไปจนถึงอายุ 2 ปี เนื่องจากเด็กในวัยนี้ กระดูกคอและกระดูกสันหลังยังไม่แข็งแรงพอที่จะรับแรงกระแทก ซึ่งการที่ติดตั้งคาร์ซีทหันหน้าเข้าหาเบาะหลังของรถยนต์จะช่วยลดแรงกระแทกเวลาเบรกกระทันหันหรือเกิดการชนขึ้นมานั่นเอง
2. คาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางหน้ารถ (Forward-facing child seat)
สำหรับคาร์ซีทแบบนั่งหันหน้าไปทางหน้ารถ จะติดตั้งติดกับเบาะหลัง แล้วหันหน้าไปด้านหน้าเช่นเดียวกับเบาะรถปกติ ซึ่งเหมาะสำหรับเด็กอายุ 2-11 ปี หรือสำหรับเด็กที่มี่น้ำหนักและส่วนสูงตามที่กำหนดไว้
3. คาร์ซีทแบบผสม (Combination seat)
คาร์ซีทแบบผสม หรือคาร์ซีทที่สามารถปรับหันได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี โดยในช่วงวัยทารกถึงประมาณ 2 ปีควรติดตั้งให้คาร์ซีทหันเข้าหาเบาะ จากนั้นเมื่อเด็กเริ่มโตขึ้น สามารถเกร็งคอและทรงตัวนั่งได้ดีแล้ว ก็ให้ปรับคาร์ซีทหันไปด้านหน้ารถตามปกติ เรียกว่าเป็นคาร์ซีทที่ซื้อหนึ่งได้ถึงสอง ช่วยประหยัดงบได้มาก ใช้ได้นานหลายปี แต่ผู้ปกครองก็ควรศึกษารายละเอียดอีกครั้ง
4. คาร์ซีทแบบมีพนักพิงด้านหลัง (High-backed Booster Seat)
สำหรับคาร์ซีทแบบมีพนักพิงด้านหลัง เหมาะสำหรับเด็กที่โตขึ้นมาอีกหน่อย อายุตั้งแต่ 4-12 ปี โดยคาร์ซีทแบบนี้จะมีพนักพิงด้านหลังและเบาะเสริม ช่วยให้นั่งสบายมากขึ้น ช่วยให้เด็กปรับตัวได้ง่ายก่อนที่จะเปลี่ยนไปนั่งเบาะรถยนต์และใช้เข็มขัดนิรภัยในรถได้แบบผู้ใหญ่
วิธีเลือกคาร์ซีท ให้เหมาะสมกับลูกน้อย
การเลือกคาร์ซีทให้เหมาะสมและคุ้มค่ากับการใช้งาน นอกจากจะเลือกคาร์ซีทตามประเภทที่เหมาะสมกับขนาดตัว ส่วนสูง น้ำหนัก และอายุของเด็กแล้ว ก็ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ ที่ต้องดูเปรียบเทียบกันด้วย ดังนี้
- เข็มขัดนิรภัย ของคาร์ซีทควรมีมาตรฐาน โดยควรเลือกคาร์ซีทที่มีเข็มขัดนิรภัยแบบ 5 จุด จะปลอดภัยมากกว่าแบบที่มี 3 จุด
- เลือกคาร์ซีทที่มีมาตรฐานความปลอดภัย โดยดูว่าคาร์ซีทผลิตจากที่ใด ได้รับมาตรฐานจากแหล่งที่น่าเชื่อถือหรือไม่ เช่นที่ Federal Motor Vehicle Safety Standard 213 ของประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น
- ซื้อคาร์ซีทใหม่ปลอดภัยกว่า เพราะว่าเป็นคาร์ซีทที่เพิ่งผลิตและยังไม่ได้ใช้งาน แต่หากจำเป็นต้องซื้อคาร์ซีทมือสอง ก็ควรเลือกดูให้ดีๆ สังเกตชิ้นส่วนต่างๆ ว่าไม่มีสิ่งไหนชำรุดเสียหาย หรือเคยประสบอุบัติเหตุมาก่อนหรือไม่ เพราะอาจส่งผลต่อการทำงานได้
- ราคา ข้อนี้ควรพิจารณาเปรียบเทียบให้ดีๆ โดยเลือกคาร์ซีทที่ไม่ลำบากงบในกระเป๋ามากจนเกินไป เพราะราคาจะถูกหรือแพงก็ไม่สามารถบ่งชี้ความมีคุณภาพของคาร์ซีทได้ อย่างไรก็ควรตรวจสอบให้ดีๆ ทั้งรูปแบบการใช้งาน วัสดุที่ใช้ ไปจนถึงระบบนิรภัย ว่าปลอดภัยกับลูกน้อยเราหรือไม่
การเลือกคาร์ซีทที่ดี ควรเลือกตามความเหมาะสม ทั้งขนาดตัวของเด็ก น้ำหนัก ส่วนสูง และช่วงวัย ทั้งนี้ควรศึกษาคู่มือการใช้งานอย่างละเอียด เพราะคาร์ซีทแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ อาจมีข้อกำหนดที่แตกต่างกัน แต่ที่สำคัญเลยก็คือคุณพ่อคุณแม่ก็ควรขับรถอย่างระมัดระวัง ไม่ประมาท และถ้าจะให้ดีมาสิแนะนำว่าควรทำประกันรถยนต์ไว้ด้วย หากเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุฉุกเฉินก็ยังมั่นใจได้ว่าจะได้รับความคุ้มครองจากประกันรถยนต์นั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นเงินชดเชยค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาล ซึ่งวงเงินความคุ้มครองที่ได้รับก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทของประกันรถยนต์
สนใจสมัครประกันรถยนต์
ทั้งนี้คุณสามารถ คลิกที่นี่ เพื่อเปรียบเทียบประกันรถยนต์ได้ก่อนใคร หรือจะโทร.มาพูดคุยสอบถามกับมาสิที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์มาเป็นเพื่อนกับเราที่ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันรถยนต์ ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ประกันบิ๊กไบค์ หรือสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิตประเภทต่างๆ ได้เลยค่ะ (^_^)