สินเชื่อส่วนบุคคล

ต้องบอกเลยว่า “ธุรกิจคาร์แคร์” เป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัว จึงทำให้ร้านคาร์แคร์เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อชีวิตคนกรุงเป็นอย่างมาก และด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นนี่เอง ทำให้ใครหลายคนสนใจอยากทำธุรกิจคาร์แคร์กันมากขึ้น วันนี้ masii เลยได้นำข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับการเปิดร้านคาร์แคร์มาฝากกัน จะมีขั้นตอนอย่างไร และต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ตามมาสิไปดูกันเลย อยากทำธุรกิจคาร์แคร์ เริ่มต้นอย่างไรดี การจะทำธุรกิจคาร์แคร์นั้น แน่นอนว่าเรื่องเงินทุน ถือเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญมากๆ ซึ่งร้านคาร์แคร์ในทุกวันนี้ก็มีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นคาร์แคร์เล็กๆ ร้านล้างรถแบบง่ายๆ ที่ลงทุนไม่กี่หมื่น ไปจนถึงร้านคาร์แคร์ครบวงจรที่ลงทุนหลายล้านบาท โดยการจะเริ่มต้นทำร้านคาร์แคร์นั้น มีขั้นตอนและวิธีการดำเนินการ ดังต่อไปนี้ 1. ดูเงินทุนในกระเป๋า แน่นอนว่าการทำธุรกิจต้องมีเงินทุน ซึ่งนอกจากจะต้องมีทุนสำหรับการเปิดร้านคาร์แคร์แล้ว อย่าลืมคำนึงถึงพวกค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วย เช่น ค่าเช่าที่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแรงพนักงาน...

หลายคนคงคิดว่าเงินฝากที่เรามีอยู่ในบัญชีออมทรัพย์ หรือในบัญชีเงินเดือนของเรานั้นจะเพียงพอต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งในความเป็นจริงก็อาจจะเพียงพอหรือไม่พอก็ได้สำหรับชีวิตมนุษย์เงินเดือน เพราะเรื่องการเจ็บป่วยมักเป็นเรื่องที่เราไม่รู้เรื่องหน้ามาก่อน รวมไปถึงการเกิดอุบัติเหตที่ทำให้เราอาจะต้องใช้เงินด่วนสำหรับค่าซ่อมแซม หรือค่ารักษาพยาบาล ซึ่งเงินเก็บของเราก็อาจจะต้องนำออกมาใช้ในตอนนี้นี่เอง หรือบางทีก็ต้องหมุนเวียนเงินจากที่อื่นมาใช้ ซึ่งถ้าหากเราหมุนเงินไม่ทัน อย่าลืมครับว่ามีตัวช่วยอย่างบัตรกดเงินสดที่จะช่วยให้เราหมุนเวียนเงินมาใช้ได้ตลอดเวลา หมุนเงินไม่ทัน บัตรกดเงินสดช่วยได้ เพราะบัตรกดเงินสดนั้นสามารถกดเงินได้ตลอด 24 ชั่วโมง อย่างที่ทราบกันดีบัตรกดเงินสดนั้นมีลักษณะพิเศษนั่นคือสามารถนำไปกดเงินสดได้ที่ตู้ ATM ตลอด24 ชั่วโมงทุกสาขาทั้วประเทศโดยจำนวนเงินที่กดออกมานั้นจะเป็นวงเงินที่ทางสถาบันทางการเงินหรือทางธนาคารได้อนุมัติให้เรา โดยส่วนใหญ่แล้วจะได้ 5 เท่าของรายได้นั่นเองครับ ซึ่งสำคัญมานั่นคือเมื่อเรากดเงินสดออกมาแล้ว ทุกสิ้นเดือนหรือตามรอบบิลของบัตรกดเงินสดนั้นเราจะต้องชำระยอดเงินที่กดออกมา หรือขั้นต่ำ 3-5% ตามแต่บัตรใบนั้นได้กำหนดไว้ เตรียมเอกสารให้ครบสมัครได้ง่าย เพื่อให้ทุกคนได้รับการอนุมัติบัตรกดเงินสดอย่างรวดเร็วนั้นสิ่งสำคัญอยู่ที่เอกสารการสมัครครับ ซึ่งหากเราเตรียมได้ครบ การขออนุมัติก็จะใช้เวลาตรวจสอบไม่นานและเราก็จะได้บัตรกดเงินสดมาใช้ในยามฉุกเฉินนั่นเอง สมัครสินเชื่อส่วนบุคคลใช้เอกสารดังต่อไปนี้ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาบัตรข้าราชการ (กรณีที่มี) สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 3 เดือน...

ในช่วงเวลาที่เราต้องการเงินนั้นเราจะมองหาสินเชื่อ หรือขอสินเชื่อส่วนบุคคลจากทางธนาคารและสถาบันทางการเงินต่างๆ ซึ่งแน่นอนครับ ว่าต้องมีการขอเอกสารต่างๆเพื่อยืนยันตัวตนและขอเอกสารเพื่อพิสูจน์ว่าเรามีความสามารถในการชำระหนี้ หากเรามีคุณสมบัติครบและทางธนาคารหรือสถาบันทางการเงินพิจารณาแล้วว่าจ่ายหนี้ตรงวลาไม่หนีหนี้ก็จะอนุมัติให้ผ่านได้ง่ายๆ แต่ถ้าเราได้รับการอนุมัติผ่านแล้ว และเราดันชำระหนี้ช้าหรือพยายามเบี้ยวหนี้เนี่ยเราจะเป็นยังไงนะ ขอสินเชื่อง่าย ชำระหนี้ยาก จะเป็นยังไง วินัยในการชำระหนี้คือสิ่งจำเป็นสำหรับคนที่มีสินเชื่ออยู่ในมือ สมมุติว่าเราไปยืมเงินเพื่อนแล้วเราไม่คืนเงิน ก็คงไม่ดีแน่ และเช่นเดียวกันครับ หากเราไปขอสินเชื่อส่วนบุคคล หรือขออนุมัติสินเชื่อ หรือแม้แต่บัตรกดเงินสดก็เช่นเดียวกัน อันนี้ผมหมายรวมไปถึงบัตรเครดิตด้วยนะครับ หากครบกำหนดชำระแล้ว เราไม่ได้ไปชำระหรือผิดหนี้เบี้ยวหนี้ ปัญหาหลายๆอย่างจะตามมา อาทิ ถูกเก็บค่าธรรรมเนียมในการทวงหนี้เพิ่ม หรือค้างชำระหนี้เกิน 3 เดือน เป็นต้นไป จะทำให้สถาบันการเงินพิจารณาเรื่องการให้ยืมสินเชื่อในครั้งต่อไป และอาจจะทำให้ ทำธุรกรรมยากขึ้น ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดที่ควรมีหากเรามีสินเชื่ออยู่ในมือนั่นก็คือ วินัยในการชำระหนี้ครับ เพราะหากไม่แล้วความน่าเชื่อถือของเราก็จะสูญเสียไปด้วยนั่นเอง ซึ่งหากแยกตามขั้นตอนระดับการทวงหนี้นั้นจะได้ดังนี้ โดนตามทวงหนี้เพื่อให้ชำระหนี้สิน หากถึงเวลาชำระหนี้ แล้วเราเบี้ยวไม่ชำระหนี้ตามยอดที่แจ้งในบิลแจ้งหนี้ ไม่ว่าจะเป็นการไม่จ่ายหนี้ยอดชำระขั้นต่ำ หรือการไม่จ่ายหนี้ยอดชำระเต็มจำนวนก็ตาม แน่นอนว่าเราจะโดนตามทวงเรื่องหนี้เป็นอันดับแรกที่สถาบันการเงิน...

ในวันที่เราร้อนเงิน หรือในวันที่เราต้องการเงินด่วนนั้น แน่นอนว่าหลายต่อหลายคนคงหันไปพึ่งพาการขอสินเชื่อจากทางสถาบันทางการเงินและธนาคารกันอย่างมาก และในทุกเดือนนั้นหลังจากที่เรากดเงินออกมาใช้เมื่อผ่านการอนุมัติแล้ว หรือถอนเงินจากเงินที่ได้จากการอนุมัติสินเชื่อนั้น เราก็ต้องชำระค่างวดสินเชื่อต่างๆ เป็นธรรมดา บางคนก็ชำระเต็มจำนวน บางคนก็ชำระเท่าที่เกินข้อกำหนดแต่ไม่เต็มจำนวน และบางคนก็ชำระเฉพาะขั้นต่ำ แล้วถ้าเป็นแบบนี้ เราจะชำระแบบไหนดีนะ กู้สินเชื่อมา จ่ายขั้นต่ำ จ่ายเต็ม แบบไหนดีกว่า อันนี้ต้องบอกเลยว่าการจ่ายสินเชื่อขั้นต่ำนั้น "ไม่ควรทำ" หากเรากดเงินจากบัตรกดเงินออกมาใช้นั้นทุกสิ้นเดือนเราต้องเสียค่างวดบัตรกดเงินสดหรือชำระหนี้บัตรกดเงินสด หลายๆคนนั้นชำระเงินเดต็มจำนวนซึ่งถือว่าดีครับ แต่ก็มีบางกรณีที่ทำให้เราไม่สามารถจ่ายเต็มจำนวนได้เช่นกัน เพราะถึงแม้ชำระขั้นต่ำเพียง 3% ของยอดที่เรียกเก็บ แต่ไม่ต่ำกว่า 300-500 บาท ตามแต่ข้อกำหนดของแต่ละเจ้านั้น ถ้าหากเราจ่ายขั้นต่ำไปเรื่อยๆ เราจะจ่ายหนี้บัตรกดเงินสดหมดก็จริง แต่ระยะเวลาจะนานกว่าที่คิดไว้ ถ้าหากจำเป็นจริงๆ ที่จะต้องจ่ายขั้นต่ำตามที่กดหนดไว้เราก็อาจจะชำระเกินยอดขั้นต่ำสักเล็กน้อย เพราะดอกเบี้ยก็จะน้อยตามและทำให้เราปิดหนี้บัตรกดเงินสดนั้นๆ ได้อย่างเร็วขึ้นกว่าที่คิดไว้อีกด้วย แต่สิ่งสำคัญนั่นก็คือเราต้องวางแผนการใช้เงินดีๆ นั่นเองครับ วิธีการที่จะปลดหนี้ได้เร็วที่สุด สำหรับใครที่ใช้บัตรกดเงินสดจนต้องจ่ายด้วยการจ่ายแบบขั้นต่ำนั้นแน่นอนว่าต่อให้จ่ายต่อเดือนเป็นจำนวนที่จ่ายไหวนั้น...

อย่างที่เคยบอกไปในบาทความก่อนหน้านี้ ที่ได้บอกว่า สินเชื่อส่วนบุคคลนั้นมีอยู่หลายประเภท และหากแบ่งตามระยะเวลา จะแบ่งสินเชื่อได้ออกเป็น สามระยะ ซึ่งได้แก่ สินเชื่อระยะสั้น สินเชื่อระยะกลาง สินเชื่อระยะยาว แน่นอนว่าหลายๆคนคงกำลังมองหาสินเชื่อระยะสั้น เพราะหลายคนนั้นคงคิดว่าจะได้เงินมาใช้อย่างเร็ว แต่ สินเชื่อระยะสั้น อันตรายหรือเปล่านะ สินเชื่อระยะสั้น อันตรายหรือเปล่านะ ไม่อันตรายถ้าอยู่ในระบบ สำหรับสินเชื่อระยะสั้นนั้น เป็นสินเชื่อที่มีอายุไม่เกินหนึ่งปี เช่น สินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อการค้า ตัวเงินคลัง และตราสารพาณิชย์เป็นต้น ตามที่่เคยได้บอกไป แต่อย่าลืมนะครับ ว่าตามปกติแล้วจะเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลที่อยู่ในระบบ หรืออยู่ภายใต้กฏหมายนั่น ซึ่งแน่นอนว่าในการขอสินเชื่อส่วนบุคคลและขอบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดที่ทำจากสถาบันทางการเงิน และธนาคารนั้นไว้วางใจได้ และจะไม่อันตรายอย่างสินเชื่อนอกระบบแน่นอนครับ ที่พูดเช่นนี้เพราะมี กลโกงและเล่ห์เหลี่ยมจากสินเชื่อนอกระบบ ที่ติดประกาศตามเสาไฟฟ้า หรือรถสองแถวว่า "สินเชื่อระยะนั้นรอรับได้เลย" หรืออะไรประมาณนี้...

เคยสงสัยกันหรือเปล่าครับว่าก่อนที่เราจะยื่นขอกู้สินเชื่อส่วนบุคคล หรือขออนุมัติสินเชื่อส่วนบุคคลนั้น สินเชื่อส่วนบุคคลจริงๆแล้วมีกี่ประเภทกันแน่ วันนี้เราจะมาดูกันว่า สินเชื่อแบ่งตามระยะเวลา มีกี่ประเภท และแตกต่างกันแบบไหน สินเชื่อแบ่งตามระยะเวลา มีกี่ประเภท สินเชื่อจริงๆแล้วแบ่งเป็นกี่ประเภท ก่อนที่เราจะรู้จักประเภทของสินเชื่อต่างๆที่แบ่งตามระยะเวลานั้น เราต้องมารู้กันก่อนครับ ว่าสำหรับตัวสินเชื่อจริงๆแล้วนั้นถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภทอยู่ ซึ่งได้แก่ สินเชื่อที่แบ่งตามระยะเวลา , สินเชื่อที่แบ่งตามวัตถุประสงค์ , สินเชื่อที่แบ่งตามผู้ขอสินเชื่อ , สินเชื่อที่แบ่งตามผู้ให้สินเชื่อ และสุดท้ายจะเป็นสินเชื่อที่แบ่งตามหลักประกันสินเชื่อครับ แต่หากให้อธิบายหมดคงอ่านจนเบื่อแน่นอน ดังนั้นเราจะพูดถึง สินเชื่อแบ่งตามระยะเวลา ว่ามีกี่ประเภท สินเชื่อระยะสั้น สำหรับสินเชื่อที่เป็นสินเชื่อระยะสั้นนั้น ว่าตามตรงแล้วจะมีลักษณะเป็นสินเชื่อที่มีอายุไม่เกินหนึ่งปี เช่น สินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อการค้า ตัวเงินคลัง และตราสารพาณิชย์เป็นต้น สินเชื่อระยะกลาง สำหรับสินเชื่อระยะกลางนั้นเราจะสังเกตุได้จากระยะเวลา เพราะจะเป็นสินเชื่อที่มีอายุชัดเจน 1-5 ปี เป็นต้น ซึ่งสังเกตุได้จากการผ่อนครับ...

เคยเป็นแบบนี้หรือเปล่าช่วงที่เราต้องการเงินด่วน เรามักจะตาดี มองไปเห็นประกาศที่ติดไว้ตามรถสองแถว ว่ามีสินเชื่อเงินด่วนกู้ได้รอผลเลย หรือแม้แต่เป็นสินเชื่อระยะสั้น รู้ผลทันที ซึ่งแน่นอนครับ ว่าเราต้องมีความสนใจแน่นอนเพราะเราอยากจะเงินอยู่แล้ว แถมยังเป็นการกู้เงินด่วนอีกด้วย ซึ่งหากเราตัดสินใจทำลงไป ต้องระวังว่าจะเป็นสินเชื่อนอกระบบให้ดีนะครับ อยากได้เงินกู้ เงินด่วน ต้องระวังสินเชื่อนอกระบบให้ดี จุดสังเกตของสินเชื่อนอกระบบ สำหรับสินเชื่อนอกระบบนั้นเราสามารถสังเกตได้ง่ายๆ จะได้ไม่หลงกลไปทำ นั่นก็คือเป็นสินเชื่อที่กู้ง่าย ง่ายมากสำหรับหรับบางที่ เป็นสินเชื่อที่ใช้เอกสารน้อย หรือในบางที่ไม่ใช้เอกสารเลย ใช้ระยะเวลาเป็นเครื่องจูงใจในการสมัคร เช่น สามารถขอและได้เงินด่วนภายใน 30 นาที หรือได้สินเชื่อภายในหนึ่งชั่วโมง แต่หลายๆคนคงหลงลืมไปว่า เมื่อมีการอนุมัติเร็ว และไม่ตรวจสอบเอกสารอะไรเลย มักจะมีเรื่องไม่ดีตามมาแน่ เช่นในการตามทวงหนี้ ที่จะทวงแบบไม่เกรงกลัวกฏหมาย หรือการคิดดอกเบี้ยรายวันที่มีความโหดร้ายกับลูกหนี้ ซึ่งในส่วนนี้จะแตกต่างกับสินเชื่อในระบบอย่างสิ้นเชิง เพราะเริ่มจากการขอเอกสาร ที่จะขอเอกสารยืนยันรายได้เยอะมาก อาทิสลิปเงินเดือน...

เคยรู้สึกหรือเปล่าเวลาที่เราเงินช็อต เงินขาด หรือมีความจำเป็นต้องใช้เงิน เราก็พยายามขวนขวายหาเงินซึ่ง บางทีอาจจะไปกู้ยืมเงินจากสินเชื่อนอกระบบ จนลืมไปว่าสินเชื่อส่วนบุคคลในระบบเองก็มีเช่นเดียวกัน แต่หลายคนกลับกลัวการสมัครสินเชื่อส่วนบุคคลในระบบ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ใช้เอกสารเพียงไม่กี่อย่าง และหากไม่มีประวัติการชำระล่าช้า ก็จะสมัครผ่านได้ง่ายมากๆครับ ซึ่งหากเรามีสินเชื่อส่วนบุคคลแล้ว เราก็จะมีเงินสำรองมาใช้อีกด้วย หากอยากสมัครสินเชื่อส่วนบุคคล กลัวอะไร สมัครเลย อยากสมัครสินเชื่อส่วนบุคคล กลัวอะไร สมัครเลย เตรียมเอกสารในการสมัครสินเชื่อ หรือเอกสารสมัครบัตรกดเงินสด สำเนาบัตรประชาชน สำเนาบัตรข้าราชการ (กรณีที่มี) สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 3 เดือน หรือ 6 เดือนสำหรับ อาชีพที่มีรายได้ไม่แน่นอน สำเนาหน้าแรกของสมุดบัญชีธนาคาร ประเภทออมทรัพย์ของผู้สมัคร Statement...

เหนื่อยกันหรือเปล่าครับที่เมื่อครบเดือนเราจะต้องมานั่งลิสต์ว่าต้องจ่ายหนี้ทั้งหมดกี่กอง กองละเท่าไร หนี้เรามีอะไรบ้างตัวไหนต้องรีบจ่าย ตัวไหนจ่ายช้าได้ และจะเหนื่อยหน่อยนะครับหากเรามีบัตรเครดิตมากกว่าหนึ่งใบเพราะในหนี้บัตรเครดิตแต่ละใบนั้นก็คิดยอดขั้นต่ำ 10% แล้ว ซึ่งหากสองใบรวมกันก็ทวีคูณขึ้น จบปัญหาหนี้หลายกอง ด้วยสินเชื่อส่วนบุคคล รวมทุกหนี้ ให้เหลือกองเดียวจะได้ไม่เหนื่อย หากว่างๆลองลิสต์จำนวนหนี้ดูครับ ว่าหนี้ที่อยู่ในมือเรานั้นมีอะไรบ้าง มีหนี้บัตรเครดิตจำนวนกี่ใบ และมีหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลตัวอื่นหรือเปล่า หรือหนี้นอกระบบบ้างหรือไม่ ถ้ามีมากกว่าหนึ่งคำตอบเดียวสั้นๆของเราคือการ “รวมหนี้” เพราะรองคิดดูครับว่าหากเรามีหนี้บัตรเครดิตหลายใบ ตกต่อใบอย่างต่ำ ต้องเสียเงินขั้นต่ำ 10% หากมี 3ใบ เท่ากับเราต้องจ่ายค่าชำระรายเดือนขั้นต่ำจากยอดจริง 10%+10%+10% =30% เหนื่อยหรือเปล่าครับ เหนื่อยแน่ๆ ซึ่งนั่นหมายถึงภาระค่าใช้จ่ายของคุณที่จะเพิ่มมากยิ่งขึ้นเป็นเท่าตัว นี่ยังไม่นับกับหนี้สินเชื่อนอกระบบนะครับ ที่หากเรามีหรือเราไปเผลอกู้ยืมใครมา เราเหนื่อยแน่นอน ใช้สินเชื่อส่วนบุคคลรวมหนี้หลายก้อนให้เหลือก้อนเดียว ในการขออนุมัติสินเชื่อส่วนบุคคลนั้นหากได้รับการอนุมัติผ่าน เราจะได้รับวงเงินที่มากถึง 5 เท่าของรายได้...

วันนี้เราจะมาพูดถึงสิ่งๆหนึ่ง ที่ทุกคนจะต้องพกในกระเป๋าสตางค์ครับ ซึ่งสิ่งนั้นก็คือบัตรประชาชนของเรานั่นเอง หลายคนคงพกไว้เพื่อไว้ใช้ตอนถ่ายเอกสารสมัครงาน หรือใช้เพื่อแลกบัตรเข้าอาคารสำนักงานต่างๆ หรือแม้แต่ใช้แทนบัตรบางใบที่ทำหายไป แต่ทราบหรือเปล่าครับว่าบัตรประชาชนเรานั้นมีประโยชน์อะไรบ้าง ประโยชน์ของบัตรประชาชนมีอะไรบ้าง สำหรับบัตรประชาชนหรือบัตรประจำตัวประชาชนมีประโยชน์หลักในด้านติดต่อธุรกิจและติดต่อทางราชการครับ อาทิ การใช้บัตรประชาชนในการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร หรือการรับเงินธนาณัติ นอกจากนี้ยังใช้บัตรประชาชนกับทางธนาคาร เช่นการฝากเงินและถอนเงินธนาคาร การแจ้งความ รวมไปถึงการสมัครงานสถานที่ต่างๆ อีกด้วย หากบัตรประชาชนของเราหาย ถ้าเกิดเราทำบัตรประชาชนของเราหาย หลายคนคงคิดว่าเราต้องแจ้งความทันที แต่ในความเป็นจริงนั้นไม่ต้องไปแจ้งความ แต่เราสามารถไปทำใหม่ที่สำนักงานเขตได้เลยสำหรับการขอทำบัตรประชาชนใบใหม่นั้นต้องทำภายใน 60 วันและมีค่าธรรมเนียม 20 บาท ซึ่งหากเกินกำหนดจะต้องเสียค่าธรรมเนียม 100 บาท เพราะฉะนั้นถ้ารู้ตัวว่าทำบัตรประชาชนหาย เราก็ควรรีบไปทำบัตรประชาชนใบใหม่ทันที เอกสารต้องเตรียมอะไรบ้าง ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน เอกสารที่มีรูปถ่ายของผู้ขอมีบัตรใหม่ที่ทางราชการออกให้ เช่น ใบอนุญาตขับขี่ หลักฐานการศึกษา หรือหนังสือเดินทาง หากไม่มีหลักฐานเหล่านั้น...