เปรียบเทียบประกันรถยนต์ออนไลน์ ให้คุ้มค่า

เปรียบเทียบ ประกันรถยนต์ออนไลน์ ให้คุ้มค่า
สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

ต้องบอกเลยว่า ประกันรถยนต์ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นต่อผู้ขับขี่รถยนต์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพราะช่วยให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกัน และคู่กรณี ในกรณีที่รถยนต์ประสบอุบัติเหตุ หรือแม้แต่กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินต่อรถของผู้เอาประกัน เช่น รถหาย ไฟไหม้รถ น้ำท่วมรถ เป็นต้น แต่ทว่าบริษัทที่รับประกันนั้นมีค่อนข้างมาก ทำให้ผู้ซื้อต้องทำการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ให้ดีๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ เบี้ยประกัน และความคุ้มครองต่างๆ วันนี้ masii ก็มีเทคนิคดีๆ ในการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ออนไลน์ ให้คุ้มค่า มาฝากกันแล้ว ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง

เปรียบเทียบประกันรถยนต์ออนไลน์ ให้คุ้มค่า

เปรียบเทียบ ประกันรถยนต์ออนไลน์ ให้คุ้มค่า

สมัยนี้มีหลายบริษัทประกันและโบรคเกอร์ที่สามารถเปรียบเทียบประกันรถยนต์ออนไลน์บนหน้าเว็บไซต์ เช่นเดียวกับ masii (มาสิ) ซึ่งเป็นหนึ่งในเว็บไซต์เปรียบเทียบประกันรถยนต์ที่แสดงผลตัวเลือกหลากหลายและตรงใจกับลูกค้าหลายท่าน โดยหัวข้อที่เราควรเลือกพิจารณาเปรียบเทียบประกันรถยนต์ให้คุ้มค่า มีดังนี้

1. เช็คราคาเบี้ยประกันแต่ละบริษัท

เบี้ยประกันรถยนต์นอกจากจะแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทของประกันรถยนต์แล้ว แต่ละบริษัทก็มีราคาเบี้ยประกันต่างกันไป บ้างก็มีโปรโมชั่นส่วนลดต่างๆ ซึ่งเราควรเลือกเปรียบเทียบเบี้ยประกันรถยนต์จากหลายๆ บริษัทก่อน โดยดูจากประกันรถยนต์ประเภทเดียวกันว่าต่างกันมากน้อยแค่ไหน

2. มีค่าเสียหายส่วนแรกหรือไม่

ประกันรถยนต์บางแพ็คเกจอาจมีค่าเสียหายส่วนแรก หรือ Excess ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเองครั้งแรกเมื่อเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี หรือเมื่อเราเป็นฝ่ายผิดหรือเป็นฝ่ายประมาทร่วม แต่หากเราเป็นฝ่ายถูกก็ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก โดยส่วนใหญ่ค่าเสียหายส่วนแรกจะมีตั้งแต่ 1,000-5,000 บาท ซึ่งหากค่าเสียหายส่วนแรกสูงเท่าไร ค่าเบี้ยประกันรถยนต์ก็จะยิ่งถูกลงเท่านั้น

เปรียบเทียบ ประกันรถยนต์ออนไลน์ ให้คุ้มค่า

3. เปรียบเทียบทุนประกันของแต่ละที่

สิ่งสำคัญของการทำประกันรถยนต์ ก็คือทุนประกันที่คุ้มครองความเสียหายต่างๆ ต่อร่างกายและทรัพย์สิน ทั้งของผู้เอาประกันและคู่กรณี ซึ่งประกันรถยนต์แต่ละประเภทก็จะมีทุนประกันหรือวงเงินความคุ้มครองต่างกันไป เช่น ประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ประกันรถยนต์ชั้น 3+ เป็นต้น โดยเราควรเลือกเปรียบเทียบประกันรถยนต์ที่ให้ทุนประกันที่เหมาะสมกับสภาพรถยนต์ของเรา ยกตัวอย่างเช่น หากมีรถยนต์ป้ายแดง ก็ควรเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่มีทุนประกันสูงกว่าประกันรถยนต์ประเภทอื่นๆ เป็นต้น

4. ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ที่ได้รับ

นอกจากทุนประกันเป็นสิ่งที่ผู้ซื้อประกันรถยนต์ควรเลือกเปรียบเทียบแล้ว ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ประเภทต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเช่นกัน โดยลองนำมาเปรียบเทียบคู่กัน ว่าประกันรถยนต์ของบริษัทนี้ ทุนประกันของความคุ้มครองความเสียหายแต่ละอย่างมีมูลค่าเท่าไร เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ค่าประกันตัวผู้ขับขี่ รวมไปถึงความคุ้มครองความเสียหายอื่นๆ เช่น ค่าชดเชยรถหาย รถไฟไหม้ เป็นต้น

เปรียบเทียบ ประกันรถยนต์ออนไลน์ ให้คุ้มค่า

5. พิจารณาเงื่อนไขอื่นๆ

หลังจากที่เปรียบเทียบข้อมูลหลักๆ ไปแล้ว ก็ควรดูเงื่อนไขอื่นๆ เพิ่มเติมของประกันรถยนต์แต่ละบริษัทด้วย โดยบางบริษัทหรือประกันกันรถยนต์บางประเภทอาจมีเงื่อนไขยกเว้น หรือเงื่อนไขพิเศษเพิ่มเติม เช่น ประกันรถยนต์นี้รับเฉพาะรถยนต์ตรวจสภาพ ไม่รับรถอายุเกินกว่า 10 ปี ไม่รับรถแต่ง หรือดัดแปลงสภาพรถ รวมไปถึงดูเปรียบเทียบพวกบริการเสริมเพิ่มเติม เช่น บริการรถยก รถฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง หรือบริการรถใช้ระหว่างซ่อม เป็นต้น

และนี่ก็คือหัวข้อหลักๆ ที่เพื่อนๆ ควรเปรียบเทียบให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์ ซึ่งหากใครสนใจอยากทำประกันรถยนต์ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกประกันรถยนต์ประเภทไหนดีละก็ สามารถเลือกเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับทางเว็บไซต์มาสิได้ง่ายๆ เพียง คลิกที่นี่ จากนั้นทำการเลือกยี่ห้อรถยนต์ รุ่นและปีที่ผลิต เว็บไซต์จะแสดงข้อมูลของประกันรถยนต์แต่ละประเภทของแต่ละบริษัทมาใหคุณเลือกเปรียบเทียบตามต้องการ

เปรียบเทียบ ประกันรถยนต์ออนไลน์ ให้คุ้มค่า

สนใจสมัครประกันรถยนต์

regis-but
สนใจสมัคร!

หรือหากใครมีข้อสงสัย ก็สามารถติดต่อสอบถามกับทีมงานได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์มาที่ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประกันรถยนต์ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันบิ๊กไบค์ ประกันการเดินทาง ประกันสุขภาพ ประกันภัยโดรน รวมไปถึง สินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิตจากสถาบันการเงินชั้นนำได้เลยค่ะ

car insurance banner