วิธีขับรถลุยน้ำท่วม และวิธีดูแลรถหลังลุยน้ำ

วิธีขับรถลุยน้ำท่วม และวิธีดูแลรถหลังลุยน้ำ
วิธีขับรถลุยน้ำท่วม และวิธีดูแลรถหลังลุยน้ำ
สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

ในช่วงหน้าฝน นอกจากจะถนนจะเปียกลื่นเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายๆ แล้ว ถนนบางเส้นยังอาจมีน้ำท่วมขัง ยิ่งบางวันที่ฝนตกหนักๆ น้ำระบายไม่ทัน ทำให้น้ำท่วมสูงเลยก็มี ครั้นจะกลับรถเลี่ยงเส้นทางก็คงไม่ทันแล้ว คงต้องขับรถลุยน้ำจนกว่าจะถึงที่หมาย ยิ่งบางที่ที่ต้องขับรถลุยน้ำท่วมสูงมากๆ ก็อาจทำให้รถดับกลางทาง น้ำเข้ารถ หรือเกิดความเสียหายหนักขนาดเครื่องยนต์พังเลยก็มี แล้วอย่างนี้เราจะมีวิธีขับรถลุยน้ำท่วมอย่างไร และจะมีวิธีดูแลรถหลังลุยน้ำท่วมอย่างไรบ้าง เราไปหาคำตอบพร้อมกับ masii กันเลยค่ะ

วิธีขับรถลุยน้ำท่วม และวิธีดูแลรถหลังลุยน้ำ

วิธีขับรถลุยน้ำท่วม และวิธีดูแลรถหลังลุยน้ำ

เวลาฝนตกหนักทีไร ถนนหลายสายมักเกิดน้ำท่วมขัง ทำให้ผู้ขับขี่ต้องขับรถฝ่าน้ำท่วมลุยไป บางคนก็กลัวว่ารถจะดับไหม ควรขับอย่างไรไม่ให้รถพัง ว่าแล้วมาดูกันเลยว่ามีวิธีขับรถลุยน้ำท่วมอย่างไรให้ปลอดภัยบ้าง

วิธีขับรถลุยน้ำท่วม ให้ปลอดภัย

1. ปิดแอร์

รู้ไหมว่าขณะที่เราขับรถลุยน้ำแล้วเปิดแอร์รถยนต์ไว้ด้วยนั้น มีความเสี่ยงที่จะทำให้น้ำเข้าห้องเครื่อง และอาจทำให้รถดับได้ เพราะใบพัดจากพัดลมจะพัดน้ำจากพื้นถนนให้เข้ามาในห้องเครื่อง ทำให้ระบบรวนได้ง่ายๆ หรือใบพัดอาจพัดเศษขยะ กิ่งไม้เข้ามาทำให้ใบพัดแอร์เสียหายได้อีกด้วย ดังนั้นถ้าต้องขับรถลุยน้ำท่วมจึงควรปิดแอร์แล้วเปิดกระจกจะดีกว่า

2. ลดความเร็วลง

หากต้องขับรถลุยน้ำท่วม ควรขับรถช้าๆ เพราะเวลารถเคลื่อนที่ผ่านน้ำจะเกิดคลื่นน้ำ ยิ่งเวลามีรถสวนมา หรือหากขับรถเร็วก็จะยิ่งทำให้คลื่นน้ำสูงขึ้นจนน้ำอาจเข้ามาในเครื่องยนต์หรือภายในรถได้ นอกจากนี้การขับรถผ่านบริเวณน้ำท่วมจะควบคุมรถได้ยากกว่าปกติ จึงควรลดความเร็วรถให้อยู่ที่ประมาณ 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

วิธีขับรถลุยน้ำท่วม และวิธีดูแลรถหลังลุยน้ำ

3. อย่าเร่งเครื่องแรง

เวลาขับรถลุยน้ำ หลายคนอาจชอบเร่งเครื่องให้ผ่านพ้นเส้นทางนี้ไปเร็วๆ แต่รู้ไหมว่า ยิ่งเร่งเครื่องแรงมากเท่าไร กลับยิ่งทำให้อุณหภูมิรถสูงขึ้น พัดลมระบายความร้อนทำงาน ทำให้ใบพัดหมุนน้ำเข้ามาจนอาจสร้างความเสียหายให้กับเครื่องยนต์และห้องเครื่องได้

4. ใช้เกียร์ต่ำ

นอกจากนี้การขับรถลุยน้ำท่วมให้ปลอดภัย ควรใช้เกียร์ต่ำ หากเป็นรถเกียร์ธรรมดา ควรใช้เกียร์ 1 หรือ เกียร์ 2 แต่ถ้าเป็นรถเกียร์อัตโนมัติควรใช้เกียร์ L หรือ D2 และขับรถด้วยความเร็วต่ำ ทั้งนี้เพื่อให้ง่ายต่อการเบรกนั่นเอง

วิธีขับรถลุยน้ำท่วม และวิธีดูแลรถหลังลุยน้ำ

5. รักษาระยะห่างคันหน้าให้มาก

เวลาขับรถลุยน้ำท่วมควรรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากๆ เพราะประสิทธิภาพในการเบรกจะลดลงกว่าเดิม หากขับรถติดกับคันหน้ามากเกินไป แล้วเกิดเบรกกะทันหัน อาจทำให้เบรกไม่ทันได้  ซึ่งเมื่อขับรถผ่านช่วงน้ำท่วมไปแล้ว แนะนำให้เหยียบเบรกย้ำเป็นช่วงๆ เพื่อไล่น้ำออกจากระบบเบรก ช่วยให้ผ้าเบรกแห้งไว หรือถ้าเป็นรถเกียร์ธรรมดา ให้เหยียบคลัตช์ด้วย ป้องกันปัญหาคลัตช์ลื่น

6. ไม่ควรขับลุย ถ้าน้ำท่วมสูงมาก

ถนนบางเส้น หรือซอยบางซอยอาจมีน้ำท่วมสูง จนรถไม่สามารถขับผ่านไปได้ ซึ่งหากเห็นว่าเส้นทางนั้นมีน้ำท่วมสูงเกินครึ่งล้อ หรือท่วมสูงกว่าชายประตูรถ แนะนำว่าไม่ควรขับรถลุยไป อาจหลีกเลี่ยงเส้นทางนั้น หรือหาที่จอดเพื่อรอน้ำระบาย แต่หากขับรถลุยน้ำท่วมไปแล้วรถดับกลางทาง อย่าเพิ่งสตาร์ทรถทันที เพราะยิ่งสตาร์ทรถ จะทำให้น้ำยิ่งเข้าเครื่องยนต์ ทางที่ดีควรหาคนมาช่วยเข็นรถไปจอดข้างทาง หรือย้ายไปในจุดที่น้ำไม่ท่วมสูง

วิธีขับรถลุยน้ำท่วม และวิธีดูแลรถหลังลุยน้ำ

วิธีดูแลรถหลังลุยน้ำท่วม

1. เบรกรถย้ำๆ หลังขับรถลุยน้ำท่วม

เวลาขับรถลุยน้ำ แน่นอนว่าน้ำจะต้องเข้าไปในระบบเบรก ดรัมเบรก และผ้าเบรก ซึ่งหลังจากที่เราขับรถผ่านพื้นที่น้ำท่วมมาแล้ว ให้ขับรถช้าๆ แล้วเบรกรถย้ำๆ บ่อยๆ เพื่อเป็นการไล่น้ำออกจากเบรก ในกรณีรถเกียร์ธรรมดาควรย้ำคลัตช์ด้วยเพื่อป้องกันคลัตช์ลื่น

2. อย่าเพิ่งดับเครื่องยนต์ทันที

แม้ว่าจะขับรถผ่านจุดน้ำท่วมมาแล้ว เมื่อถึงที่หมายก็อย่าเพิ่งดับเครื่องยนต์ทันที ควรติดเครื่องไว้สักพัก เพื่อไล่ความชื้นในห้องเครื่องและไล่น้ำออกจากหม้อพักไอเสียให้หมด เพื่อไม่ให้เครื่องยนต์สะดุดหรือมีปัญหา

3. ตรวจเช็กว่าน้ำซึมเข้ารถหรือไม่

หากต้องขับรถลุยน้ำท่วมสูง หลังจากที่รถจอดในพื้นที่แห้งแล้ว ควรตรวจเช็กว่าน้ำซึมเข้ารถหรือไม่ โดยเปิดแผ่นยางรองพื้น หรือพรมปูพื้น หากพบคราบน้ำหรือมีน้ำซึมเข้ามา ควรรื้อพรมหรือยางปูพื้นออกมาเช็ดและเป่าให้แห้ง หรือจอดรถตากแดดทิ้งไว้ เพื่อป้องกันพรมขึ้นราหรือรถอับชื้น

วิธีขับรถลุยน้ำท่วม และวิธีดูแลรถหลังลุยน้ำ

4. ล้างรถให้สะอาด

หลังจากขับรถลุยน้ำมาแล้ว อย่าลืมล้างรถให้สะอาด เพื่อเป็นการล้างพวกคราบสกปรก เศษทราย เศษขยะต่างๆ ที่ติดอยู่กับรถและห้องเครื่อง ที่อาจสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ในภายหลังได้

5. นำรถเข้าศูนย์บริการ

แต่หากใครที่ยังไม่มั่นใจ สามารถนำรถเข้าไปเช็กสภาพได้ที่ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถ ให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจเช็กว่ามีอะไรเสียหายหรือไม่ เช่น เครื่องยนต์ ระบบเบรก ระบบไฟ เป็นต้น

วิธีขับรถลุยน้ำท่วม และวิธีดูแลรถหลังลุยน้ำ

และนี่ก็คือ วิธีขับรถลุยน้ำท่วม และวิธีดูแลรถหลังลุยน้ำ ที่มาสินำมาฝากกัน โดยเพื่อนๆ สามารถนำวิธีเหล่านี้ไปทำตามกันได้เลยค่ะ แต่อย่าลืมนะคะในช่วงหน้าฝนนี้ควรขับขี่รถยนต์กันอย่างปลอดภัย ไม่ประมาท เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ และถ้าจะให้ดีมาสิว่าควรทำประกันรถยนต์ไว้ด้วยเพื่อความอุ่นใจ โดย คลิกที่นี่ เพื่อเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับเว็บไซต์มาสิ

สนใจสมัครประกันรถยนต์

regis-but
สนใจสมัคร

หรือหากใครมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถโทร.มาพูดคุยสอบถามกับทีมงานมาสิได้เลยที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์มาเป็นเพื่อนกับเราที่ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความที่น่าสนใจจากมาสิ เช่น ประกันรถยนต์ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันเดินทาง ประกันภัยโดรน ประกันเดินทาง ประกันสุขภาพ และประกันไวรัสโคโรนา

car insurance banner