การออมเงิน

การเก็บออมฟังเหมือนจะเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่จริง ๆ แล้ว การออมเงินให้ได้เงินจำนวนที่ตรงกับเป้าหมายของเรา อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะการออมเงินนั้นต้องอาศัยความมีระเบียบวินัยมาก ๆ ส่วนมนุษย์เงินเดือนทุกคนที่มีรายรับเป็นประจำทุกเดือน แต่ก็มีภาระค่าใช้จ่ายทุกเดือนเช่นกัน จะออมเงินยังไงดีล่ะ? วันนี้มาสิคำแนะนำ 3 สิ่งที่วัยทำงานหัดออมเงินมาฝากค่ะ 3 สิ่งควรทำสำหรับวัยทำงานหัดออมเงิน 1.ลดค่าใช้จ่ายประจำวันที่ไม่จำเป็นลงไป การลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นน่าจะเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ทำได้ง่ายที่สุดแล้วล่ะค่ะ อย่างที่เค้าว่ากันว่า อันไหนประหยัดได้ก็ประหยัด ทางเลือกไหนที่รายจ่ายน้อยกว่าก็ต้องลองทำ เพื่อเข้าใกล้เป้าหมายของการออมเงินของเราให้มากที่สุด แล้วค่าใช้จ่ายอะไรบ้างล่ะที่เราควรลดลง? 1.1 ค่าวินมอเตอร์ไซค์ หากคุณใช้บริการพี่วินทุกวันในระยะทางใกล้ ๆ ลองเปลี่ยนมาปรับเวลาให้เร็วขึ้น แล้วเลือกเลือกการเดินแทน   1.2 ค่ากาแฟ หากคุณดื่มกาแฟที่คาเฟ่เป็นประจำทุกวัน ลองเลือกร้านที่กาแฟที่มีคุณภาพใกล้เคียงกันในราคาที่ถูกลง หรืออาจจะลองหันมาดื่มกาแฟชงเองดู อย่างน้อยก็ในช่วงที่กำลังออมเงินค่ะ   1.3 ค่าเสื้อผ้า   หากคุณช้อปปิ้งเสื้อผ้าเป็นประจำทุกเดือนแล้วล่ะก็ การมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้าเดิมที่คุณมีอยู่แล้วก็ช่วยได้มาก เพิ่มลูกเล่นจับเสื้อตัวนี้แมทช์กับกระโปรงหรือกางเกงยีนส์...

เคยสงสัยกันหรือเปล่าครับ ว่าหากเราอยู่ในสถานการณ์ที่มีเงินเดือนน้อย แต่ อีกใจหนึ่งก็ต้องใช้จ่ายประจำวัน ค่าบ้าน ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าเดินทาง แต่อีกใจ เราก็อยากมีเงินเก็บออมอีกด้วย แล้วเราจะทำอย่างไร ในเมื่อสถานะการณ์ต่างๆไม่ได้เอื้ออำนวยกับการเก็บเงินของเราเลย คนเงินเดือนน้อย จะเก็บเงินอย่างไร ตั้งเป้าหมายการออม ให้ชัดเจน อันนี้เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดขึ้นว่าคุณจะเก็บเงินอย่างไร วิธีที่ดีที่สุด คือ การตั้งเป้าหมายไปเลย ให้ชัดเจน ว่า เดือนนี้คุณจะเก็บเงินให้ได้ 3000 บาท วิธีนี้ คุณเองสามารถติดกระดาษไว้ที่ประตู ย้ำเตือนตัวเองทุกครั้งที่เดินเข้าออก หรือ ทุกครั้งที่มองเห็นป้ายหน้าประตู จะได้รู้ว่าเรมีเป้าหมายที่ต้องทำให้ได้นะ ทีนี้ ทุกการใช้จ่ายของคุณ คุณก็จะคิดแต่เรื่องเป้าหมายการออมครับ เก็บเงินทุกวัน ถ้าเรากดเงินออกมา ในทุกวัน หากเราไม่เก็บเงินเลย เราก็จะกดเงิน...

คงจะดีไม่น้อยหากคุณสามารถออมเงินในระยะสั้นได้ครบจำนวนที่ต้องการ เพื่อนำไปซื้อสิ่งของที่คุณอยากได้ หรือสามารถนำไปจัดการหนี้สินคงค้างชั่วคราวได้จนหมด แต่การออมเงินในระยะสั้นนั้นต้องใช้ความอดทนและความรอบคอบด้วยนะ แล้วจะทำยังไงดีล่ะ? วันนี้มาสิจะมาแนะนำเคล็ดลับออมเงินที่ใช้เวลาสั้น ๆ ซึ่งใช้เวลาน้อยกว่า 5 ปี ให้ฟังกันค่ะ เคล็ดลับการออมเงินระยะสั้น กำหนดเป้าหมายการออมเงินให้ชัดเจน การออมเงินเพื่อเป้าหมายระยะสั้น ไม่มีคำนิยามของระยะเวลาที่ตายตัว ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์, 1-3 ปี หรือน้อยกว่า 5 ปี ก็ตาม คุณต้องมีแรงฮึดและความอดทนในการเก็บเล็กผสมน้อย และต้องกำหนดให้ชัดเจนว่าคุณจะนำเงินไปใช้เพื่ออะไร เช่น ทริปไปเที่ยวญี่ปุ่น ทริปดำน้ำดูปะการัง ทริปทัวร์ทะเลใต้ หรือแม้แต่การออมเงินเพื่อนำไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ รวมไปถึงเงินฉุกเฉินที่คุณอาจจำเป็นต้องใช้ในช่วงเงินช็อต หรือเมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เช่น ค่าซ่อมบำรุงรถที่เกินงบประมาณ วางแผนการเงินที่ต้องเก็บออมในแต่ละวัน/เดือน/ปี หากคุณอยากได้กระเป๋าใบใหม่แทนใบเก่าที่พัง หรือรองเท้าคู่ใหม่ที่คุณหมายตาเอาไว้ก่อนที่จะถูกวางขายในตลาด หรือตั๋วคอนเสิร์ต...

ไม่ว่าเราจะตัดสินใจลาออกจากงานในปัจจุบัน เพราะมองว่าการเป็นพนักงานกินเงินเดือนนั้น เริ่มไม่ตอบโจทย์ชีวิต รวมทั้งมีโปรเจ็กต์ที่อยากจะทำธุรกิจเป็นของตัวเอง หรือรู้สึกว่าเริ่มอิ่มตัว - เหนื่อยใจกับปัญหาจากที่ทำงานเก่า และอยากได้ที่ทำงานใหม่แล้วก็ตาม มีสำคัญที่มองข้ามไปไม่ได้เลยก็คือ “การวางแผนการเงิน ก่อนตัดสินยื่นใบลาออก” นั่นเอง วินัยทางการเงิน สำหรับคนที่วางแผนลาออกจากงาน โดยการวางแผนการเงินที่ดี จะช่วยทำให้เรามีวินัยในการใช้เงินที่ดี และส่งผลให้ไม่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน หรือไม่ขาดเงินสดหมุนเวียน เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งเราสามารถเริ่มต้นสร้างวินัยทางเงินได้ง่ายๆ จากเทคนิคเล็กน้อยดังนี้ สร้างบัญชีรายรับ – รายจ่าย แน่นอนว่าทุกคนมีแผนการใช้จ่ายเงินที่ได้รับอยู่ในใจ ว่าจะต้องแบ่งสันปันส่วนอย่างไรในแต่ละเดือน แต่เคยสังเกตไหมว่า บางครั้งสิ่งที่เราคิดไว้กลับไม่เป็นไปตามนั้น และจะต้องมาเริ่มรู้สึกถึงผลกระทบของอาการ ‘เงินไม่ค่อยพอใช้’ ทุกเดือนร่ำไป นั่นเพราะค่าใช้จ่ายบางอย่างก็สามารถเกิดขึ้นมาได้โดยไม่คาดคิด ทั้งเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน หรือค่าใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายที่ทำให้เรามักลืมไปว่า ‘ฉันซื้ออะไรมามั่งแล้วนะ’ เป็นต้น ดังนั้นการสร้างบัญชีรายรับ – รายจ่ายอย่างเป็นทางการ ผ่านการจดในสมุดโน๊ตด้วยมือหรือใช้อุปกรณ์มือถือเพื่อบันทึก...

เรามาถึงช่วงโค้งสุดท้าย สำหรับการหาซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี หรือหาวิธีลดหย่อนภาษีกันแล้วนะครับ ซึ่งเรียกว่า ในช่วงวีคสุดท้ายของปี 2561 เนี่ย เป็นช่วงที่แต่ละคน หาวิธีการลดหย่อนภาษีกันอย่างสนุกสนานกันเลยครับ ซึ่ง เราจะมาเน้น ย้ำ และทวนกันอีกครั้ครับ ว่าสำหรับการลดหย่อนภาษีในปี 2561 เนี่ยมีอะไรกันบ้าง เรามาดูกัน เราจะได้ยื่นภาษี และขอคืนภาษี หรือลดหย่อนภาษี กันได้ครับ  การลดหย่อนภาษี โค้งสุดท้ายสำหรับ ปี 2561 40% ของเงินได้ทั้งหมดในปีนั้น เอามาลดหย่อนภาษีได้ แต่ไม่เกิน 60,000 บาท ถ้าคู่สมรสไม่มีรายได้ ลดหย่อนภาษีไป 60,000 บาท...

กำลังจะหมดปี 2018 เรามาทำอะไรใหม่ๆสำหรับปี 2019 กันดีกว่าครับ ปีหน้าหากเราจะเริ่มต้นอะไรดีๆ ขอแนะนำอย่างแรกเลยครับ ซึ่งนั่นก็คือการลงทุน หรือการเก็บออมเงินครับ แต่วิธีการเก็บออมเงินนั้น เรียกว่ามีหลากหลายวิธีเหลือเกิน บางคนใช้แบงก์ 50 สะสมเมื่อเจอก็ไม่ใช้ หรือบางคน ก็เก็บแยกเป็นกระปุกหลายๆกระปุก ซึ่งทุกวิธีเป็นวิธีที่ดีครับสำหรับการออมเงิน แต่เรามาทำให้เป็นเรื่องจริงจังกันดีกว่าครับ การออมเงินของเราจะได้เห็นผลเพิ่มมากขึ้น ตั้งเป้าหมายการออม คือสิ่งสำคัญสำหรับการออม การออมนั้นมีหลายวิธีครับ แต่วิธีที่ดีที่สุดคือ เราควรจะแยกออกมาเป็นข้อๆ และจริงจังกับการออมเราจะได้เห็นผลที่ชัดเจนครับ มาทำตามกัน ตั้งกรอบระยะเวลาให้ชัดเจนแน่นอน นับว่าเป็นเป้าหมายใหญ่เช่นกันครับ เพราะยิ่งเป้าหมายใหย่ และชัดเท่าไร การออมก็จะเห็นผลเร็วขึ้นครับ เช่น ตั้งว่าเราจะปิดหนี้บัตรเครดิตใน 1 ปี ในทุกเดือนหากเราจ่ายค่าบัตรเครดิตขั้นต่ำอยู่แล้ว...

ตอนนี้อยู่ในช่วงปลายปีกันแล้วครับ และสิ่งหนึ่งที่ลืมกันไม่ได้เลยคือการซื้อกองทุน เพื่อยื่นภาษีและลดหย่อนภาษีเพื่อคืนภาษีประจำปีครับ และ สำหรับกองทุนยอดนิยมสำหรับการยื่นภาษีลดหย่อนภาษีนั่นคือ LTF , RMF แถมยังได้รับความนิยมกันอีกด้วย เรามาดูกันดีกว่าครับว่า สองตัวนี้ จะช่วยในการยื่นภาษีลดหย่อนภาษีคืนภาษี ได้มากขนาดไหน อย่าลืมทำ LTF , RMF เพื่อยื่นภาษีและลดหย่อนภาษีกัน เรามารู้จัก LTF กัน มันคืออะไร LTF หรือที่ใครๆก็รู้จักกันในชื่อกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund) เราสามารถซื้อได้ไม่เกิน 15% ของจำนวนเงินที่ต้องเสียภาษีและไม่เกิน 500,000 บาท และต้องถือครองไม่น้อยกว่า 7 ปี ปฏิทินครับ...

สวัสดีครับเพื่อนๆ กลับมาพบกับพี่หมีโกแบร์อีกครั้งกับสาระน่ารู้เกี่ยวกับเรื่องการประหยัดเงินอย่างไรให้ยังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้นะครับ เดี๋ยวนี้เทรนด์เที่ยวแบบประหยัดกำลังมาแรง หลายๆคนก็แทบจะเอาใบเสร็จค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวต่างๆแบบถูกและดีมาอวดกัน ทั้งค่าตั๋วเครื่องบิน ค่ากินค่าอยู่ ค่าโรงแรม จนใครหลายๆคนก็อยากออกไปเที่ยวแบบประหยัดบ้าง ปีๆหนึ่งเราจะได้เที่ยวได้หลายๆรอบด้วยงบที่น้อยนั่นเองครับ และเพื่อนๆทราบไหมครับว่า แม้จะมีค่าใช้จ่ายต่างๆที่เราต้องจ่ายออกไปและเราคิดว่า สิ่งเหล่านี้ทำให้ทริปของเรามีราคาแพง ทั้งค่าตั๋วเครื่องบินและค่าโรงแรม อีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญมากๆและทำให้เราเสียเงินในกระเป๋าไปไม่แพ้กันก็คือ การมีเพื่อนร่วมทางพาผลาญเงินนั่นเองครับ เพราะจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดวิถีการเที่ยวของเรา ว่าจะเป็นการเที่ยวแบบประหยัดหรือจะกลายเป็นทริปราคาแพงหูฉี่ เพราะเพื่อนของเรานั้นจะเป็นผู้กำหนดว่า อยากกิน ช็อป และเที่ยวที่ไหน ส่วนใหญ่เราก็มักจะเกรงใจ ตามๆเพื่อนไปใช่ไหมล่ะครับ ทางที่ดี ก่อนจะชวนใครออกไปเที่ยว ให้ลองดูนิสัยของเพื่อนเราก่อนว่า เข้าข่ายเพื่อนร่วมทางพาผลาญเงิน 5 ประเภทนี้หรือไม่ ไปดูกันเลยครับ อยากเที่ยวแบบประหยัด ต้องหลีกเลี่ยงเพื่อนร่วมทาง 5 แบบนี้ 1) เพื่อนร่วมทางสายกิน เดี๋ยวนี้เวลาเปิด...

สำหรับปี 2561 รัฐได้มีการปรับโครงสร้างการหักลดหย่อนภาษีให้มีความครอบคลุมมากขึ้น เพื่อรองรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งการยื่นแบบภาษีนั้นถือได้ว่าเป็นหน้าที่ของประชาชนในประเทศที่ต้องจ่ายให้กับภาครัฐ เพื่อให้รัฐนำเงินที่จัดเก็บไปหมุนเวียนใช้เป็นค่าบำรุงและพัฒนาประเทศทางด้านต่าง ๆ และในปี 2561 นั้นรัฐได้จัดให้มีการลดภาษีอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้วางแผนชำระภาษีให้กับสรรพากรได้อย่างถูกต้อง หรือนำไปใช้สำหรับวางแนวทางในการวางแผนลดหย่อนภาษี เรามาดูกันดีกว่า ว่ามีอะไรบ้าง  หมวดลดภาษี 2561  ที่ควรรู้ ค่าลดหย่อนหมวดที่ 1 : ค่าลดหย่อนส่วนตัวและครอบครัว ได้แก่ ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท ค่าลดหย่อนคู่สมรส (ไม่มีเงินได้) 60,000 บาท ค่าลดหย่อนบุตรไม่เกิน 3 คน คนละ 30,000 บาท  ค่าอุปการะบิดา...

ในทุกๆ ปี เราจะถูกจัดเก็บภาษีให้กับทางภาครัฐ มากมายหลายทาง แต่ทางภาครัฐเองนั้น ก็ได้มีนโยบายที่กำหนดออกมาเพื่อ ช่วยเราในการลดหย่อนภาษี และยังช่วยในการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศไปพร้อมๆกัน นั่นก็คือ นโยบายลดหย่อนภาษีท่องเที่ยว และในปี 2561 เพื่อเอาใจคอท่องเที่ยวแบบเราๆ รัฐบาลจึงได้จัดให้มีการท่องเที่ยว พร้อมช่วยลดหย่อนภาษีแบบใหม่ ที่ไม่ซ้ำปี 2560  เพราะฉะนั้นเรามาดูกันดีกว่า ว่า นโยบายลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวในปีนี้มีอะไรบ้าง ลดหย่อนภาษีท่องเที่ยว ปี 2561 เป็นอย่างไร มาตรการลดหย่อนภาษี 55 เมืองรอง สำหรับมาตรการนี้ รัฐบาลได้จัดให้เมืองรองเป็นตัวชูโรงในการลดหย่อนภาษี ซึ่งเรียกเต็มๆสำหรับโครงการนี้ว่า "ค่าการเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดท่องเที่ยวรอง" เพื่อใช้ในการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวเฉพาะ 55...