ต้องบอกเลยว่า ประกันรถยนต์ นั้นถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ในปัจจุบัน เพราะว่าให้ความคุ้มครองต่อตัวผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และคู่กรณี รวมถึงยังคุ้มครองทรัพย์สินหรือรถยนต์ของเราด้วยอีกต่างหากในกรณีที่รถยนต์ประสบอุบัติเหตุหรือเกิดเหตุอื่นๆ เช่น รถหาย รถไฟไหม้ แต่ความคุ้มครองต่างๆ ที่ได้รับก็ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันรถยนต์ ซึ่งประกันรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากคือ ประกันรถยนต์ชั้น 1 กับ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ แต่ใครหลายคนอาจยังเลือกไม่ถูกว่าระหว่างประกันสองประเภทนี้ จะทำประกันรถยนต์แบบไหนดี วันนี้เราตาม masii ไปหาคำตอบกันเลยค่ะ
ประกันชั้น 1 vs ประกันชั้น 2+ เลือกแบบไหนดี
สำหรับประกันรถยนต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ได้แก่ ประกันรถยนต์ชั้น 1 และ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ซึ่งทั้งสองตัวนี้ให้ความคุ้มครองได้คล้ายคลึงกัน แต่ก็มีข้อแตกต่างอยู่บ้าง ดังนี้
ประกันรถยนต์ชั้น 1
สำหรับ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองได้ครอบคลุมมากที่สุด แต่ก็จะมีราคาสูงกว่าประกันรถยนต์ประเภทอื่นๆ แต่ก็มั่นใจได้ว่าประกันชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งความเสียหายต่อตัวบุคคล และทรัพย์สิน แม้ว่าจะเป็นอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณีก็ตาม เช่น รถชนกำแพง ชนต้นไม้ ชนเสาไฟฟ้า เป็นต้น นอกจากนี้ ประกันชั้น 1 ยังคุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้รถ น้ำท่วมรถ อีกด้วย
รถยนต์ที่เหมาะกับการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ส่วนใหญ่จะเป็นรถใหม่ รถป้ายแดง หรือรถยนต์ที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี เพราะว่าให้ความคุ้มครองได้ครอบคลุมมากที่สุดนั่นเอง
- คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และอนามัยของผู้เอาประกันและคู่กรณี
- คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ของผู้เอาประกันและคู่กรณี
- คุ้มครองตัวรถยนต์ของผู้เอาประกัน แม้เกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ขับรถชนเสาไฟฟ้า หินดีด กระจกร้าว ยางแตก เป็นต้น
- คุ้มครองคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล และค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร คู่กรณีและบุคคลภายนอก
- คุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม
- คุ้มครองเงินประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญา
ประกันรถยนต์ชั้น 2+
ส่วน ประกันรถยนต์ชั้น 2+ นั้นให้ความคุ้มครองได้ใกล้เคียงกับประกันรถยนต์ชั้น 1 มากที่สุด ทั้งยังมีเบี้ยประกันที่ถูกกว่า ซึ่งความแตกต่างนั่นก็คือ ประกันชั้น 2+ จะคุ้มครองความเสียต่อทรัพย์สินหรือรถยนต์ของผู้เอาประกันเฉพาะเมื่อเกิดอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี และเกิดอุบัติเหตุกับรถยนต์ด้วยกัน เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถกระบะ รถบรรทุก เป็นต้น ซึ่งรถยนต์ที่นิยมทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ ส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป
- คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ของผู้เอาประกันและคู่กรณี (แต่จะซ่อมรถคันเอาประกันก็ต่อเมื่อเกิดจากกรณีรถชนรถเท่านั้น)
- คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และอนามัยของผู้เอาประกันและคู่กรณี
- คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล และค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร คู่กรณีและบุคคลภายนอก
- คุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้
- คุ้มครองเงินประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญา
เมื่อได้ทราบกันไปแล้วว่า ประกันรถยนต์ชั้น 1 และ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองอย่างไร และมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ก็คงช่วยให้ตัดสินใจเลือกซื้อประกันรถยนต์กันได้ง่ายขึ้น หรือสามารถ คลิกที่นี่ เพื่อเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับเว็บไซต์มาสิได้ง่ายๆ
สนใจสมัครประกันรถยนต์
หรือหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถโทร.มาสอบถามทีมงานมาสิได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์มาเป็นเพื่อนกับเราได้ที่ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ เกี่ยวกับ ประกันรถยนต์ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันบิ๊กไบค์ ประกันภัยโดรน ประกันเดินทาง ประกันสุขภาพ รวมไปถึงสินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิต จากสถาบันการเงินชั้นนำได้เลยค่ะ
