สำหรับใครที่ต้องการรถยนต์มือสอง นอกจากจะไปซื้อรถมือสองตามเต็นท์รถ หรือแหล่งซื้อขายรถมือสองแล้ว การประมูลรถมือสอง ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ได้รถมือสองสภาพดี ในราคาที่คุณต้องการ ซึ่งปัจจุบันการประมูลรถยนต์ ถือว่ามีความนิยมมากขึ้น แต่ใครหลายคนอาจยังไม่ทราบว่าขั้นตอนการประมูลรถยนต์ มีอะไรบ้าง วันนี้ masii ก็มีคำตอบดีๆ มาฝากเพื่อนๆ กันแล้วค่ะ
ขั้นตอนการประมูลรถยนต์ มีอะไรบ้าง
ในการประมูลรถยนต์นั้น รถยนต์ที่นำมาประมูลส่วนใหญ่มาจากช่องทาง เช่น เป็นรถยนต์ที่ถูกยึดมาจากไฟแนนซ์หรือจากสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อรถยนต์ หรือเป็น รถเช่า รถใช้งานของบุคคลทั่วไปหรือรถของบริษัทเอกชนที่นำมาฝากขาย หรืออาจเป็นรถยนต์ของหน่วยงานภาครัฐที่นำรถออกมาขายทอดตลาด เช่น กรมศุลกากร สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) หรือ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) เป็นต้น โดยมีขั้นตอนการประมูลรถยนต์ ดังนี้
- ผู้เข้าร่วมประมูลต้องจ่ายมัดจำค่าป้ายหมายเลขผู้ประมูลด้วยเงินสด หรือ แคชเชียร์เช็ค เป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท ภายหลังหากไม่ได้ประมูล สามารถรับเงินมัดจำคืนได้ทันทีโดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆ
- ผู้ซื้อควรตรวจสภาพรถยนต์และข้อมูลต่างๆ ที่ตัวรถก่อนทำการประมูล โดยแนะนำว่าควรนำผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่มีความรู้เรื่องการดูรถมาช่วยตรวจสอบสภาพรถที่ต้องการก่อนทำการประมูล เพื่อความอุ่นใจนั่นเอง
- หากผู้เข้าร่วมประมูลคนใดต้องการจัดไฟแนนซ์หรือขอสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ควรติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนทำการประมูล
- หากผู้ซื้อต้องการประมูลรถยนต์ ให้ยกป้ายหมายเลขประมูลเท่านั้น โดยราคาประมูลจะเริ่มต้นจากราคากลาง ซึ่งโฆษกจะปรับราคาขึ้นครั้งละ 2,000 บาท กรณีที่ราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 1 ล้านบาท และจะปรับราคาขึ้นครั้งละ 10,000 บาท กรณีที่ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1,000,000 บาทขึ้นไป
- ผู้ที่เสนอซื้อรถยนต์ในราคาสูงสุดจะเป็นผู้ชนะการประมูล
- ผู้ชนะการประมูลจะต้องลงลายมือชื่อในเอกสารหลักฐานการประมูลพร้อมกับชำระเงิน ซึ่งเงินที่ต้องชำระทั้งหมด มีดังนี้
- ราคารถที่จบประมูล
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ของเงินมัดจำ (กรณีรถที่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- ค่าดำเนินการ รถยนต์คันละ 8,560 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ (ถ้ามี) เช่น ค่าขนย้าย, ค่าโอนกรรมสิทธิ์, ค่ากุญแจ, ค่าธรรมเนียมหรือเบี้ยปรับที่คงค้างอยู่ ซึ่งจะมีข้อมูลแจ้งให้ทราบในใบรายการ
- ผู้ประมูลสามารถเลือกการชำระเงินได้ คือ ชำระเงินครบ 100% ในวันประมูล ลูกค้าสามารถรับรถกลับได้ทันที
- หรือเลือกชำระ 10% ของราคาทั้งหมดภายในวันประมูล โดยชำระเป็นเงินสดหรือบัตรเครดิตก็ได้ (กรณีชำระด้วยบัตรเครดิตจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการใช้บัตรเครดิตเป็นเงินสด) ส่วนเงินอีก 90% ที่เหลือ ให้ชำระผ่านบัญชีภายใน 3 วันทำการ นับจากวันที่ประมูลก่อน 12.00 น. จึงจะสามารถรับรถกลับได้
- เล่มทะเบียนและชุดโอน สามารถติดต่อรับได้ภายใน 1-30 วัน นับจากวันประมูล
- ผู้ประมูลตรวจสอบสภาพรถยนต์ และอุปกรณ์ต่างๆ ภายหลังการประมูล โดยจะมีใบตรวจสภาพรถให้เป็นหลักฐานเพื่อใช้ยืนยันในวันรับรถ
เอกสารในการประมูลรถยนต์
- บุคคลธรรมดา
- บัตรประชาชนพร้อมสำเนา
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- กรณีที่ผู้ประมูลไม่ได้มาดำเนินการด้วยตัวเอง ให้ใช้หนังสือมอบอำนาจ พร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ
- นิติบุคคล
- หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้เป็นหุ้นส่วนหรือกรรมการบริษัทที่มีอำนาจ ลงนามผูกพันนิติบุคคล
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้เป็นหุ้นส่วนหรือกรรมการบริษัทที่มีอำนาจ
การซื้อรถมือสองผ่านการประมูลนั้น จะทำให้คุณได้รถมือสองในราคาที่คุณต้องการ และค่อนข้างถูกกว่าท้องตลาด แต่อย่างไรก็ควรศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม และตรวจเช็กสภาพรถให้ดีๆ เพราะรถยนต์ที่นำมาประมูลมีหลายแบบ หลายสภาพ บ้างเป็นรถสภาพดี บ้างก็เป็นรถมีตำหนิ ผ่านการใช้งานมามาก หรือเคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อน ซึ่งทางบริษัทประมูลก็จะมีการแจ้งเกรดสภาพรถไว้ก่อนการประมูลอยู่แล้ว
และสำหรับใครที่ประมูลรถยนต์มาได้และใช้ขับขี่อยู่ในขณะนี้ ก็ขอให้ขับรถกันอย่างปลอดภัย ไม่ประมาท ถ้าจะให้ดีมาสิแนะนำว่าควรทำประกันรถยนต์ไว้ด้วยเพื่อความอุ่นใจ โดยสามารถ คลิกที่นี่ เพื่อเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับทางเว็บไซต์มาสิได้ง่ายๆ ค่ะ
สนใจสมัครประกันรถยนต์
หรือหากใครต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถโทร.มาพูดคุยกับทีมงานได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์มาเป็นเพื่อนกับเราที่ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อติดตามข่าวสารที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ประกันรถยนต์ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันภัยโดรน ประกันการเดินทาง ประกันสุขภาพ รวมไปถึงสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิตจากสถาบันการเงินชั้นนำได้เลยค่ะ