ประกันภัยรถยนต์

สำหรับใครที่กำลังจะซื้อรถใหม่ หรือรถป้ายแดง นอกจากทางไฟแนนซ์รถยนต์จะต้องขอเอกสารต่างๆ ของผู้ซื้อแล้ว บางที่ยังต้องมีผู้ค้ำประกันมาทำสัญญาร่วมด้วย ซึ่งหลายคนอาจยังสงสัยว่า ผู้ค้ำประกันรถยนต์ มีหน้าที่อะไร และต้องมีคุณสมบัติใดบ้าง วันนี้เราไปหาคำตอบพร้อมกับ masii กันเลยค่ะ ผู้ค้ำประกันรถยนต์ มีหน้าที่อะไรบ้าง ผู้ค้ำประกัน คือ บุคคลที่เซ็นสัญญาว่าจะชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ถ้าหากลูกหนี้ไม่ยอมชำระหนี้ตามที่กำหนด พูดง่ายๆ ก็คือ ผู้ค้ำประกันต้องชำระหนี้แทนลูกหนี้ในกรณีที่ลูกหนี้ผิดสัญญาไม่จ่ายค่างวดนั่นเอง ซึ่งการทำสัญญาค้ำประกัน จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าหนี้ ที่เป็นไฟแนนซ์หรือสถาบันการเงินที่ทำการกู้ซื้อรถยนต์ โดยเจ้าหนี้จะสามารถทวงหนี้ หรือฟ้องร้องให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้นั้นแทนลูกหนี้ได้ โดยผู้ค้ำประกันจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้ คุณสมบัติของผู้ค้ำประกัน ผู้ค้ำประกันจะเป็นใครก็ได้ อาจเป็นคนในครอบครัว ญาติ เพื่อน หรือคนรู้จักก็ได้ ต้องบรรลุนิติภาวะ หรือมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง ...

สมัยนี้ ไม่ว่าใครก็สามารถออกรถใหม่ป้ายแดงได้ง่ายๆ เพียงแค่เตรียมตัวให้พร้อม ทั้งเงินและเอกสารต่างๆ แต่ก็มีหลายคนที่เกิดความสงสัยว่า ซื้อรถใหม่ จำเป็นต้องมีผู้ค้ำประกันรถไหม ต้องใช้คนค้ำประกันหรือเปล่า วันนี้เราไปหาคำตอบพร้อมกับ masii กันเลยค่ะ ซื้อรถใหม่ จำเป็นต้องมีผู้ค้ำประกันรถไหม ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนว่า ผู้ค้ำประกันคืออะไร  ผู้ค้ำประกัน ก็คือ บุคคลที่เซ็นสัญญาค้ำประกันให้กับบุคคลหนึ่งที่เป็นลูกหนี้ ซึ่งหากลูกหนี้ผิดสัญญาไม่จ่ายค่างวดตามที่กำหนดไว้ ผู้ค้ำประกันจะต้องเป็นผู้รับภาระหนี้แทน ซึ่งการค้ำประกันนี่ก็เท่ากับเป็นการรับประกันว่าไม่ว่าอย่างไรเจ้าหนี้ก็จะต้องได้รับเงินคืนอย่างแน่นอน โดยทางไฟแนนซ์หรือสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้หรือผู้ปล่อยกู้สามารถทวงหนี้ หรือฟ้องร้องให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้แทนลูกหนี้ได้ โดยผู้ค้ำประกันสามารถเป็นใครก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนในครอบครัว เพียงแต่ต้องมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับเงื่อนไข เช่น ฐานเงินเดือนตรงตามกำหนด มีรายได้แน่นอน มีการงานที่มั่นคง เป็นต้น ถ้าดาวน์รถน้อยกว่า 20% ของราคารถต้องมีผู้ค้ำประกัน โดยปกติแล้วการดาวน์รถใหม่ จะต้องจ่ายเงินดาวน์ประมาณ 25-40% ของราคารถยนต์...

เพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อไม่ว่าจะอยู่แห่งหนตำบลใด ไม่เว้นแม้แต่อุบัติเหตุภายในรั้วบ้าน ยกตัวอย่างเช่น ขับรถชนกันเองในครอบครัว หรือ ขับรถชนกันเองในบ้าน จนเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินหรือได้รับบาดเจ็บต่อร่างกาย ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นทางประกันรถยนต์ที่ทำไว้ จะยังให้ความคุ้มครองต่อผู้เอาประกันและคู่กรณีหรือไม่ วันนี้เราไปหาคำตอบพร้อมกับ masii กันเลยค่ะ ขับรถชนกันในบ้าน ประกันรถยนต์จ่ายไหม หากผู้เอาประกันขับรถชนกันเองในบ้าน หรือขับรถชนกันเองในครอบครัวขึ้นมา ทางประกันรถยนต์จะมีเกณฑ์การพิจารณาการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งมาสิขอแยกเป็นกรณีต่างๆ ดังนี้ 1. ขับรถชนรถของพ่อ แม่ ลูก หรือคู่สมรส หากรถยนต์คันที่ประสบเหตุเป็นของผู้เอาประกัน แล้วเกิดชนกับรถของคนในครอบครัว เช่น รถของพ่อ แม่ ลูก หรือรถของคู่สมรส ในกรณีนี้หากทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ผู้เอาประกันจะสามารถเคลมประกันได้เฉพาะความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของตัวเองเท่านั้น แต่จะไม่สามารถเรียกร้องการเคลมความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์ของคนในครอบครัวได้ เนื่องจากไม่ใช่บุคคลภายนอก แม้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นคุณจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูกก็ตามค่ะ 2. ขับรถชนรถของพี่น้อง แต่หากกรณีขับรถชนรถของพี่น้อง...

หากพูดถึง กล้องหน้ารถ หรือ กล้องติดรถยนต์ หลายคนคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถยนต์ทุกคนควรมีติดรถยนต์เอาไว้ นอกจากกล้องติดรถยนต์จะใช้บันทึกภาพเหตุการณ์ต่างๆ ขณะขับรถแล้ว กล้องติดรถยนต์ ยังมีประโยชน์อีกมากมาย ซึ่งหากใครสงสัยว่า กล้องติดรถยนต์ หรือ กล้องหน้ารถ จำเป็นอย่างไร วันนี้ masii มีคำตอบมาฝากเพื่อนๆ เกี่ยวกับ กล้องหน้ารถ มาฝากทุกคนกันแล้วค่า กล้องหน้ารถ จำเป็นอย่างไร 1. ใช้บันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ขณะขับรถ กล้องหน้ารถ หรือ กล้องติดรถยนต์ มีลักษณะการทำงานคือเป็นกล้องที่ใช้บันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ในขณะที่เราขับรถ โดยบันทึกเป็นไฟล์วิดีโอ ซึ่งเราสามารถนำมาเปิดดูย้อนหลังได้ว่าเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นบ้าง หากเราขับรถไปแล้วเจอเหตุฉุกเฉินหรือเหตุไม่คาดฝัน ก็สามารถใช้ไฟล์วิดีโอจากกล้องหน้ารถ มาบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ 2. ใช้เป็นหลักฐานบอกตัวผู้กระทำผิด นอกจาก กล้องติดรถยนต์ จะใช้บันทึกเหตุการณ์ต่างๆ...

สำหรับใครที่ใช้รถยนต์อยู่เป็นประจำ แน่นอนว่านอกจากจะต้องทำ พ.ร.บ.รถยนต์ แล้ว การทำประกันรถยนต์ก็เป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมาก เพราะช่วยคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ ซึ่งนอกจากประกันรถยนต์จะมีให้เลือกหลายประเภทแล้ว ยังมีประกันรถยนต์แบบใหม่ที่ผู้ซื้อสามารถเลือกเปิดปิดความคุ้มครองได้ หรือที่เรียกว่า ประกันเปิดปิด แล้วประกันเปิดปิด คืออะไร ทำแล้วจะดีไหม คุ้มค่าหรือเปล่า เราไปหาคำตอบกับ masii กันเลยค่ะ ประกันเปิดปิด ดีไหม? ประกันรถยนต์เปิดปิด เป็นประกันรถยนต์ที่ผู้ซื้อสามารถเลือกเปิดหรือปิดความคุ้มครองได้ตามความต้องการ ซึ่งจะทำการคิดค่าเบี้ยประกันตามจำนวนเวลาที่ใช้งานจริง โดยเปิดการใช้งานผ่านทางแอปพลิเคชัน และเมื่อกดปิดรับความคุ้มครองก็ไม่ต้องจ่ายค่าประกัน เรียกว่าเป็นประกันรถยนต์ที่คุ้มค่า คุ้มราคามากๆ เพราะนอกจากจะมีราคาประหยัดกว่าประกันรถยนต์ทั่วไปแล้ว ยังให้ความคุ้มครองไม่ต่างกัน  ซึ่งเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยได้ขับรถบ่อยเท่าไรนัก หรือขับรถเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อวันนั่นเอง โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกความคุ้มครองตามประเภทของประกันรถยนต์ต่างๆ ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันรถยนต์ชั้น 2+...

หากพูดถึงประเภทของประกันรถยนต์ หลายคนคงนึกถึง ประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และประกันรถยนต์ชั้น 3+ เป็นส่วนใหญ่ แต่รู้หรือไม่ว่าปัจจุบันนี้มีประกันรถยนต์รูปแบบใหม่ที่ผู้เอาประกันสามารถเลือกเปิดปิดความคุ้มครองได้ หรือที่เรียกว่า ประกันเปิดปิด วันนี้ masii เลยขอพาทุกคนมาทำความรู้จัก ประกันรถยนต์เปิดปิด ว่าคืออะไร และให้ความคุ้มครองแบบใดบ้าง ทำความรู้จัก ประกันรถยนต์เปิดปิด ประกันรถยนต์เปิดปิด เป็นประกันรถยนต์แบบใหม่ ที่ผู้ใช้สามารถเลือกเปิดหรือปิดรับความคุ้มครองได้ขณะขับรถ โดยคิดค่าเบี้ยประกันตามจำนวนเวลาที่ใช้งานจริงๆ และเมื่อเราปิดความคุ้มครองขณะจอดรถ ก็ไม่ต้องจ่ายค่าประกัน เรียกว่าเป็นประกันรถยนต์ที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ขับรถบ่อยๆ หรือขับรถจริงๆ เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งการทำประกันรถยนต์เปิดปิดนี้จะให้ความคุ้มครองเฉพาะเมื่อเลือกเปิดรับความคุ้มครองในแอปพลิเคชันเท่านั้น โดยสามารถเลือกแพ็กเกจได้ ไม่ว่าจะเป็น ความคุ้มครองแบบ 1 เดือน 3 เดือน...

สวัสดีครับ วันนี้ Mr.Carro มาพบกับทุกท่านอีกเช่นเคยครับ ในช่วงฤดูฝนเต็มตัว ที่แม้ว่าช่วงปี 2562 นี้ หลายพื้นที่ฝนจะขาดช่วง และดูแล้งมากก็ตาม แต่ตอนนี้ก็มีฝนตกกันแทบทุกวันแล้ว หลายคนยังต้องใช้รถใช้ถนน ก็ต้องมีการขับรถลุยน้ำลุยฝนบ้างตามโอกาส บางทีอาจจะต้องไปในถนนที่สภาพไม่ค่อยดีนัก อาจจะเป็นทางลูกรัง มีขี้ดินขี้โคลนเยอะ ซึ่งอาจจะกระเด็นมาติดตามซุ้มล้อ หรือตามตัวถังรถมากมาย ซึ่งปล่อยทิ้งไว้นานๆ ก็ไม่ดีต่อรถนัก เพราะทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาบนตัวถังรถได้ เช่น สีด่าง เกิดคราบหินปูนบนตัวถัง หรือสนิมขึ้นตามซอกมุมต่างๆ หน้าฝน ลุยโคลน ล้างยังไงถึงสะอาดหมดจด ซึ่งวิธีล้างรถและวิธีทำความสะอาดรถให้หมดจดนั้น ควรทำตั้งแต่เมื่อไหร่ และมีวิธีล้างอย่างไร รถยนต์ถึงจะสะอาด Mr.Carro ขอนำเคล็ดลับมาเล่าให้ฟังกัน ปกติแล้ว เมื่อน้ำเมื่อผสมกับดิน...

ก่อนวันจริงที่เราจะทำข้อสอบใบขับขี่เราจะต้องเตรียมความพร้อมร่างกาย และเอกสารต่างๆ เพื่อเข้าสู่การอบรม การสอบภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติครับ จะช่วยทำให้เราสอบใบขับขี่ได้อย่างผ่านฉลุย !! หากใครที่ยังไม่รู้ว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง วันนี้เพนกวิน Frank.co.th ผู้รู้เฟื่องเรื่องประกันภัยจะเอาเคล็ดลับ (ที่ไม่ลับ) ในการเตรียมสอบใบขับขี่มาฝากชาว masii.co.th กันด้วยนะ รับรองว่าสอบครั้งนี้ผ่านแน่นอนครับ 7 สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนสอบใบขับขี่ 1.จองวันสอบก่อนล่วงหน้า อันดับแรกให้เราติดต่อจองวันสอบได้ที่กรมการขนส่งทางบก ซึ่งจะมีสำนักงานในเขตกรุงเทพฯ ทั้งหมด 5 แห่ง ได้แก่ สำนักงานขนส่งพื้นที่เขต 1 (บางขุนเทียน) , สำนักงานขนส่งพื้นที่เขต 2 (ตลิ่งชัน) , สำนักงานขนส่งพื้นที่เขต 3 (สุขุมวิท 62) ,...

ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่หันมาใช้รถยนต์ส่วนตัวกันมากขึ้น เพราะว่าสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น และสำหรับใครที่เพิ่งหัดขับรถหรือเป็นมือใหม่หัดขับ ยิ่งถ้าออกรถใหม่ป้ายแดงด้วยแล้ว ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถให้มากๆ ซึ่งหากถาม ประกันรถยนต์ประเภทใด เหมาะกับมือใหม่หัดขับบ้าง วันนี้ masii ก็มีคำแนะนำดีๆ มาฝากกันแล้วค่ะ ประกันรถยนต์ประเภทใด เหมาะกับมือใหม่หัดขับ ประกันรถยนต์นั้นมีหลายประเภท แต่ละประเภทก็มีค่าเบี้ยประกันและความคุ้มครองที่แตกต่างกันไป ซึ่งประกันรถยนต์ที่ได้รับความนิยมสำหรับมือใหม่หัดขับ ก็คงจะหนีไม่พ้น ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่มีความคุ้มครองครอบคลุมกว่าประกันรถยนต์ประเภทอื่นๆ ตามมาด้วย ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และ ประกันรถยนต์ชั้น 3+ ซึ่งมีความคุ้มครอง ดังนี้ ความคุ้มครอง ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองความเสียหายครอบคลุมทุกกรณี ทั้งอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี และไม่มีคู่กรณี เช่น...

คงเป็นปัญหาของเพื่อนๆหลายๆคนที่ไม่รู้จะเติมลมยางรถของตัวเองเท่าไหร่ดี แล้วปัจจุบันที่เติมลมยางอยู่มันถูกหรือไม่ถูกใช่ไหมล่ะครับ ?? ปัญหานี้ TIRESBID อยากมาแนะนำวิธีง่ายๆให้กับเพื่อนๆทุกคนครับเพื่อไขข้อข้องใจและเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ที่สุดครับผมไม่มีคำพูดที่ว่า “เค้าว่ามา” แน่ๆครับ เติมลมยางเท่าไหร่ดี ถึงเป็นศรีแก่รถเรา ?? เติมเท่าไหร่ถึงเหมาะสม โดยผู้เชี่ยวชาญยางรถยนต์ไทร์บิด คำแนะนำการเติมลมของรถทุกคันจะมีแปะแจ้งอยู่ที่ข้างประตูคนขับแทบทุกคันครับ จะมีลักษณะเป็นสติกเกอร์สี่เหลี่ยมเล็กๆ ซึ่งจะมีค่าการเติมลมทั้งล้อหน้าและล้อหลังซึ่งในรถบางคันระบุถึงเมื่อมีคนนั่งกี่คน บรรทุกของหลังรถควรเติมลมเท่าไหร่ กันเลยทีเดียวล่ะครับ ซึ่งค่าการเติมลมที่ควรสังเกตุจะมีเป็นหน่วย PSI (ปอนด์ตอนตารางนิ้ว) ซึ่งแล้วทำไมเราต้องเติมลมให้ตรงกับคำแนะนำที่ติดอยู่ที่ข้างรถด้วยล่ะครับ?? ก็เพราะว่าค่าเติมลมจริงๆแล้วนั่นควรเติมให้สัมพันธ์กับน้ำหนักที่ตกต่อล้อและทางผู้ผลิตรถก็ได้คำนวนออกมาเป็นค่าการเติมลมที่เหมาะสมมาเรียบร้อยแล้วเพื่อให้ยางนั่นสามารถตอบสนองการขับขี่กับสมรรถนะของรถในแต่ละคันได้อย่างดีที่สุดครับ แต่ถามว่าเราไม่อยากเติมตามที่แจ้งได้ไหมได้แน่นอนครับเพราะเพื่อนๆแต่ละคนมีลักษณะการขับขี่ที่ไม่เหมือนกันชอบความแข็งความนุ่มแตกต่างกันดังนั่นการเติมลมจากค่าที่ผู้ผลิตรถกำหนดนั่น ไทร์บิดแนะนำ บวกลบไม่ควรเกิน 3 PSI ครับ จะยังถือว่าเป็นค่าการเติมลมที่เหมาะสมกับรถอยู่ครับ แต่ไม่แนะนำอย่างยิ่งเลยครับถ้าเพื่อนๆจะเติมลมมากกว่าบวกลบ 6 PSI เพราะจะส่งผลต่อการใช้งานทั้งของยางและสมรรถนะของรถอย่างมากครับ กรณีการเติมลมยางน้อยเกินไปนั่นส่งผลเสียต่อยางอย่างมากเพราะยางนั่นจะรับน้ำหนักไม่ได้และความร้อนภายในท้องยางจะสูงซึ่งโอกาสเสี่ยงทำให้ยางระเบิดได้ง่ายๆเลยครับ ยังไม่พูดถึงอายุการใช้งานนะครับก็ลดน้อยลงตามไปด้วย ส่วนเรื่องสมรรถนะการขับขี่ของรถนั่นก็จะตอบสนองช้าไปด้วยครับจะหักซ้ายหักขวากว่ารถจะเลี้ยวก็ไม่ได้ดั่งใจครับซึ่งเป็นสาเหตุให้รถแหกโค้งและท้ายปัดได้ครับ ถือว่าอันตรายต่อการขับขี่มากๆครับ   กรณีการเติมลมยางสูงไปแน่นอนครับอะไรที่มากไปก็ไม่ดีอยู่แล้วยิ่งเติมลมมากยิ่งมีโอกาสที่ยางจะแตกระเบิดได้ง่ายกว่าในกรณีที่ไปกระแทกหรือตกหลุม อีกทั้งในเรื่องการสัมผัสพื้นถนนของหน้ายางก็จะน้อยตามไปด้วยเหมือนกันครับเพราะหน้ายางบริเวณร่องกลางจะป่องมากที่สุดซึ่งจะทำให้หน้าสัมผัสของยางเกาะพื้นถนนได้ไม่เต็มหน้าครับ...