ในแต่ละปีนอกจากที่เราจะต้องต่อประกันรถยนต์แล้ว แน่นอนว่ายังมีเรื่องของการ ต่อภาษีรถยนต์ รวมด้วยอีก ซึ่งหากภาษีรถยนต์คันไหนใกล้หมดอายุ และต้องการต่อภาษีรถยนต์ หรือ ชำระภาษีรถยนต์ ในช่วงนี้ แต่ไม่อยากออกไปข้างนอกให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ละก็ วันนี้ masii ก็มีวิธีชำระภาษีรถยนต์ออนไลน์ จากกรมการขนส่งทางบกมาฝากกัน งานนี้บอกเลยว่า รถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปี ก็สามารถต่อภาษีออนไลน์ได้แล้วนะ ไปดูรายละเอียดกันเลยค่ะว่ามีอะไรบ้าง
ชำระภาษีรถออนไลน์ เลี่ยงโควิด-19 รถอายุเกิน 7 ปี ก็ทำได้
ในช่วงที่สถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยและเป็นการลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ นอกจากจะมีการซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์แล้ว ยังมีการชำระภาษีรถยนต์ออนไลน์อีกด้วย ซึ่งทางกรมการขนส่งทางบก ได้มีบริการรับชำระภาษีรถประจำปีผ่านระบบออนไลน์ โดยสามารถชำระภาษีรถยนต์ หรือ ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ล่วงหน้าได้ภายใน 90 วันก่อนวันหมดอายุ โดยไม่ต้องเดินทางมายังกรมขนส่งให้ยุ่งยาก
ทั้งนี้ สำหรับรถยนต์ที่ค้างชำระภาษีเกินกว่า 1 ปี หรือ รถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 หรือ รถมอเตอร์ไซค์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี ต้องนำรถเข้าตรวจสภาพรถที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ก่อนทำการชำระภาษีรถยนต์ออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก https://eservice.dlt.go.th หรือ แอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax สามารถเลือกชำระเงินผ่าน e-Banking บัตรเครดิต/บัตรเดบิต หรือ เคาน์เตอร์ธนาคาร/สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ
ขั้นตอนการชำระภาษีรถออนไลน์
1. รถยนต์ที่มีอายุ 7 ปีขึ้นไป และรถมอเตอร์ไซค์ที่มีอายุ 5 ปีขึ้นไป ต้องตรวจสภาพรถก่อน
สำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งาน 7 ปีขึ้นไป และรถมอเตอร์ไซค์ที่มีอายุการใช้งาน 5 ปีขึ้นไป ต้องตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) โดยใช้เอกสารคือ เล่มทะเบียนรถยนต์ตัวจริงหรือสำเนา ซึ่งข้อมูลจาก ตรอ. จะส่งไปที่กรมการขนส่งทางบกทันที เพียงแต่เก็บเอกสารไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น โดยสามารถตรวจสภาพรถได้ก่อนภาษีประจำปีหมดอายุ 3 เดือนล่วงหน้า
2. ต้องต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ ก่อนชำระภาษีรถยนต์
ก่อนที่จะชำระภาษีรถยนต์ประจำปีได้ รถยนต์ทุกคันจะต้องทำการ ต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ เพื่อนำเอกสารมาใช้ในการชำระภาษี โดยสามารถ ต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ ที่ตรอ. หรือซื้อ พ.ร.บ. รถยนต์ จากบริษัทประกัน หรือจากเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบกก็ได้ โดยราคา พ.ร.บ. รถยนต์โดยสารที่นั่งไม่เกิน 7 คน ราคาประมาณ 600 บาทต่อปี ส่วน พ.ร.บ.มอเตอร์ไซค์ ขนาดเครื่องยนต์น้อยกว่า 75 ซีซี ประมาณ 162 บาท
3. เข้าเว็บไซต์เพื่อชำระภาษีรถยนต์ออนไลน์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ง่ายๆ เพียงเข้าเว็บไซต์กรมขนส่งทางบก https://eservice.dlt.go.th จากนั้นเข้าสู่ระบบ หรือหากยังไม่เคยใช้งาน ให้ลงทะเบียนสมาชิกใหม่ เมื่อเข้าสู่ระบบแล้วให้ลงทะเบียนรถยนต์ที่ต้องการชำระภาษีประจำปี โดยระบุ ประเภทรถยนต์ จังหวัด เลขทะเบียนรถยนต์ และชื่อผู้ครอบครองรถ จากนั้นติ๊กเลือกรถยนต์ และคลิกยื่นชำระภาษี
4. ชำระเงินภาษีตามช่องทางที่กำหนด
เมื่อระบุข้อมูลต่างๆ ครบถ้วนแล้ว ไม่ว่าจะเป็น รายละเอียดรถ ข้อมูล พ.ร.บ.รถยนต์ และสถานที่จัดส่งเอกสาร เว็บไซต์จะแสดงรายละเอียดเงินภาษีมาให้ จากนั้นคลิกเลือกวิธีการชำระเงิน โดยสามารถเลือกชำระผ่านบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต ชำระผ่านเคาน์เตอร์บริการ ชำระผ่านตู้เอทีเอ็ม หรืออินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง
5. รอรับป้ายภาษีส่งมาตามที่อยู่ที่ระบุไว้
หลังจากที่ดำเนินการชำระภาษีรถยนต์ออนไลน์เรียบร้อยแล้ว จะใช้เวลาประมาณ 3-5 วันทำการ เพื่อรับป้ายภาษี หรือป้ายวงกลม ที่ส่งมาตามที่อยู่ที่ระบุไว้
ในช่วงที่เชื้อโควิด-19 ยังคงระบาดอยู่อย่างนี้ หากมีวิธีใดที่สามารถหลีกเลี่ยงและช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิดได้ ก็ถือว่าดีมากๆ ดังเช่นวิธีชำระภาษีออนไลน์ ที่มาสินำมาฝากกันในวันนี้ หากใครที่ต้องการต่อภาษีรถยนต์ ก็สามารถต่อภาษีรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ดังกล่าวได้เลย ที่สำคัญอย่าลืมขับขี่รถยนต์กันอย่างปลอดภัยด้วยนะ
สนใจสมัครประกันรถยนต์
เพื่อการขับขี่อย่างอุ่นใจ เพื่อนๆ สามารถซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือเปรียบเทียบประกันรถยนต์ชั้นอื่นๆ ได้ เพียง คลิกที่นี่ หรือโทร. 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ เกี่ยวกับ ประกันรถยนต์ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันภัยโดรน ประกันโควิด-19 และประกันภัยอื่นๆ จากมาสิได้เลยค่ะ
