ช่วงนี้ก็เข้าใกล้ช่วงปีใหม่แล้ว ใครที่มีแพลนจะไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด ก็คงเตรียมตัววางแผนกันเป็นอย่างดีแล้วใช่ไหมล่ะ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือแม้แต่การเช่ารถขับ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี บางคนอาจเดินทางไปด้วยเครื่องบิน รถทัวร์ หรือรถไฟก่อน แล้วจึงหารถเช่าในพื้นที่นั้นๆ ขับเดินทางไปยังจุดหมายหรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ต่อไป แต่ทว่าบริษัทรถเช่านั้นก็มีให้เลือกมากมาย เราจึงควรเลือกบริษัทที่น่าเชื่อถือ และเมื่อเช่ารถมาแล้ว ก่อนรับรถเช่า ก็ควรต้องเช็กรถให้ดีๆ แต่จะต้องเช็กอะไรบ้างนั้น เราตาม masii ไปหาคำตอบกันเลยค่ะ
ก่อนรับรถเช่า ต้องเช็กอะไรบ้าง
อย่างที่บอกไปว่าทุกวันนี้บริษัทเช่ารถนั้นมีมากมาย ผู้เช่าจึงจำเป็นต้องศึกษาหารายละเอียดให้ดีๆ เพราะบางที่อาจนำรถสภาพไม่ดีมาให้เราขับได้ ดังนั้นก่อนที่เราจะรับรถจากที่เช่ารถ ก็ต้องทำการตรวจเช็กรถให้ละเอียด เพื่อการขับขี่อย่างปลอดภัย และสร้างความอุ่นใจให้กับผู้เช่ารถด้วยว่าจะไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลังนั่นเอง
1. ตรวจสอบรอยขีดข่วนรอบคัน
หลังจากที่รับรถมาเป็นอันดับแรก ทางผู้ให้เช่ารถจะมีเอกสารแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับตัวรถให้คุณทราบ ว่าตัวรถมีรอยขีดข่วน รอยบุบตรงไหนบ้าง ซึ่งเราก็ควรตรวจสอบเพิ่มเติมด้วยว่ามีรอยอื่นๆ ตรงไหนอีกหรือเปล่า ถ้ามีให้แจ้งเจ้าหน้าที่หรือถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อใช้ยืนยันว่าร่องรอยดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่เราจะนำรถเช่าคันนั้นไปขับ ป้องกันการเข้าใจผิดของทางบริษัทรถเช่านั่นเอง
2. เช็กสภาพช่วงล่าง
ขึ้นชื่อว่า รถเช่า แน่นอนว่าต้องผ่านการขับขี่มาหลากหลายรูปแบบ ซึ่งทำให้รถอาจเกิดการเสื่อมสภาพได้ ซึ่งก่อนที่เราจะรับรถเช่ามาขับ ก็ควรเช็กช่วงล่างรถยนต์ก่อนว่ามีสภาพดีไหม หากไม่สามารถบังคับพวงมาลัยไปในทางตรงได้ หรือมีอาการขับเป๋ วิ่งไม่ตรง หรือมีเสียงดังกุกกักจากช่วงล่าง ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ที่มาส่งรถและทำเรื่องขอเปลี่ยนรถคันใหม่จะดีที่สุด
3. เช็คเบรก
ที่สำคัญเลยอย่าลืมเช็กเบรกรถยนต์ด้วย ว่าสามารถใช้งานได้ปกติหรือไม่ เบรกมีเสียงดังหรือเปล่า โดยควรตรวจสอบทั้ง เบรกปกติ และเบรกมือ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่นั่นเอง
4. ตรวจสอบไฟเลี้ยว ไฟหน้า ไฟท้าย และไฟเบรก
เช็กสัญญาณไฟเลี้ยว ไฟหน้า ไฟท้าย และไฟเบรกว่าสามารถใช้งานได้ปกติดี ไม่มีดวงไหนดับ พร้อมกับตรวจสอบปุ่มเปิดปิดไฟว่าอยู่ตรงไหน เมื่อถึงเวลาเปิดไฟจะได้ไม่งง โดยเฉพาะไฟเลี้ยว เพราะรถบางคันอาจมีที่เปิดไฟเลี้ยวต่างกัน เช่น รถยุโรป กับ รถญี่ปุ่น ที่มักสลับที่กับไฟเลี้ยวและที่ปัดน้ำฝน ยังไงก็ลองเช็กดูว่าไฟเลี้ยวอยู่ตรงไหน รวมถึง ที่ปัดน้ำฝน ว่าใช้งานปกติหรือเปล่า
5. เช็กน้ำมันเชื้อเพลิงก่อนขับ
โดยทั่วไปแล้ว ทางบริษัทเช่ารถจะทำการเติมน้ำมันรถให้เต็มถังอยู่แล้ว (เมื่อเวลาคืนรถ เราก็ต้องเติมน้ำมันเต็มถังคืนให้เช่นกัน) แต่ก็ควรเช็กระดับน้ำมันเชื้อเพลิงก่อนว่าอยู่ในระดับเต็มหรือไม่ เพื่อเป็นการไม่เสียเปรียบนั่นเอง แต่ก็อย่าลืมสอบถามกับบริษัทด้วยว่าต้องเติมน้ำมันประเภทไหน เวลาเติมน้ำมันคืนจะได้ไม่เติมผิดประเภทยังไงล่ะ
6. ประเภทของประกันรถยนต์
โดยส่วนใหญ่ทางบริษัทรถเช่าจะทำประกันรถยนต์ให้อยู่แล้ว แต่เราก็ควรถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนว่า รถที่เราเช่านั้นได้ทำประกันรถยนต์แบบไหน มีค่าเสียหายส่วนแรกหรือเปล่า ซึ่งค่าเสียหายส่วนแรกจะต้องเสียเฉพาะที่ผู้ขับขี่เป็นฝ่ายผิด หรือเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี
สำหรับใครที่เช่ารถมาใช้ขับขี่ในการเดินทางท่องเที่ยวแล้ว ก็ควรขับขี่อย่างระมัดระวัง ไม่ประมาท เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ ซึ่งส่วนทางบริษัทเช่ารถจะทำประกันรถยนต์ไว้อยู่แล้ว แต่หากใครที่มีรถยนต์ส่วนตัวขับและอยากทำประกันรถยนต์ละก็ สามารถ คลิกที่นี่ เพื่อเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับเว็บไซต์มาสิได้ง่ายๆ
สนใจสมัครประกันรถยนต์
หรือหากใครที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถโทร.มาพูดคุยกับทีมงานมาสิได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์มาเป็นเพื่อนกับเราที่ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อติดตามข่าวสารที่น่าสนใจและบทความดีๆ เกี่ยวกับ ประกันรถยนต์ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันบิ๊กไบค์ ประกันภัยโดรน ประกันการเดินทาง ประกันสุขภาพ รวมไปถึง สินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิต จากสถาบันการเงินชั้นนำได้เลยค่ะ
