ถ้าพูดถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุจากรถยนต์ นอกจากจะมี รถชน ยางระเบิด หรือเครื่องยนต์ขัดข้องแล้ว ปัญหาเกี่ยวกับเบรกรถยนต์ หรือ เบรกแตก ก็เป็นสาเหตุต้นๆ ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ แล้วอย่างนี้หากเราทำประกันรถยนต์ไว้ แต่อยู่ดีๆ รถเบรกแตกขึ้นมา ประกันรถยนต์ที่ทำไว้ จะคุ้มครองอย่างไรบ้าง เราไปหาคำตอบพร้อมกับ masii กันเลยค่ะ
รถเบรกแตก ประกันคุ้มครองอย่างไร
รถเบรกแตก คือการที่เหยียบเบรกลงไปแล้ว รถไม่สามารถชะลอความเร็วและไม่สามารถหยุดรถได้ตามที่ต้องการ โดยอาจมีสาเหตุมาจาก ผ้าเบรกไหม้ น้ำมันเบรกหมดหรือเสื่อมสภาพ ท่อน้ำมันเบรกรั่ว น้ำมันเบรกชื้น ทำให้ลูกสูบไม่ทำงาน และไม่สามารถเบรกได้ ทำให้รถอาจไปชนกับสิ่งต่างๆ จนเกิดความเสียหาย ซึ่งหากถามว่า รถเบรกแตก ประกันคุ้มครองอย่างไร จะขอแยกเป็นสองกรณี ดังนี้
1. เบรกแตก หรือเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา
หากรถยนต์เบรกแตกหรือไม่สามารถเบรกได้ตามปกติ แต่ว่าไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ ขึ้นกับรถยนต์หรือบุคคลอื่น ในกรณีนี้จะถือว่าเป็นความเสียหายที่ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ หรือไม่ได้เกิดความเสียหายจากการการะทำของบุคคลภายนอก ซึ่งความเสียหายดังกล่าวจะไม่ได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัย ซึ่งอ้างอิงจากกรมธรรม์ของประกันภัยรถยนต์ ในหมวดความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ ข้อ 7.2 ระบุข้อยกเว้นที่ประกันภัยจะไม่คุ้มครอง ดังนี้
“การแตกหักของเครื่องจักรกลไกของรถยนต์ หรือการเสียหายหรือการหยุดเดินของเครื่องจักรกลไก หรือเครื่องไฟฟ้าของรถยนต์อันมิได้เกิดจากอุบัติเหตุ”
2. เบรกแตก จนเป็นสาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุ
แต่หากรถเบรกแตกแล้วส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อเนื่อง เช่น รถชน หรือพลิกคว่ำ ทำให้รถยนต์เสียหาย หรือสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน ชีวิต ร่างกายและอนามัยของผู้เอาประกันรวมไปถึงบุคคลอื่น ในกรณีนี้ทางบริษัทประกันจะต้องชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้ในกรมธรรม์
รถเบรกแตก ทำอย่างไรดี
หากขับรถไปอยู่ดีๆ แล้วเกิดเบรกแตก เหยียบเบรกไม่ได้ ทำยังไงรถก็ไม่หยุดวิ่ง อันดับแรกให้ใจเย็นๆ ตั้งสติ แล้วทำตามคำแนะนำนี้เลยจ้า
- ลดคันเร่งลงทันที และพยายามประคองรถไว้ให้ชิดซ้าย จับพวงมาลัยไว้ให้มั่น
- บีบแตร หรือเปิดไฟฉุกเฉิน เพื่อส่งสัญญาณเตือนให้รถคันอื่นรู้
- หากใช้เกียร์ธรรมดา ให้เหยียบคลัตช์แล้วเปลี่ยนไปที่เกียร์ต่ำ
- หากใช้เกียร์ออโต้ ถ้าที่เกียร์มีปุ่ม Overdrive ให้ใช้โหมด Overdrive หรือเปลี่ยนจาก D มาเป็น 3 ห้ามเปลี่ยนมาเป็น L เด็ดขาด เพราะอาจทำให้รถเสียหลักและเครื่องยนต์พังได้
- ค่อยๆ ดึงเบรกมือขึ้นช้าๆ จนสุด ห้ามดึงเบรกมือขึ้นทันทีเพราะจะทำให้รถหมุน ควบคุมได้ยาก และรถอาจคว่ำได้
เรื่องของอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา นอกจากเราจะต้องขับรถอย่างมีสติ ไม่ประมาทแล้ว ก็อย่าลืมตรวจเช็กสภาพรถยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ หากเห็นว่าชิ้นส่วนใดเริ่มเสื่อมสภาพก็ให้รีบซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ ป้องกันการชำรุดสึกหรอ และลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุได้ แต่อย่างไรแล้วมาสิแนะนำให้ทำประกันรถยนต์ไว้ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุก็ยังได้รับความคุ้มครองอยู่นั่นเอง
สนใจสมัครประกันรถยนต์
ทั้งนี้หากใครสนใจอยากทำประกันรถยนต์ เพียง คลิกที่นี่ ก็สามารถเปรียบเทียบประกันรถยนต์ได้ หรือโทร.ติดต่อกับมาสิได้เลยที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์มาเป็นเพื่อนกับเราที่ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือติดตามข่าวสารที่น่าสนใจเกี่ยวกับประกันรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น ประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือประกันรถยนต์ชั้น 3+ รวมไปถึง ประกันมอเตอร์ไซค์ และสินเชื่อส่วนบุคคล หรือบัตรเครดิตประเภทต่างๆ ได้เลยค่ะ